ไม่ใช่เรื่องอัจฉริยะเลยที่จะเห็นว่าโครงการไซออนนิสต์ที่ล้มเหลวที่เรียกว่าอิสราเอลกำลังแตกสลาย อย่างไรก็ตาม มันเป็นความอัจฉริยะที่ทำนายการล่มสลายของรัฐที่เพิ่งเกิดใหม่นี้ เมื่อเขาถูกขอให้ช่วยระดมทุนสำหรับห้องขังผู้ก่อการร้าย สิบปีก่อนที่จะประกาศรัฐ "เอกราช" ในปี 1948 บนแผ่นดินที่ปล้นไปจากชาวปาเลสไตน์

       สิบปีก่อนที่รัฐจะประกาศ "เอกราช" ในปี 1948 บนแผ่นดินที่ปล้นไปจากชาวปาเลสไตน์ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ บรรยายถึงการเสนอให้สร้างอิสราเอล ว่าเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับ "ลักษณะสำคัญของศาสนายิว" หลังจากหนีจากเยอรมนีของฮิตเลอร์และกลายเป็นพลเมืองสหรัฐฯ ในที่สุด ไอน์สไตน์ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ว่า ลัทธิฟาสซิสต์มีหน้าตาเป็นอย่างไร

      ไอน์สไตน์ เป็นหนึ่งในนักฟิสิกส์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และได้รับการสนับสนุนจากปัญญาชนชาวยิวผู้มีชื่อเสียงคนอื่นๆ เขามองเห็นข้อบกพร่องและเส้นรอยเลื่อนในปี 1946 เมื่อเขาปราศรัยกับคณะกรรมการสอบสวน แองโกล-อเมริกัน ในประเด็นปาเลสไตน์ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมอิสราเอลถึงต้องการ ไอน์สไตน์กล่าวว่า “ผมเชื่อว่ามันไม่ดี”

      สองปีต่อมาในปี พ.ศ. 2491 เขาและนักวิชาการชาวยิวจำนวนหนึ่งได้ส่งจดหมายถึงนิวยอร์กไทมส์ เพื่อประท้วงต่อต้านการเยือนอเมริกาของ เมนาเคม บีกิน ในจดหมายที่มีเอกสารครบถ้วน พวกเขาประณามพรรคเฮรุต (เสรีภาพ) ของบีกิน โดยเปรียบพรรคดังกล่าวเป็น “พรรคการเมืองที่มีความคล้ายคลึงอย่างใกล้ชิดในด้านการจัดองค์กร วิธีการ ปรัชญาการเมือง และความดึงดูดทางสังคมต่อพรรคนาซีและฟาสซิสต์”

      เฮรุต เป็นพรรคชาตินิยมฝ่ายขวา ซึ่งต่อมากลายเป็นพรรคลิคุด ที่นำโดยเบนจามิน เนทันยาฮู ในฐานะผู้นำของกลุ่มก่อการร้ายไซออนนิสต์กลุ่ม Irgun ซึ่งแยกตัวออกจากกลุ่ม Haganah ซึ่งเป็นองค์กรทหารกึ่งทหารขนาดใหญ่ของชาวยิว เมนาเคม บีกิน เป็นที่ต้องการตัวจากกิจกรรมก่อการร้ายเพื่อต่อต้านหน่วยงานในอาณัติของอังกฤษ แม้ว่าเขาจะเป็นนายกรัฐมนตรีของอิสราเอล (พ.ศ. 2520-2526) เขาก็ไม่เคยกล้าไปเยือนอังกฤษ ซึ่งเขายังคงอยู่ในรายชื่อที่ต้องการตัวมากที่สุด

      ความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจนถึงการกำเนิดของอิสราเอลเองที่ทำให้ไอน์สไตน์ รู้สึกรังเกียจเป็นพิเศษ และไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในความคิดของเขา เมื่อเขาปฏิเสธข้อเสนอที่จะเป็นประธานาธิบดีของอิสราเอล ข้อเสนอนี้มอบให้เขาในปี 1952 โดย เดวิด เบนกูเรียน นายกรัฐมนตรีผู้ก่อตั้งรัฐ ไอน์สไตน์เชื่อว่า บทบาทดังกล่าวจะขัดแย้งกับมโนธรรมของเขาในฐานะผู้รักสันติ และความจริงที่ว่า เขาจะต้องย้ายไปยังตะวันออกกลางจากบ้านของเขาใน พรินซ์ตัน รัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งเขาตั้งรกรากเป็นผู้ลี้ภัยชาวเยอรมัน

