เชคนาอิม กอเซ็ม เลขาธิการกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ ออกคำเตือนที่ชัดเจนถึงระบอบการปกครองอิสราเอล โดยระบุว่า ขบวนการต่อต้านของเลบานอนมีทางเลือกมากมายในการจัดการกับกรณีที่เทลอาวีฟละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
เมื่อวันศุกร์ (18 เม.ย.) ผู้นำกลุ่มต่อต้านเน้นย้ำในการกล่าวสุนทรพจน์สดทางโทรทัศน์ ว่า “เรามีทางเลือกและเราไม่กลัวอะไรเลย หากคุณยังคงยืนหยัดคุณจะเห็นว่า เราจะตัดสินใจทำอะไรในเวลาที่เหมาะสม”
ผู้นำฮิซบุลลอฮ์กล่าวเสริมว่า “ใครก็ตามที่คิดว่าเราอ่อนแอ เป็นคนเพ้อฝัน”
คำพูดดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางการที่ระบอบการปกครองละเมิดข้อตกลงหยุดยิงรายวัน ซึ่งได้รับการประกาศเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมายเพื่อยุติความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นของเทลอาวีฟต่อเลบานอน ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปประมาณ 4,000 รายตลอดเวลากว่า 1 ปี
เชคกอเซ็มเน้นย้ำว่า ความพยายามอย่างต่อเนื่องของระบอบการปกครองในการบ่อนทำลายอำนาจอธิปไตยของเลบานอนและการปรากฏตัวของกลุ่มต่อต้านจะเผชิญกับการตอบโต้ที่ไม่ยอมแพ้
เขาย้ำว่า ความแข็งแกร่งและความสามัคคีของกลุ่มฮิซบุลลอฮ์กับกองทัพแห่งชาติและประชาชนของเลบานอนทำให้มั่นใจได้ว่า ระบอบการปกครองจะไม่บรรลุเป้าหมาย
“เราเผชิญหน้ากับการยึดครองผ่านความแข็งแกร่งของตำแหน่งของเรา ความสามัคคีของชาติ การสร้างกองทัพ และความพร้อมของกองกำลังต่อต้าน เราจะไม่ยอมแพ้และไม่เคยยอมแพ้” ผู้นำกองกำลังต่อต้านกล่าว “ตราบใดที่กองกำลังต่อต้านยังคงอยู่และจะยังคงอยู่ต่อไป ร่วมกับกองทัพแห่งชาติ ประชาชนชาวเลบานอนและผู้สนับสนุนของพวกเขา อิสราเอลจะไม่มีวันบรรลุวัตถุประสงค์ได้”
'ความทะเยอทะยานในการขยายอำนาจของอิสราเอล : ภัยคุกคามต่ออำนาจอธิปไตยของเลบานอน'
เชคกอเซ็มยังประณามวาทกรรมที่ระบอบการปกครองอิสราเอลใช้อย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับเรื่อง "การปลดอาวุธ" ของกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ โดยเรียกว่าเป็นความพยายามอย่างแอบแฝงเพื่อทำให้เลบานอนอ่อนแอลงและผลักดันเป้าหมายการขยายอำนาจของเทลอาวีฟต่อไป
เขากล่าวอธิบายว่า “อิสราเอลเป็นพวกชอบขยายดินแดน ไม่พอใจกับปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง และยังต้องการยึดเลบานอนด้วย”
ผู้นำกลุ่มฮิซบุลลอฮ์เตือนว่า กลุ่มต่อต้านในเลบานอนเกิดขึ้นจากความจำเป็นในการเผชิญหน้ากับการยึดครองและการรุกรานของอิสราเอล โดยกล่าวว่า “การต่อต้านนั้นเป็นการตอบโต้การยึดครอง และหากรัฐเลบานอนไม่สามารถปกป้องดินแดนและพลเมืองได้ด้วยตัวเอง ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่การต่อต้านจะเกิดขึ้น”
เชคกอเซ็มกล่าวว่า อาวุธของกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ถูกนำไปใช้ในการต่อต้านการรุกรานของอิสราเอลเท่านั้น และได้ปฏิเสธข้อกล่าวอ้างที่ว่า อาวุธของกลุ่มต่อต้านเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในเลบานอน
