เยอรมนีได้ยืนยันอีกครั้งถึงการตัดสินใจที่จะหยุดการส่งออกอาวุธไปยังอิสราเอล เพื่อตอบโต้แผนการของรัฐบาลที่จะขยายการรุกรานในฉนวนกาซาด้วยการยึดครองเมืองกาซา
ฟรีดริช เมิร์ซ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวในการสัมภาษณ์กับสถานีวิทยุกระจายเสียงสาธารณะ ARD เมื่อวันอาทิตย์ (10 ส.ค.) ว่า เบอร์ลินไม่สามารถส่งอาวุธให้กับสงครามที่กำลังดำเนินไปด้วยวิธีการทางทหารเพียงอย่างเดียวได้
นายกรัฐมนตรีฟรีดริช เมิร์ซ กล่าวว่า “เราไม่สามารถส่งมอบอาวุธเข้าสู่ความขัดแย้งที่กำลังถูกดำเนินการด้วยวิธีการทางทหารเพียงอย่างเดียวได้” และกล่าวเสริมว่า “เราต้องการช่วยเหลือทางการทูต และเรากำลังดำเนินการอยู่”
เขากล่าวเตือนว่า การขยายปฏิบัติการของอิสราเอลในเมืองกาซาอาจคร่าชีวิตพลเรือนไปหลายแสนคน และจะต้องอพยพผู้คนออกจากเมืองทั้งหมด
"คนพวกนี้จะไปที่ไหนกัน" เมิร์ซกล่าว "เราทำแบบนั้นไม่ได้ เราจะไม่ทำแบบนั้น และผมก็จะไม่ทำแบบนั้น"
นายกรัฐมนตรีเยอรมนีกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม หลักการนโยบายอิสราเอลของเยอรมนียังคงไม่เปลี่ยนแปลง
เยอรมนีประกาศการตัดสินใจหยุดส่งออกอาวุธไปยังอิสราเอลเป็นครั้งแรก เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ประเทศเยอรมนีเป็นซัพพลายเออร์อาวุธรายใหญ่ เป็นอันดับสองของอิสราเอล รองจากสหรัฐอเมริกา
ตามข้อมูลของสถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม ระหว่างปี ค.ศ. 2020 ถึง ค.ศ. 2024 เยอรมนีเป็นผู้นำเข้าอาวุธให้กับระบอบการปกครองอิสราเอลถึงหนึ่งในสาม เป็นรองเพียงการขายอาวุธจากสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
คำสั่งการระงับดังกล่าวจะไม่กระทบการส่งออกระบบต่าง ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซาของอิสราเอล ซึ่งรวมถึงระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานและอุปกรณ์ทางทะเล
สเปนและสโลวีเนียได้ดำเนินการในลักษณะเดียวกันนี้แล้ว คำกล่าวของนายกรัฐมนตรีเยอรมนีเกิดขึ้นในขณะที่กระแสต่อต้านอิสราเอลกำลังทวีความรุนแรงขึ้นในเยอรมนี
ผลสำรวจใหม่เผยว่า พลเมืองเยอรมันส่วนใหญ่สนับสนุนการรับรองรัฐปาเลสไตน์
จากการสำรวจของสถาบัน Forsa พบว่า ชาวเยอรมันร้อยละ 54 สนับสนุนการยอมรับรัฐปาเลสไตน์ในขณะที่เพียงร้อยละ 31 เท่านั้นที่คัดค้าน
สงครามของอิสราเอลซึ่งเริ่มขึ้นในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2566 คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 61,430 ราย และทำให้มีผู้บาดเจ็บมากกว่า 153,213 ราย
อิสราเอลหยุดส่งมอบความช่วยเหลือทั้งหมดให้กับฉนวนกาซาเมื่อวันที่ 2 มีนาคม หลังจากที่อ้างอย่างไม่มีมูลว่า กลุ่มฮามาสซึ่งเป็นขบวนการต่อต้านของปาเลสไตน์กำลัง "ยักย้ายความช่วยเหลือ" เพื่อหาเหตุผลในการใช้อาหารเป็นอาวุธทำร้ายพลเรือน 2.3 ล้านคน
ข้อจำกัดที่เข้มงวดต่ออาหารและความช่วยเหลือทำให้ดินแดนแห่งนี้ต้องเผชิญกับวิกฤตความอดอยากที่เลวร้ายลง โดยมีผู้คนเกือบ 217 คน รวมถึงเด็ก 100 คน เสียชีวิตด้วยภาวะทุพโภชนาการในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ภายใต้เงาของสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา อิสราเอลได้เร่งดำเนินการผนวกดินแดนในเขตเวสต์แบงก์ เขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครองอยู่ภายใต้การยึดครองของกองทัพอิสราเอลมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510
กองทัพอิสราเอลได้เพิ่มการโจมตีรายวันและจับกุมจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ทางตอนเหนือของเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง ซึ่งรถปราบดินของอิสราเอลได้ทำลายพื้นที่อยู่อาศัยทั้งหมด และขับไล่ผู้คนออกไปอย่างน้อย 40,000 คน
ตามรายงานของชาวปาเลสไตน์ ผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายชาวอิสราเอลประมาณ 770,000 คน อาศัยอยู่ในเขตเวสต์แบงก์ ครอบคลุมพื้นที่ตั้งถิ่นฐาน 180 แห่ง และเขตชายแดน 256 แห่ง โดย 138 แห่งจัดเป็นพื้นที่เกษตรกรรมหรือปศุสัตว์
ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี
Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่