แท้จริงเดือนมุฮัรรอม คือเดือนซึ่ง (แม้แต่) ชาวญาฮิลีญะฮ์ (ยุคมืด) ในอดีตที่ผ่านมา พวกเขาห้ามการกดขี่และการทำสงครามในเดือนนี้ เพื่อแสดงการเคารพให้เกียรติต่อมัน แต่ทว่าประชาชาตินี้กลับไม่รับรู้ถึงเกียรติของเดือนนี้และไม่เคารพเกียรติของท่านศาสดาของพระองค์ (ซ็อลฯ)
ในคำรายงานบทนี้เป็นที่รู้จักกันดีจากท่านอิมามริฎอ (อ.) ที่กล่าวกับร็อยยาน บินชะบีบ
ร็อยยาน บินชะบีบได้เล่าว่า : ฉันได้เข้าพบท่านอิมามริฎอ (อ.) ในวันที่หนึ่งของเดือนมุฮัรร็อม ท่านอิมามได้กล่าวกับฉันว่า “โอ้บุตรของชะบีบ! เจ้าถือศีลอดหรือไม่” ฉันตอบว่า “เปล่า ข้าพเจ้าไม่ได้ถือศีลอด”
ท่านกล่าวว่า “วันนี้คือวันที่ซะกะรียา (อ.) ได้วิงวอนของต่อพระผู้อภิบาล (ผู้ทรงเกริกเกียรติเกรียงไกร) ของเขา โดยกล่าวว่า
رَبِّ هَبْ لِی مِنْ لَدُنْكَ ذُرِّیَّةً طَیِّبَةً إِنَّكَ سَمِیعُ الدُّعاءِ
فَنَادَتْ زَكَرِیَّا وَ هُوَ قائِمٌ یُصَلِّی فِی الْمِحْرابِ أَنَّ اللَّهَ یُبَشِّرُكَ بِیَحْیى
“โอ้องค์พระผู้อภิบาลของข้า! โปรดประทานเชื้อสาย (บุตร) ที่เป็นคนดีคนหนึ่งจากพระองค์แก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด แท้จริงพระองค์ คือผู้ทรงได้ยินคำวิงวอน”
(อัลกุรอานบทอาลุอิมรอน โองการที่ 38)
ดังนั้นอัลลอฮ์จึงทรงตอบรับเขา และมะลาอิกะฮ์ได้เรียกเขา และทรงบัญชาแก่มะลาอิกะฮ์ (ทวยเทพ) ให้ลงไปพบเขา
فَنَادَتْ زَكَرِیَّا وَ هُوَ قائِمٌ یُصَلِّی فِی الْمِحْرابِ أَنَّ اللَّهَ یُبَشِّرُكَ بِیَحْیى
“มะลาอิกะฮ์ได้เรียกซะกะรียา ในขณะที่เขากำลังยืนนมาซอยู่ในมิห์รอบ (สถานที่ทำการเคารพภักดีพระเจ้า) ว่า แท้จริงอัลลอฮ์ทรงแจ้งข่าวดีแก่ท่านด้วย (บุตรคนหนึ่งคือ) ยะห์ยา”
(อัลกุรอานบทอาลุอิมรอน โองการที่ 39)
โอ้บุตรของชะบีบเอ๋ย! ใครก็ตามที่ถือศีลอดในวันนี้ และแล้วเขาก็วิงวอนขอต่อพระผู้เป็นเจ้า (ผู้ทรงเกริกเกียรติเกรียงไกร) พระองค์จะทรงตอบรับคำวอนขอของเขา เช่นเดียวกับที่พระองค์ได้ทรงตอบรับซะกะรียา (อ.)”
