เดือนรอมฎอนอันอันจำเริญเป็นเดือนแห่งการวิงวอนขอ (ดุอาอ์) และการภาวนา (มุนาญาต) ต่อพระผู้เป็นเจ้า เป็นเดือนที่ผู้ศรัทธาใกล้ชิดพระผู้เป็นเจ้ามากกว่า และคำวิงวอนขอของเขาใกล้ต่อการถูกตอบรับมากกว่า

    เดือนรอมฎอนอันอันจำเริญเป็นเดือนแห่งการวิงวอนขอ (ดุอาอ์) และการภาวนา (มุนาญาต) ต่อพระผู้เป็นเจ้า เป็นเดือนที่ผู้ศรัทธาใกล้ชิดพระผู้เป็นเจ้ามากกว่า และคำวิงวอนขอของเขาใกล้ต่อการถูกตอบรับมากกว่า ท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) ได้แนะนำเวลาที่ดีที่สุดในการวิงวอนขอ (ดุอาอ์) ในเดือนอันประเสริฐนี้ว่าอยู่ในช่วงเวลาของการนมาซทั้งหลาย โดยกล่าวว่า :

وَ ارْفَعُوا إِلَیْهِ أَیْدِیَکُمْ بِالدُّعَاءِ فِی أَوْقَاتِ صَلَاتِکُمْ‏ فَإِنَّهَا أَفْضَلُ السَّاعَاتِ یَنْظُرُ اللَّهُ عَزَّ وَ جَلَّ فِیهَا بِالرَّحْمَةِ إِلَی عِبَادِهِ یُجِیبُهُمْ إِذَا نَاجَوْهُ وَ یُلَبِّیهِمْ إِذَا نَادَوْهُ وَ یُعْطِیهِمْ إِذَا سَأَلُوهُ وَ یَسْتَجِیبُ لَهُمْ إِذَا دَعَوْهُ

 “และ (ในเดือนรอมฎอน) ท่านทั้งหลายจงยกมือของพวกท่านด้วยการวิงวอนต่อพระองค์ในช่วงเวลานมาซทั้งหลายของพวกท่าน เพราะแท้จริงมันคือช่วงเวลาที่ดีที่สุด ที่อัลลอฮ์ผู้ทรงเกริกเกียรติผู้ทรงเกรียงไกร จะทรงทอดพระเนตรไปยังปวงบ่าวของพระองค์ด้วยความเมตตา พระองค์จะทรงตอบพวกเขาเมื่อพวกเขาภาวนาต่อพระองค์ และจะทรงขานรับพวกเขาเมื่อพวกเขาเรียกหาพระองค์ และจะทรงให้แก่พวกเขาเมื่อพวกเขาทูลขอพระองค์ และจะทรงตอบรับพวกเขาวิงวอนขอต่อพระองค์" (1)

    ท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ได้แนะนำให้รู้ถึงเหตุผลหลายประการสำหรับการวิงวอนขอในช่วงเวลาของการนมาซ ได้แก่ :

1. เป็นช่วงเวลาที่ประเสริฐที่สุด

2. พระผู้เป็นเจ้าจะทรงมองไปยังปวงบ่าวด้วยความเมตตาในช่วงเวลานี้

3. พระองค์จะทรงตอบรับการภาวนาของปวงบ่าว

4. พระองค์จะทรงขานรับเสียงเรียกหาของพวกเขา

5. พระองค์จะทรงให้กับผู้ที่ทูลขอความต้องการต่างๆ จากพระองค์

6. พระองค์จะทรงตอบรับคำวิงวอนขอ (ดุอาอ์) ของพวกเขา

    แม้ว่ากรณีเหล่านี้จะหมายรวมถึงในเดือนอื่นๆ นอกเหนือจากเดือนรอมฎอนด้วยก็ตาม แต่เนื่องจากเดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่ปวงบ่าวจะใกล้ชิดต่อพระผู้เป็นเจ้ามากกว่า อีกทั้งม่านหมอกทางด้านศีลธรรมและพฤติกรรมของมนุษย์ (ที่จะปิดกั้นุอาอ์) ก็น้อยกว่าเดือนอื่นๆ และความจำเริญของวันทั้งหลายของเดือนรอมฎอนก็มีมากกว่า ดุอาอ์และคำอธิษฐานจึงจะได้รับการตอบรับเร็วกว่า และในขณะเดียวกัน ผู้ศรัทธาก็จะรับรู้และสัมผัสได้ดีกว่าถึงการถูกตอบรับของดุอาอ์ของตน

    อีกประเด็นหนึ่งเกี่ยวกับการที่ "สายพระเนตรแห่งความเมตตา" ของพระผู้เป็นเจ้าที่ทรงมองไปยังปวงบ่าวของพระองค์ ซึ่งจะทำให้คำอธิษฐานและดุอาอ์ของผู้ศรัทธาได้รับการตอบรับได้ง่ายกว่านั้น  "สายพระเนตรแห่งความเมตตาที่มองไปยังปวงบ่าว" หมายถึง พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ทรงคำนึงถึงบาปและความผิดพลาดที่ผ่านมาของปวงบ่าวของพระองค์ และในขณะเดียวกันพวกเขาก็คาดหวังว่าจะได้รับการอภัยโทษจากพระองค์ ในเนื้อหาส่วนหนึ่งของ "ดุอาอ์ นุดบะฮ์" เราจะวิงวอนขอให้พระผู้เป็นเจ้าทรงทอดพระเนตรมายังเราด้วยความเมตตา โดยเราจะกล่าวว่า :

وَ انْظُرْ اِلَیْنٰا نَظْرَةً رَحیمَةً، نَسْتَکْمِلُ بِهَا الْکَرٰامَةَ عِنْدَكَ ثُمَّ لاٰ تَصْرِفْهٰا عَنّٰا بِجُودِكَ

"และขอพระองค์ทรงโปรดมองมายังเหล่าข้าพระองค์ด้วยความเมตตา อันจะทำให้เหล่าข้าพระองค์ได้รับเกียรติจากพระองค์อย่างสมบูรณ์ จากนั้นด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ขอพระองค์อย่าได้ทรงหันเหมันออกไปจากเหล่าข้าพระองค์อีกเลย" (2)

ที่มา :

1. บิฮารุลอันวาร, เล่ม 96, หน้า 157; อุยูน อัคบาร อัรริฎอ, เล่ม 1, หน้า 259

2. ดุอาอ์ นุดบะฮ์, หนังสือมะฟาตีฮุลญินาน

บทความโดย : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

Copyright © 2017 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้อิสลามสำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่