จีนและสหรัฐฯ ตกลงที่จะลดภาษีศุลกากรซึ่งกันและกันเป็นการชั่วคราวลงร้อยละ 115 และยุติสงครามการค้าที่อาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกถดถอยและตลาดการเงินพังทลาย
หลังการเจรจากับเจ้าหน้าที่จีนในกรุงเจนีวา รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ สก็อตต์ เบสเซนต์ เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (12 พ.ค.) ว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะระงับการเก็บภาษีศุลกากรซึ่งกันและกันเป็นเวลา 90 วัน
ภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนของสหรัฐฯ รวมกัน 145% จะลดลงเหลือ 30% รวมถึงอัตราที่เชื่อมโยงกับเฟนทานิล ภายในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ในขณะที่ภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ของจีน 125% จะลดลงเหลือ 10%
เบสเซนต์กล่าวว่า “ทั้งสองประเทศต่างแสดงให้เห็นถึงผลประโยชน์ของชาติได้เป็นอย่างดี ... เราต่างมีผลประโยชน์ในการค้าที่สมดุล สหรัฐฯ จะยังคงเดินหน้าไปในทิศทางนั้นต่อไป”
เบสเซนท์เน้นย้ำว่า “ความเห็นพ้องของทั้งสองฝ่ายในสุดสัปดาห์นี้คือไม่มีฝ่ายใดต้องการการแยกตัวออกจากกัน ... และสิ่งที่เกิดขึ้นจากภาษีศุลกากรที่สูงมากนี้ ... เทียบเท่ากับการคว่ำบาตร และไม่มีฝ่ายใดต้องการเช่นนั้น เราต้องการการค้า”
โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีนกล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวเป็น “ก้าวสำคัญของทั้งสองฝ่ายในการแก้ไขความขัดแย้งผ่านการสนทนาและปรึกษาหารืออย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งเป็นการวางรากฐานและสร้างเงื่อนไขสำหรับการเชื่อมช่องว่างและกระชับความร่วมมือให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น”
หลังจากมีการประกาศข้อตกลง ดอลลาร์ก็แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่น ๆ และตลาดก็เปลี่ยนทิศทางขาลง
นับตั้งแต่มีข้อตกลงดังกล่าว ดัชนี Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 3.6% ดัชนี Standard and Poor's 500 (S&P 500) เพิ่มขึ้น 2.8% และดัชนี Dow Jones Industrial Average (Dow Jones) เพิ่มขึ้น 2.3% นอกจากนี้ ดัชนี Stoxx 600 ของยุโรปก็เพิ่มขึ้น 0.7% เช่นกัน
การประชุมที่เจนีวาถือเป็นการพบปะแบบพบหน้ากันครั้งแรกระหว่างเจ้าหน้าที่เศรษฐกิจระดับสูงของจีนและสหรัฐฯ นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กลับมามีอำนาจอีกครั้งและเปิดฉากสงครามภาษีศุลกากรระดับโลก โดยเฉพาะการกำหนดอัตราภาษีสูงต่อสินค้าจีน
หลังจากเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม ทรัมป์ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับชาติเกี่ยวกับวิกฤตเฟนทานิลของสหรัฐฯ และกำหนดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 20% จากนั้นเขาก็กำหนดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 34% ต่อสินค้าที่นำเข้าจากจีนในเดือนเมษายน และในที่สุดก็กำหนดภาษีนำเข้าเป็น 145% ในทางกลับกัน จีนกำหนดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ 125%
สงครามการค้าเกือบผลักดันให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยและเกือบจะทำให้ตลาดโลกพังทลาย
ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี
Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่