เปิดประวัติศาสตร์ภาพเก่าแก่ที่สุดของการเดินเท้าเพื่อรำลึกถึง"อัรบะอีน" อิมามฮูเซน (อ.)

จากข้อมูลที่มีบันทึกไว้ในหนังสือ "มิซารุชชีอะฮ์" ของเชคมุฟีดและในหนังสือ "มิศบาฮุลมุตะฮัจญิด" ของเชคฏูซี (ลูกศิษย์ของเชคมุฟีด) ได้บันทึกไว้ว่า วันอัรบะอีนเป็นช่วงเวลาที่กองคาราวานของครอบครัว (อะฮ์ลุลบัยติ์) เดินทางมาจากดามัสกัสเพื่อกลับสู่เมืองมะดีนะฮ์ นอกจากนี้ตามคำรายงานอีกบันทึกหนึ่งของเชคมุฟีด ท่านญาบิร บินอับดุลลอฮ์ อันซอรี เป็นหนึ่งในบุคคลแรกๆ ที่มาเยือนหลุมฝังศพของท่านอิมามฮุเซน (อ.)

คำว่า "อัรบะอีน" ในทางภาษาหมายถึง "สี่สิบ" และในรูปคำที่ใช้เฉพาะนั้นหมายถึง วันที่ 20 ของเดือนซอฟัร ปีฮิจญ์เราะฮ์ศักราชที่ 61 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 40 วันแห่งการเป็นชะฮีด (เสียชีวิต) ของท่านอิมามฮุเซน (อ.) วันซึ่งนับเป็นระยะเวลายาวนานนับหลายศตวรรษมาแล้วที่ชาวชีอะฮ์จะแสดงออกซึ่งความรักและความผูกพันต่อท่านอิมามฮุเซน (อ.) ในฐานะที่เป็นหนึ่งในอะฮ์ลุลบัยติ์ (อ.) ลูกหลานในวงค์วานของท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) ซึ่งแต่ละปีมีบรรดาผู้ที่รักและศรัทธาจะเดินทางไปซิยาเราะฮ์ (เยือน) หลุมฝังศพของท่าน ณ แผ่นดินกัรบาลา และโดยเฉพาะในช่วงหลายปีมานี้จะมีประชาชนจากนานาประเทศทั่วทุกมุมโลกจำนวนนับสิบล้านคนเดินทางไปเยือนหลุมฝังศพของท่าน

ใครคือคนแรก ๆ ที่เดินทางไปยังหลุมฝังศพของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ในวันอัรบะอีน?

จากข้อมูลที่มีบันทึกไว้ในหนังสือ "มิซารุชชีอะฮ์" ของเชคมุฟีดและในหนังสือ "มิศบาฮุลมุตะฮัจญิด" ของเชคฏูซี (ลูกศิษย์ของเชคมุฟีด) ได้บันทึกไว้ว่า วันอัรบะอีนเป็นช่วงเวลาที่กองคาราวานของครอบครัว (อะฮ์ลุลบัยติ์) เดินทางมาจากดามัสกัสเพื่อกลับสู่เมืองมะดีนะฮ์ นอกจากนี้ตามคำรายงานอีกบันทึกหนึ่งของเชคมุฟีด ท่านญาบิร บินอับดุลลอฮ์ อันซอรี เป็นหนึ่งในบุคคลแรกๆ ที่มาเยือนหลุมฝังศพของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ท่านได้ไปถึงแผ่นดินกัรบาลาในวันนี้ (วันที่ 20 ของเดือนซอฟัร) เพื่อการซิยาเราะฮ์ท่าน