เชคกอเซ็มกล่าวและเน้นย้ำว่า ขณะเดียวกัน ผู้นำกลุ่มฮิซบุลลอฮ์เตือนว่า ผู้ที่เรียกร้องให้ปลดอาวุธกลุ่มต่อต้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านกำลังทหาร ถือเป็นการสนองนโยบายของระบอบการปกครองอิสราเอล เป้าหมายของพวกเขาคือการสร้างความแตกแยกระหว่างกลุ่มต่อต้านและกองทัพ “จะไม่มีการแบ่งแยก [เช่นนั้น] เกิดขึ้น”
“เราจะไม่อนุญาตให้ใครก็ตามปลดอาวุธฮิซบุลลอฮ์หรือกลุ่มต่อต้าน ความคิดนี้จะต้องถูกลบออกจากวาทกรรมของคุณ”
'ความแข็งแกร่งของฮิซบุลลอฮ์ : กุญแจสำคัญในการป้องกันเลบานอน'
ผู้นำขบวนการต่อต้านได้สะท้อนถึงประวัติศาสตร์ยาวนานหลายทศวรรษของกลุ่มฮิซบุลลอฮ์และระบุว่า ความสำเร็จอันโดดเด่นของขบวนการนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องเลบานอนจากการรุกรานของอิสราเอล
“ความแข็งแกร่งของการต่อต้านในเลบานอนอยู่ที่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่และมีผลกระทบที่ทำได้ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา” ผู้นำขบวนการต่อต้านกล่าว พร้อมเสริมว่า ความมุ่งมั่นอย่างยาวนานของขบวนการนี้ทำให้อิสราเอลไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้
กลุ่มนี้ได้วางอาวุธได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเผชิญกับสงครามอิสราเอลในปีพ.ศ. 2543 และ พ.ศ. 2549 โดยบังคับให้ระบอบการปกครองต้องล่าถอยอย่างน่าอับอายในทั้งสองครั้ง
ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่การโจมตีของอิสราเอลทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งเริ่มขึ้นในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2566 ขบวนการต่อต้านยังประสบความสำเร็จในการโจมตีตอบโต้ต่อดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองหลายร้อยครั้ง นอกเหนือจากการขัดขวางการรุกรานของกองทัพอิสราเอลได้หลายครั้ง
เชคกอเซ็มให้เครดิตกลุ่มต่อต้านที่ช่วยให้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงได้ผ่านปฏิบัติการตอบโต้ และชี้ให้เห็นว่า การรุกรานของระบอบการปกครองอิสราเอลจะไม่ยุติลง หากปราศจากความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของกลุ่มฮิซบุลลอฮ์
เขากล่าวว่า “หากไม่มีความยืนหยัดดังกล่าว ก็คงไม่มีข้อตกลง และอิสราเอลก็คงจะยังคงรุกรานต่อไป”
'อเมริกาชั่วร้ายที่สุด ผู้ให้กำเนิดเนื้องอกมะเร็ง ที่ชื่ออิสราเอล'
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่อต้านได้กล่าวถึงสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ทุ่มเทที่สุดของระบอบการปกครองอิสราเอล ว่าเป็น “ความชั่วร้ายตัวใหญ่ที่สุด”
เขาเรียกสหรัฐอเมริกาว่า เป็นผู้สนับสนุน “การเติบโตของมะเร็งที่เรียกว่า อิสราเอล ซึ่งจะต้องถูกกำจัดให้สิ้นซาก”
นอกจากนี้ เชคกอเซ็มยังเน้นย้ำด้วยว่า เลบานอนไม่สามารถตกอยู่ภายใต้การปกครองของอเมริกาได้ และวอชิงตันจะต้องเคารพเจตนารมณ์ของชาวเลบานอนที่ต้องการเอกราช และหลีกเลี่ยงไม่เข้าไปแทรกแซงกิจการของเลบานอน
คำกล่าวของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวเกี่ยวข้องกับความพยายามของรัฐบาลอเมริกันหลายชุดและพันธมิตรของวอชิงตันที่จะกดดันเบรุตให้พยายามขับไล่กลุ่มฮิซบุลลออ์ออกไปจากเลบานอน
ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี
Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่