เมื่อปีที่แล้วระบอบไซออนิสต์ได้มอบหมายให้มอสสาดนำอิหร่านเข้าสู่วิกฤติความวุ่นวายและความไม่มั่นคง หนึ่งปีต่อมา ไม่ใช่ในเตหะราน แต่เป็นปารีส ลอนดอน และนิวยอร์ก ในตลอดทั้งสัปดาห์ได้เห็นการชุมนุมประท้วงต่อต้านอเมริกาและต่อต้านไซออนิสต์มากที่สุดในรอบหลายทศวรรษที่ผ่านมา

            มัชริก : มุฮัมมัด อีมานี นักเคลื่อนไหวด้านสื่อโพสต์บทความในช่อง Telegram ของเขา โดยมีชื่อว่า "ไม่ใช่เตหะราน แต่เป็นลอนดอน ปารีส และนิวยอร์ก" เขาเขียนว่า :

            ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ฝ่ายต่อต้านการปฏิวัติอิสลามที่ลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศล้วนวางแผนร่วมกันจัดการประชุมในกรุงเบอร์ลิน เครือข่ายของตะวันตกทั้งหมดก็รีบช่วยเหลือพวกเขาเป็นเวลาสองสามสัปดาห์เพื่อให้มีการรวมตัวของกลุ่มต่อต้านที่ใหญ่ที่สุด

            แต่สุดท้าย ในขณะที่ชาวอิหร่าน 1,200,000 คน อาศัยอยู่ในยุโรป ผู้คนทั้งหมดเพียง 35,000 คน มารวมตัวกัน ซึ่งบางคนเป็นพลเมืองของแอฟริกา ยูเครน และประเทศอื่นๆ บางประเทศ และพวกเขาได้ไปที่สถานที่นั้นด้วยการรับเงินและผลประโยชน์จากการท่องเที่ยว ได้มีการเดินทางไปสู่สถานที่ของการชุมนุมดังกล่าว

            หนึ่งปีต่อมา แทบจะไม่มีแม้เพียงวันเดียว ผ่านไปที่ถนนในปารีส ลอนดอน เบอร์ลิน มาดริด สตอกโฮล์ม วอชิงตัน นิวยอร์ก ออตตาวา ฯลฯ ไม่เห็นการชุมนุมต่อต้านไซออนิสต์ครั้งใหญ่เพื่อสนับสนุนกลุ่มต่อต้านของฉนวนกาซา นี่ไม่รวมถึงการประท้วงของผู้ชุมนุมประท้วงในเทลอาวีฟ ซึ่งนั่นก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง!

            ตามการประกาศของทางการยุโรประบุว่า ในการชุมนุมเหล่านี้บางส่วนในยุโรป มีผู้เข้าร่วมประมาณ 300,000 ถึง 500,000 คน ในขณะเดียวกัน ตำรวจอังกฤษอ้างว่า การประท้วงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เกิดขึ้นหลายครั้งในลอนดอนโดยกลุ่มสนับสนุนอิหร่าน

            ความหมายของกระบวนการนี้คืออะไร? พลังการระดมกำลังของการปฏิวัติอิสลาม ตรงกันข้ามกับความอัปยศอดสูและความพ่ายแพ้ของระบอบไซออนิสต์ ซึ่งเมื่อปีที่แล้วได้มอบหมายให้มอสสาดนำอิหร่านเข้าสู่วิกฤติความวุ่นวายและความไม่มั่นคง โดยแนวหน้าของปฏิบัติการของ CIA และ MI6

            หนึ่งปีต่อมา ไม่ใช่ในเตหะราน แต่เป็นปารีส ลอนดอน และนิวยอร์ก ไม่เพียงแต่ในวันศุกร์เท่านั้น แต่ในตลอดทั้งสัปดาห์ได้เห็นการชุมนุมประท้วงต่อต้านอเมริกาและต่อต้านไซออนิสต์มากที่สุดในรอบหลายทศวรรษที่ผ่านมา

            บัดนี้ หากที่ไหนสักแห่งในโลกตะวันตกส่งเสียงออกมาประท้วง เนื่องจากความมึนงงสับสน พวกเขาจะอ้างว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลัง หากฮามาสตบบ้องหูของอิสราเอล หรืออิสลามิกญิฮาด ฮิซบุลลอฮ์ อันซอรุลลอฮ์ และกองกำลังต่อต้านทั้งหลายของอิรัก เข้ามาตอบโต้อาชญากรรมของอิสราเอลและสหรัฐอเมริกา พวกเขาก็จะกล่าวอ้างว่า กลุ่มเหล่านี้ปฏิบัติการณ์ภายใต้การควบคุมของอิหร่าน

             พวกเขาเคยกล่าวเองว่า ไม่มีข้อบ่งชี้ใดๆ ว่ากลุ่มฮามาสประสานงานกับอิหร่านในการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม แต่อีกครั้งหนึ่งที่พวกเขากล่าวด้วยความสิ้นหวังว่า ความอัปยศอดสูทั้งหมดเหล่านี้ที่พวกเขาได้รับในด้านการทหาร การเมือง สื่อ และความคิดเห็นของประชาชนนั้น อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของอิหร่านทั้งสิ้น

             เมื่อไม่นานนี้ นิตยสาร Foreign Policy เขียนว่า : “สงครามในฉนวนกาซาถือเป็นหายนะครั้งใหญ่สำหรับสหรัฐอเมริกา” และหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ก็เน้นย้ำว่า :  “ปริมาณของความยุ่งเหยิงในเทลอาวีฟมีสูงและอิสราเอลจะไม่กลับเป็นอิสราเอลเหมือนก่อนการโจมตีของกลุ่มฮามาสอีกต่อไป"

             พวกเขากำลังคิดอะไรอยู่ พวกเขามีแผนซับซ้อนอะไรอยู่ พวกเขาได้เผชิญชะตากรรมที่เลวร้ายอะไร! พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสูงส่งทรงตรัสว่า :

أَمۡ یُرِیدُونَ کَیدٗاۖ فَٱلَّذِینَ کَفَرُواْ هُمُ ٱلمَکِیدُونَ

"หรือว่าพวกเขาต้องการที่จะวางแผนร้าย แต่ทว่าบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธานั้น พวกเขาต่างหากที่จะถูกวางแผน"

(อัลกุรอานบทอัฏ ฏูรฺ โองการที่ 42)

ที่มา : สำนักข่าวมัชริก

Copyright © 2023 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่