หัวหน้าฝ่ายบริหารของกลุ่ม ฮัยอัต ตะห์รีรอัชชาม (HTS) แสดงความพร้อมที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างซีเรียและอิสราเอล ท่ามกลางแผนการของวอชิงตันที่จะเพิกถอนการคว่ำบาตรดามัสกัสและการยึดครองดินแดนซีเรียเพิ่มของอิสราเอล 

    คอรี มิลส์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ อ้างคำพูดของอาบู มูฮัมมัด อัล-โจลานีหลังการประชุมในซีเรียเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ดามัสกัส "มีความสนใจภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม" ที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับเทลอาวีฟ

    มิลส์กล่าวกับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ว่า เขาได้หารือกับประธานาธิบดีของระบอบฮัยอัต ตะห์รีรอัชชาม (HTS) ถึงขั้นตอนที่จำเป็นในการขอการผ่อนปรนการคว่ำบาตร โดยโจลานีตอบกลับระหว่างการประชุม 90 นาที ว่า ข้อตกลงฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เคยทำการเจรจาระหว่างอิสราเอลกับประเทศอาหรับบางประเทศ รวมถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และบาห์เรน

    สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาได้แจ้งต่อโจลานีว่า ซีเรียจะต้องทำลายอาวุธเคมีที่ถูกกล่าวหาว่ารัฐบาลอัสซาดทิ้งไว้ ร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการต่อต้านการก่อการร้าย และจัดการกับนักรบต่างชาติที่เป็นสมาชิกกลุ่ม ฮัยอัต ตะห์รีรอัชชาม (HTS)

    มิลส์กล่าวว่า โจลานีพร้อมที่จะชี้แจงว่า เขาจะจัดการกับการปรากฏตัวของนักรบต่างชาติที่ยังคงปฏิบัติการอยู่ในซีเรียอย่างไร และบอกกับบลูมเบิร์กว่า เขาได้กดดันให้โจลานีให้คำมั่นกับอิสราเอลแล้ว

    มิลส์ยังกล่าวอีกว่า ประธานาธิบดีซีเรียที่ประกาศตนได้ส่งจดหมายให้เขานำไปให้ทรัมป์ โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อหาในจดหมาย

    โจลานี วัย 42 ปี ถูกคุมขังในอิรักเป็นเวลาหลายปีในข้อหาเป็นสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ หลังจากสหรัฐฯ บุกอิรักเมื่อปี 2003 ปัจจุบันเขายังคงถูกสหรัฐฯ และสหประชาชาติคว่ำบาตรเนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยืนยันว่า กลุ่มนี้ก่อตั้งขึ้นโดยรัฐบาลในวอชิงตันในขณะนั้น

    สหรัฐฯ ได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรซีเรียอย่างรุนแรงหลังจากเกิดกลุ่มก่อการร้ายที่ได้รับการสนับสนุนจากต่างชาติในประเทศอาหรับแห่งนี้เมื่อปี 2011 มาตรการคว่ำบาตรนี้ยังคงมีผลบังคับใช้มาโดยตลอดนับตั้งแต่กลุ่ม กลุ่ม ฮัยอัต ตะห์รีรอัชชาม (HTS) ล้มล้างรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดเมื่อปลายปีที่แล้ว

    นับตั้งแต่การล่มสลายของรัฐบาลของอัสซาด กองทัพอิสราเอลก็ได้โจมตีทางอากาศต่อสถานที่ปฏิบัติงานนอกชายฝั่ง ยุทโธปกรณ์ทางทหาร สิ่งอำนวยความสะดวก และคลังอาวุธของกองทัพซีเรียที่ปัจจุบันไม่สามารถใช้การได้แล้ว

    ระบอบการปกครองของอิสราเอลยังได้เพิ่มความรุนแรงในการรุกรานซีเรียโดยเริ่มการยึดครองที่ดินอย่างผิดกฎหมายเกินขอบเขตที่ราบสูงโกลันที่ถูกยึดครอง ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่เรียกว่า “อิสราเอลที่ยิ่งใหญ่”

    ดินแดนยุทธศาสตร์แห่งนี้ถูกยึดครองโดยอิสราเอลนับตั้งแต่สงครามหกวัน ในปีพ.ศ. 2510

    ในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา กองทัพอิสราเอลได้รุกคืบเกินเขตกันชนปลอดทหารบนที่ราบสูงโกลัน ยึดครองภูเขาเฮอร์มอนและพื้นที่ยุทธศาสตร์อื่น ๆ ภายในซีเรีย ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศระหว่างอิสราเอลและซีเรียเมื่อปี พ.ศ. 2518

    รายงานของสื่อเมื่อเร็ว ๆ นี้ระบุว่า กองทัพอิสราเอลกำลังจัดทัวร์เดินป่าให้กับผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอลในเขตกันชนปลอดทหารบนที่ราบสูงโกลันที่ถูกยึดครองระหว่างเทศกาลปัสกา ซึ่งเป็นวันหยุดในศาสนายิว

    สหประชาชาติและชุมชนระหว่างประเทศยอมรับว่า ภูมิภาคนี้เป็นส่วนหนึ่งของซีเรีย ในขณะที่สหรัฐฯ ยืนหยัดเพียงลำพังในการยอมรับอย่างเป็นทางการถึงการยึดครองที่ราบสูงโกลันโดยมิชอบของอิสราเอล

    ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2014 กองทัพสหรัฐฯ ได้ส่งกองกำลังและยุทโปกรณ์ไปยังซีเรียตะวันออกเฉียงเหนือโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลซีเรีย โดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ อ้างว่าการส่งกำลังครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้แหล่งน้ำมันในพื้นที่ตกไปอยู่ในมือของกลุ่มก่อการร้าย ไอซิส

    อย่างไรก็ตาม ดามัสกัสยืนกรานว่า การวางกำลังครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อปล้นสะดมทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ

    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการเผยแพร่ภาพวิดีโอจำนวนมากที่เผยให้เห็นว่า กองกำลังยึดครองของสหรัฐฯ ได้ใช้เรือบรรทุกน้ำมันในการลักลอบขนน้ำมันดิบของซีเรียจากจังหวัดทางตอนเหนือของประเทศไปยังฐานทัพในอิรักตอนเหนือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปล้นสะดมสินค้าพื้นฐานของซีเรียอย่างเป็นระบบของวอชิงตัน

    กลุ่มก่อการร้าย ฮัยอัต ตะห์รีรอัชชาม (HTS) เข้ายึดครองกรุงดามัสกัสเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นจุดสุดยอดของการโจมตีอย่างรวดเร็วที่เริ่มขึ้นในจังหวัดอาเลปโปทางตะวันตกเฉียงเหนือเพียง 2 สัปดาห์ก่อนหน้านั้น และสุดท้ายก็ทำให้การปกครองที่ยาวนาน 24 ปีของอัสซาดสิ้นสุดลง

    นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา รัฐบาล ฮัยอัต ตะห์รีรอัชชาม (HTS) ก็ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงในซีเรีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อกลุ่มชนกลุ่มน้อย โดยเฉพาะชาวอลาวีในซีเรีย ซึ่งทำให้ได้รับการประณามจากประชาคมระหว่างประเทศอย่างกว้างขวาง

ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี

Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่