การเดินขบวนในช่วงอัรบะอีน (ครบรอบสี่สิบวันของเป็นชะฮีด) ของท่านอิมามฮุเซน (อ.) เป็นหนึ่งในตัวอย่างของการแสดงพลังของโลกอิสลามและเป็นการอรรถาธิบายให้เห็นภาพจริงของโองการอัลกุรอานที่กล่าวว่า : «وَ اَعِدّوا لَهُم مَا استَطَعتُم مِن قُوَّة» "และเพื่อ (ป้องปราม) พวกเขา (บรรดาศัตรู) พวกเจ้าจงเตรียมพร้อมสิ่งที่พวกเจ้าสามารถ อันได้แก่ขุมกำลัง ... "
อัรบะอีน เป็นปรากฏการณ์ที่มีลักษณะเฉพาะที่ไม่มีปรากฏการณ์ใดในโลกนี้เสมอเหมือนและไม่สามารถอธิบายได้ หากแม้ว่า การเดินทางไปซิยารัตในวันอัรบะอีนไม่ได้ถูกเน้นย้ำไว้ในริวายะฮ์ (คำรายงาน) ต่าง ๆ และในวิถีปฏิบัติของบรรดาบรรพชนในยุคอดีตก็ตาม แต่ในปัจจุบันนี้มันได้กลายเป็นสโลแกนของชีอะห์ไปแล้ว และหากแม้ว่าจะไม่มีหลักฐานทางศาสนบัญญัติเกี่ยวกับการซิยารัตอัรบะอีนก็ตาม ก็นับได้ว่า มันคือการเคลื่อนไหวและการขับเคลื่อนทางสังคมที่มีประโยชน์อย่างมาก ซึ่งจำเป็นต้องส่งเสริมสังคมให้ดำเนินการสิ่งนี้ต่อไป
ทั้งนี้เนื่องจากว่าเมื่อพิจารณาถึงการโหมโฆษณาชวนเชื่อและการโจมตีต่าง ๆ ที่มีต่อชีอะห์ในสื่อต่าง ๆ ทั่วโลกแล้ว การเดินขบวนนี้จะช่วยทำให้หัวใจของชาวชีอะฮ์ทั่วโลกเกิดควมแข็งแกร่ง และจะแสดงให้ชนกลุ่มน้อยชาวชีอะฮ์ในส่วนอื่น ๆ ของโลกได้เห็นว่าจำนวนของชาวชีอะฮ์ก็มีไม่น้อยเลยทีเดียว
แน่นอนยิ่ง ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ สื่อโฆษณาชวนเชื่อทั้งหลายของศัตรู ด้วยการสมคบคิดกันพวกเขาจึงพยายามอย่างมากที่จะปิดข่าวการเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่นี้ ในขณะที่การชุมนุมที่มีขนาดเล็กกว่าและมีความสำคัญน้อยกว่าเหตุการณ์แห่งอัรบะอีน พวกเขากลับรายงานข่าวอย่างครอบคลุม เนื่องจากสอดคล้องกับผลประโยชน์ของบรรดามหาอำนาจ
แต่ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับอัรบะอีนที่ควรค่าแก่การใคร่ครวญ นั่นคือ :
ประการแรก การเดินขบวนอัรบะอีนในปัจจุบันนี้เป็นตัวอย่าง (มิศดาก) หนึ่งของการแสดงพลังของโลกอิสลามและเป็นการอรรถาธิบายให้เห็นภาพจริงของโองการที่พระผู้เป็นเจ้าทรงตรัสว่า :
وَأَعِدُّواْ لَهُم مَّا ٱسْتَطَعْتُم مِّن قُوَّةٍۢ وَمِن رِّبَاطِ ٱلْخَيْلِ تُرْهِبُونَ بِهِۦ عَدُوَّ ٱللَّهِ وَعَدُوَّكُمْ
"และเพื่อ (ป้องปราม) พวกเขา (บรรดาศัตรู) พวกเจ้าจงเตรียมพร้อมสิ่งที่พวกเจ้าสามารถ อันได้แก่ขุมกำลังและการผูกม้าศึก โดยที่พวกเจ้าจะทำให้ศัตรูของอัลลอฮ์ และศัตรูของพวกเจ้าหวั่นเกรงด้วยสิ่งนั้น" (1)
การเดินขบวนอัรบะอีน เมื่อพิจารณาถึงความยิ่งใหญ่ทางจิตวิญญาณของมันและจำนวนผู้คนที่เข้าร่วม นับได้ว่าเป็นสื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้อิสลาม แสดงให้เห็นถึงพลังของชาวมุสลิม และเป็นการป้องปรามบรรดามหาอำนาจของโลก สำหรับสังคมที่มีคุณธรรม (ซอและห์) นั้น การเตรียมตัวและการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับศัตรูถือเป็นหนึ่งในภาระหน้าที่ (วาญิบาต) ตามธรรมชาติ (ฟิฏเราะฮ์) ดังนั้นหน้าที่ในการปกป้องอาณาเขตของรัฐบาลอิสลามและความพยายามจัดตั้งรัฐบาลอิสลามนั้นครอบคลุมถึงสมาชิกทุกคนในสังคมด้วย ด้วยเหตุนี้จึงดูเหมือนว่าเป็นหน้าที่ (วาญิบ) สำหรับทุกคนหรือทุกกลุ่มที่มีความสามารถในการเตรียมการขั้นพื้นฐานต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการสร้างและเสริมความแข็งแกร่งให้กับการเดินขบวนของคลื่นมหาประชาชนนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ประการที่สอง ในช่วงเวลานี้ เนื่องจากความยิ่งใหญ่ของการเดินขบวนของประชาชนที่ไม่มีใครเหมือนนี้ สื่อต่าง ๆ ของเหล่าศัตรูจึงถูกบังคับให้ต้องปิดปากเงียบ แต่ด้วยการนำเสนอการวิเคราะห์ที่มีอคติและในบางครั้งก็โง่เขลา พวกเขากำลังพยายามแสดงให้เห็นการเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่นี้ดูเป็นเรื่องไร้สาระ กระนั้นก็ตาม ปรากฏการณ์(อัรบะอีน) ก็แสดงให้เห็นความจริงที่ว่า ความยิ่งใหญ่อลังการของการเดินขบวนนี้ทำให้พวกเขาต้องสับสนและวิตกกังลอย่างมาก โดยที่พวกเขาไม่อาจที่จะวิเคราะห์อย่างถูกต้องโดยปราศจากความอคติได้ แต่ถือเป็นความจำเป็นทีสื่อของเราจะต้องเป็นผู้รายงานและผู้วิเคราะห์รายแรกของปรากฏการณ์อัรบะอีนและเป็นผู้นำกระแสในการแนะนำอัรบะอีนเพื่อนำเสนอการวิเคราะห์ที่ถูกต้องและป้องกันการเผยแพร่ความเชื่อที่บิดเบือน ตามสำนวนที่กล่าวว่า การดำเนินการเพื่อให้บรรลุผลทางการเมือง เราจะต้องไม่ปล่อยให้สื่อที่มีอคติและเป็นปฏิปักษ์เป็นผู้รายงานการเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่นี้ โดยที่เราละเลยและหละหลวมในการถ่ายทอดความจริงของอัรบะอีน แล้วหลังจากนั้นเราก็ต้องมาคอยตอบข้อเคลือบแคลงสงสัยแต่เพียงอย่างเดียว
ที่มา :
1. อัลกุรอานบทอัลอันฟาล โองการที่ 60
บทความโดย : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ
Copyright © 2018 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่