"มุฮัมมัด อิบรอฮีม อายะตี" ได้เขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ในหน้าที่ 221 ของหนังสือ "การตรวจสอบประวัติศาสตร์ของอาชูรอ" (บัรร่อซี ตารีค อาชูรอ) ว่า : "ท่านญาบิร บินอับดุลลอฮ์ อันซอรี ได้ไปถึงยังกัรบาลาในวันที่ยี่สิบของเดือนซอฟัร ซึ่งตรงกับสี่สิบวันหลังจากการเป็นชะฮีด (เสียชีวิต) ของท่านอิมาม (อ.) พอดี และแบบอย่างในการซิยาเราะฮ์ท่านอิมามฮุเซน (อ.) ในวันอัรบะอีนได้ถูกวางรากฐานขึ้นโดยท่าน"

นอกจากนี้ตามแหล่งอ้างอิงทางประวัติศาสตร์เล่มอื่นๆ ได้เขียนไว้ว่า : "(อัรบาอีน) เป็นวันที่ท่านอิมามซัจญาด (อ.) ได้พบกับท่าน "ญาบิร บินอับดุลลอฮ์ อันซอรี" สาวกของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ในกัรบาลา ..."

ในตลอดช่วง 1379 ปีที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ในแต่ละปีที่ผ่านเหตุการณ์นี้มา จำนวนผู้คนที่ร่วมเดินทางมาซิยาเราะฮ์ท่านอิมามฮุเซน (อ.) ยังแผ่นดินกัรบาลาจะเพิ่มมากขึ้น แม้แต่ในยุคของการปกครองเผด็จการของ "ซัดดัม ฮุสเซน" ในอิรัก ซึ่งมีมาตรการปราบปรามและกดดันด้วยกฎข้อห้ามต่างๆ นานา แต่การเดินทางเยือนดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์นี้ในวันอัรบะอีนนั้นยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งการล่มสลายของระบอบเผด็จการของพรรคบาธ ในปี 2003 ซึ่งนับจากวันนั้นเป็นต้นมาการเยือน (ซิยาเราะฮ์) กัรบาลาในวันอัรบาอีนได้เกิดรูปลักษณ์ใหม่ให้เห็นปรากฎการณ์การเปลี่ยนแปลง โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาการมาเยือนดินแดนกัรบาลาและบัยนัลฮะรอมัยน์ (ฮะรัมอิมามฮุเซน (อ.) และอบุลฟัฎล์ อัลอับบาส (อ.)) ได้ขยายตัวขึ้นในรูปของการเดินขบวนชุมนุมที่เป็นที่รู้จักกันในนามคาราวาน "การเดินเท้าในพิธีอัรบะอีน"

ตามคำรายงานของประธานสภาจังหวัดกัรบาลา ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2014 (ฮ.ศ.1436) ประชาชนจากประเทศต่าง ๆ ประมาณ 20 ล้านคนได้รวมตัวกันในกัรบาลา และปีค.ศ.2015 (ฮ.ศ.1437) จำนวนผู้เข้าร่วมในพิธีอัรบะอีนของท่านอิมามฮุเซน (อ.) มีจำนวนถึง 27 ล้านคน

จนถึงปัจจุบันมหาชนที่เข้าร่วมในพิธีไว้อาลัยแด่ท่านอิมามฮุเซน (อ.) ในวันอัรบะอีนในประเทศอิรักอยู่ในระดับต้นๆ ของการชุมนุมอย่างสงบและสันติที่สุดของโลก ซึ่งรัศมีของประชาชนที่หลั่งไหลเข้ามาในพิ้นที่ครอบคลุมระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตรและใช้เวลาในการเดินสามวัน

ตามรายงานของ "ISNA" แม้จะไม่มีเทคโนโลยีเหมือนกับปัจจุบันนี้ แต่ภาพและเอกสารหลักฐานต่าง ๆ จำนวนหนึ่งของ "การเดินเท้าในพิธีอัรบะอีน" ในฐานะประเพณี (ซุนนะฮ์) ที่เก่าแก่ของชาวมุสลิมและชาวชีอะฮ์ของโลกได้ตกทอดมาให้เราได้เห็น และภาพที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุมากกว่า 100 ปี คือเป็นภาพที่ถูกบันทึกไว้ในปี ค.ศ.1909