จากนั้น ท่านกล่าวว่า “โอ้บุตรของชะบีบเอ๋ย! แท้จริงเดือนมุฮัรรอม คือเดือนซึ่ง (แม้แต่) ชาวญาฮิลีญะฮ์ (ยุคมืด) ในอดีตที่ผ่านมา พวกเขาห้ามการกดขี่และการทำสงครามในเดือนนี้ เพื่อแสดงการเคารพให้เกียรติต่อมัน แต่ทว่าประชาชาตินี้กลับไม่รับรู้ถึงเกียรติของเดือนนี้และไม่เคารพเกียรติของท่านศาสดาของพระองค์ (ซ็อลฯ)
ในเดือนนี้ พวกเขาได้สังหารลูกหลานของท่าน และจับตัวบรรดาสตรีของท่านเป็นเชลย และพวกเขาได้ปล้นสะดมทรัพย์สินมีค่าของบุคคลเหล่านั้น แน่นอนยิ่งอัลลอฮ์จะไม่ทรงอภัยโทษให้แก่เขาตลอดไป
โอ้บุตรของชะบีบเอ๋ย! หากเจ้าจะร่ำไห้เสียใจต่อสิ่งใดแล้ว เจ้าก็จงร่ำไห้เสียใจต่อฮุเซน บุตรของอะลี อิบนิอบีฏอลิบเถิด เพราะเขาถูกเชือดเยี่ยงเดียวกับที่แกะได้ถูกเชือด และบุรุษจำนวนสิบแปดคนจากอะฮ์ลุลบัยติ์ (ครอบครัว) ของท่านต้องถูกฆ่าพร้อมกับท่านอย่างที่ไม่มีใครเหมือนพวกเขามาก่อนเลยในหน้าแผ่นดิน
แน่นอนยิ่งบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินทั้งเจ็ดได้ร่ำไห้คร่ำครวญเนื่องจากการถูกสังหารของท่าน และแท้จริงแล้วมะลาอิกะฮ์ (ทวยเทพ) สี่พันท่านได้ลงมาสู่พื้นดินเพื่อให้การช่วยเหลือท่าน (อิมามฮุเซน) แต่ (เมื่อพวกเขาได้ลงมาถึงพื้นดิน) พวกเขาก็พบว่าท่าน (อิมามฮุเซน) ได้ถูกสังหารไปเสียแล้ว
ดังนั้นพวกเขาจึงอยู่ที่หลุมฝังศพของท่านในสภาพที่ผมยุ่งเหยิงและเนื้อตัวเต็มไปด้วยฝุ่น จวบจนกระทั่งกออิม (อิมามมะฮ์ดี) จะยืนหยัดขึ้น แล้วพวกเขาจะเป็นส่วนหนึ่งจากบรรดาผู้ช่วยเหลือของท่าน และคำขวัญของพวกเขา (ที่กู่ร้อง) คือ
یا لثارات الحسین
“ยาละซารอติลฮุซัยน์” (โอ้บรรดาผู้ล้างแค้นเลือดของฮุเซน)
โอ้บุตรของชะบีบเอ๋ย! แท้จริงบิดาของฉันได้รายงานฮะดีษแก่ฉันจากบิดาของท่าน โดยอ้างมาจากปู่ของท่านว่า
لَمَّا قُتِلَ الْحُسَیْنُ جَدِّی ص مَطَرَتِ السَّمَاءُ دَماً وَ تُرَاباً أَحْمَرَ
“เมื่อฮุเซน ปู่ของฉันถูกสังหาร ท้องฟ้าได้หลั่งน้ำฝนลงมาเป็นสายเลือด และดินกลายเป็นสีแดง"
โอ้บุตรของชะบีบเอ๋ย! หากเจ้าร่ำไห้เสียใจแก่ฮุเซนจนกระทั่งน้ำตาของเจ้าได้ไหลอาบแก้มทั้งสองของเจ้า อัลลอฮ์จะทรงอภัยโทษความผิดบาปของเจ้าที่เจ้าได้เคยกระทำผิดบาปไว้ ไม่ว่าจะเป็นบาปเล็กหรือบาปใหญ่และไม่ว่าจะน้อยหรือมากก็ตาม
โอ้บุตรของชะบีบเอ๋ย! หากเจ้าปรารถนาที่จะไปพบกับอัลลอฮ์ผู้ทรงเกริกเกียรติเกรียงไกร ในสภาพที่ไม่มีความผิดบาปใด ๆ เลย ดังนั้นเจ้าจงทำการซิยารัตต่อฮุเซน
โอ้บุตรของชะบีบเอ๋ย! หากเจ้าปรารถนาที่จะพำนักอยู่ในห้องต่างๆ ที่ถูกสร้างไว้ในสวนสวรรค์รร่วมกับท่านศาสดาและวงศ์วานของท่าน ดังนั้นเจ้าจงละอ์นัต (สาปแช่ง) บรรดาผู้ที่สังหารฮุเซนเถิด
โอ้บุตรของชะบีบเอ๋ย! หากเจ้าปรารถนาที่จะได้รับภาคผลและรางวัลตอบแทนเหมือนกับบรรดาผู้ที่เป็นชะฮีด (พลีชีพ) ร่วมกับฮุเซน ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่เจ้ารำลึกถึงท่าน เจ้าก็จงกล่าวว่า
یا لَیْتَنِی كُنْتُ مَعَهُمْ فَأَفُوزَ فَوْزاً عَظِیماً
“โอ้อนิจจาเอ๋ย ข้าฯ น่าจะได้อยู่ร่วมกับพวกเขา เพื่อข้าฯ จะได้ประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่”
โอ้บุตรของชะบีบเอ๋ย! หากเจ้าปรารถนาที่จะอยู่ร่วมกับเราในระดับฐานันดรต่างๆ อันสูงส่งในสวนสวรรค์แล้ว ดังนั้นเจ้าก็จงทุกข์โศกเนื่องจากความทุกข์โศกของเราและจงปีติยินดีเนื่องจากความปีติยินดีของเราเถิด และจงยึดมั่นปฏิบัติตามวิลายะฮ์ (อำนาจการปกครอง) ของเรา เพราะมาตรว่าบุคคลหนึ่งมีความรักต่อหินก้อนหนึ่งแล้ว อัลลอฮ์ก็จะทรงรวมเขา (ในทุ่งมะห์ชัร) ในวันกิยามะฮ์ (ชาติหน้า) พร้อมกับมัน” (อัล-อะมาลี เชคซุดูก หน้าที่ 129)
บทความโดย : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ
Copyright © 2018 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่