      ขณะที่ค้นคว้าความคิดเห็นของไอน์สไตน์ บังเอิญพบจดหมายอีกฉบับของเขา ซึ่งไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก แต่น่าจะเปิดเผยมากกว่าจดหมายอื่นๆ ที่เขาเขียนเกี่ยวกับปาเลสไตน์ แม้ข้อความในจดหมายจะสั้นเพียง 50 คำ แต่รวมคำเตือนของเขาเกี่ยวกับ “หายนะครั้งสุดท้าย” ที่ปาเลสไตน์เผชิญอยู่ในเงื้อมมือของกลุ่มก่อการร้ายไซออนิสต์

      จดหมายฉบับนี้เขียนขึ้นไม่ถึง 24 ชั่วโมง หลังจากข่าวกรองเกี่ยวกับการสังหารหมู่ที่ดัยร์ยาซซีน ในกรุงเยรูซาเลมตะวันตก ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2491 ผู้ก่อการร้ายประมาณ 120 คนจาก กลุ่มIrgun ของบีกิน และแก๊งสเติร์น ซึ่งนำโดย ยิตซัก เบน-ซวี ผู้ก่อการร้ายอีกคนหนึ่งซึ่งต่อมาได้เป็นนายกรัฐมนตรีของอิสราเอล เข้าไปในหมู่บ้านชาวปาเลสไตน์และสังหารผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กไปประมาณ 100 ถึง 250 คน บางคนเสียชีวิตจากกระสุนปืน บางคนโดนระเบิดมือที่ถูกขว้างเข้าไปในบ้านของพวกเขา คนอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านอันเงียบสงบแห่งนี้ถูกสังหารหลังจากถูกพาตัวไปร่วมขบวนพาเหรดสุดพิสดารผ่านกรุงเยรูซาเลมตะวันตก นอกจากนี้ยังมีรายงานเรื่องการข่มขืน การทรมาน และการทำร้ายร่างกายด้วย

      หนึ่งเดือนต่อมา อังกฤษยุติการปกครองในอาณัติของตนในปาเลสไตน์ และอิสราเอลก็ถือกำเนิดขึ้น ความชอบธรรมที่ผู้ก่อตั้งอ้าง ข้ออ้าง คือ ข้อมติแบ่งสัดส่วนของสหประชาชาติในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2490 ซึ่งเสนอให้ปาเลสไตน์แบ่งออกเป็นสองรัฐ หนึ่งรัฐยิวและหนึ่งรัฐอาหรับ โดยที่กรุงเยรูซาเล็มปกครองโดยอิสระจากทั้งสองฝ่าย

      จดหมายพิมพ์ของไอน์สไตน์จ่าหน้าถึง เชพเพิร์ด ริฟคิน กรรมการบริหารของ American Friends of the Fighters for the Freedom of Israel ซึ่งประจำอยู่ในนิวยอร์ก เดิมทีกลุ่มนี้เปิดตัวเพื่อส่งเสริมแนวคิดต่อต้านอังกฤษของแก๊งสเติร์น และระดมเงินในอเมริกาเพื่อซื้ออาวุธเพื่อขับไล่อังกฤษออกจากปาเลสไตน์ ริฟคินได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการบริหาร แม้ว่าภายหลังเขาจะเรียกว่า "แพะรับบาป" ก็ตาม เขาได้รับแจ้งจากเบนจามิน เกปเนอร์ ผู้บัญชาการที่เยือนสหรัฐฯ ให้ติดต่อไอน์สไตน์เพื่อขอความช่วยเหลือ เชพเพิร์ด ริฟคิน ปฏิบัติตามหน้าที่อย่างถูกต้อง แต่หลังจากการสังหารหมู่ที่ดัยร์ยาซซีน เขาได้รับคำตอบอันแสนสาหัสจากนักฟิสิกส์ ซึ่งเขียนขึ้นด้วยประโยคคำพูดเพียง 50 คำ :

      จดหมายดังกล่าวได้รับการรับรองตรวจความถูกต้องและขายทอดตลาดเมื่อมีการปรากฏอีกครั้ง และนับแต่นั้นมา ได้รับการอธิบายว่า เป็นหนึ่งในเอกสารต่อต้านไซออนิสต์ที่น่าสยดสยองที่สุดอันเนื่องมาจากผู้อัจฉริยะรายนี้

      น้ำเสียงและเนื้อหาไม่แตกต่างไปจากจดหมายที่เขาเขียนถึงแมนเชสเตอร์การ์เดียน ในปี 1929 เมื่อเขายกย่อง "ผู้บุกเบิกรุ่นเยาว์ ชายและหญิงชาวปาเลสไตน์ที่มีความสามารถทางปัญญาและศีลธรรมอันงดงาม ทำลายหินและสร้างถนนภายใต้รังสีความร้อนอันลุกโชนของดวงอาทิตย์” และ “การตั้งถิ่นฐานทางการเกษตรที่เจริญรุ่งเรืองงอกเงยขึ้นมาจากพื้นดินที่รกร้างมายาวนาน… การพัฒนาพลังงานน้ำ… (และ) อุตสาหกรรม… และเหนือสิ่งอื่นใด การเติบโตของระบบการศึกษา… นักสังเกตการณ์… ไม่สามารถเป็นได้ ถูกครอบงำด้วยเวทมนตร์แห่งความสำเร็จอันน่าอัศจรรย์และการอุทิศตนเหนือมนุษย์เช่นนี้?”

     ไอน์สไตน์มีมุมมองของเขาเกี่ยวกับขณะที่เขาไปเยือนปาเลสไตน์เป็นเวลา 12 วัน ในปี พ.ศ. 2466 โดยบรรยายที่มหาวิทยาลัยฮิบรูแห่งเยรูซาเลม กลายเป็นการมาเยือนดินแดนศักดิ์สิทธิ์เพียงครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายของเขา

     ในฐานะผู้รักความสงบตลอดชีวิต พระองค์ทรงเป็นที่รักต่อขบวนการสันติภาพทั่วโลก เมื่อเขาเขียน “แถลงการณ์ถึงชาวยุโรป” เพื่อขอสันติภาพในยุโรปผ่านการรวมตัวกันทางการเมืองของทุกรัฐทั่วทวีป ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาไม่เคยไปเยือนรัฐอิสราเอล ที่เกิดขึ้นจากกระบอกปืน ไดนาไมต์ และเลือดของชาวปาเลสไตน์

     มี “ดัยร์ยาซซีน” มากมายนับตั้งแต่ไอน์สไตน์ผู้ได้รับรางวัลโนเบลประณามสิ่งที่เขาเห็นว่า เป็นการก่อการร้ายของชาวยิวโดยสิ้นเชิง ปัจจุบัน กาซายังคงคุกรุ่นอยู่จากการโจมตีทางทหารอันโหดร้ายครั้งล่าสุดของเบนจามิน เนทันยาฮู ต่อประชากรพลเรือนที่ไม่มีอาวุธจำนวนมาก อนาคตของรัฐไซออนิสต์จึงดูไม่มั่นคงไปกว่านี้อีกแล้ว

     ซามิรา โมฮีดดิน พิธีกรและโปรดิวเซอร์ของ CBC กล่าวว่า

      เราได้รับข้อมูลว่า อาชีพทางการเมืองทั้งหมดจบลงด้วยความล้มเหลว และอาชีพนักการเมืองอย่าง เนทันยาฮู เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น เรายังบอกด้วยว่า การล่มสลายทางสังคมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วยการล่มสลายของรัฐบาล (อิสราเอล) อย่างต่อเนื่อง และความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น มักเกิดจากสงครามและหายนะ

      อิสราเอลจัดการเลือกตั้งทั่วไปสี่ครั้งในเวลาเพียงสองปี ซึ่งไม่สามารถสร้างรัฐบาลที่มั่นคงได้ วิธีของเนทันยาฮูในการรักษาอำนาจของเขาคือการแสดงให้เห็นว่า เขาคือผู้แข็งแกร่งที่ประเทศจำเป็นต้อง "ปกป้อง" ตัวเองจาก "ผู้ก่อการร้าย" ชาวปาเลสไตน์

      ยิ่งไปกว่านั้น อยู่ภายใต้การดูแลของเขาว่า กฎหมายรัฐชาติยิวได้ผ่านพ้นไปแล้ว ซึ่งเป็นกฎหมายที่ขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างที่ว่า อิสราเอลมีประชาธิปไตยแบบเสรีนิยม

      ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ชาวยิวจำนวนมากทั่วโลก ในชื่อที่อิสราเอลอ้างว่ามีอยู่และกระทำเหมือนกับที่ไอน์สไตน์เคยเป็น ถูกรังเกียจโดยปรัชญาการเมือง “นาซีและฟาสซิสต์” ของเฮรุต ซึ่งดูเหมือนว่า จะกลับชาติมาเกิดใหม่ภายใต้ลิคุด และพรรคการเมืองที่อยู่ไกลออกไปทางด้านขวาของสเปกตรัมทางการเมือง แท้จริงแล้ว คนดีจากทุกศาสนา และไม่มีใครรู้สึกตกใจที่ลัทธิหัวรุนแรงฝ่ายขวาดูเหมือนจะกลืนกินสังคมกระแสหลักในอิสราเอลโดยรวม

      อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์ชาวยิวที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ รู้จากแนวคิดนองเลือดที่ว่า อิสราเอลสร้างและบริหารโดยกลุ่มฝ่ายขวาหัวรุนแรง การถือปืนไม่สามารถจะทำได้ มันไม่ควรให้ผู้มีอัจฉริยะมาบอกเราเช่นนั้น แต่มันก็เป็นเช่นนั้น

บทความ : aka Maryam Ridley

Copyright © 2023 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่