กองบัญชาการทหารสูงสุดของอิหร่านกล่าวว่า กองทัพมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการต่อต้านภัยคุกคาม
กองบัญชาการทหารสูงสุดของอิหร่านกล่าวว่า กองทัพมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการต่อต้านภัยคุกคาม

กองบัญชาการทหารระดับสูงของอิหร่านได้เน้นย้ำถึงความพร้อมรบทั้งหมดของกองกำลังติดอาวุธของประเทศในการต่อสู้กับการรุกรานใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากศัตรูต่อดินแดนอิหร่าน

    วันพุธ (20 ส.ค.) ผู้บัญชาการกองบัญชาการทหารกลาง คาตัม อัล-อันบิยา กล่าวว่า กองกำลังติดอาวุธอยู่ในการเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ โดยติดตามการเคลื่อนไหวของศัตรูอย่างใกล้ชิด และหากพวกเขาประเมินผิดพลาดและพยายามบุกรุกดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของประเทศของเราอีก พวกเขาจะต้องเผชิญกับการตอบโต้ที่รุนแรงยิ่งขึ้น”

    การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่กองทัพเรืออิหร่านมีกำหนดจะเริ่มขั้นตอนการปฏิบัติการซ้อมรบขีปนาวุธ Eqtedar (Authority) 1404 ในวันพฤหัสบดีนี้

    พลเรือตรีอับบาส ฮัสซานี โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า การซ้อมรบขีปนาวุธเป็นเวลา 2 วัน จะจัดขึ้นในทะเลโอมานและมหาสมุทรอินเดียตอนเหนือ โดยมีเรือผิวน้ำและใต้น้ำ หน่วยทางอากาศ ฐานยิงขีปนาวุธจากชายฝั่งสู่ทะเล ระบบปฏิบัติการขีปนาวุธจากทะเล และหน่วยสงครามอิเล็กทรอนิกส์เข้าร่วม

    ฮัสซานีกล่าวเสริมว่า การฝึกซ้อมดังกล่าวจะรวมถึงการยิงขีปนาวุธ การฝึกซ้อมสงครามอิเล็กทรอนิกส์ และการปฏิบัติการโดรน โดยอิงจากประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกซ้อมครั้งก่อน ๆ และแนวปฏิบัติการปฏิบัติการที่กำหนดไว้

    โฆษกกองทัพเรือชี้ให้เห็นถึงอาวุธยุทโธปกรณ์และระบบขีปนาวุธ พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า ขีปนาวุธร่อนแม่นยำหลากหลายประเภทที่มีพิสัยการยิงสั้น กลาง และไกล จะถูกนำมาใช้เพื่อกำหนดเป้าหมายและทำลายเรือผิวน้ำ

    นอกจากนี้ ฮัสซานียังเน้นย้ำด้วยว่า การฝึกซ้อมครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มความพร้อมรบของกองกำลัง เพิ่มความเชื่อมั่นของประชาชน ปรับปรุงการวางแผนปฏิบัติการ ความสามารถในการบังคับบัญชาและควบคุม และเสริมสร้างการยับยั้งโดยอาศัยความเชี่ยวชาญในประเทศ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอิหร่าน : อิหร่านเตรียมใช้ขีปนาวุธใหม่หากเกิดการรุกรานครั้งใหม่            

    ในวันนี้ (วันพุธ ที่ 20 ส.ค.) พลจัตวาอาซิส นาซีร์ซาเดห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอิหร่าน กล่าวว่า ขีปนาวุธที่กองทัพใช้โจมตีอิสราเอลในสงคราม 12 วัน เมื่อเดือนมิถุนายนนั้น ผลิตในประเทศเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา และเตือนว่า ขีปนาวุธที่ผลิตขึ้นใหม่ซึ่งมีสมรรถนะสูงกว่ามากจะถูกนำมาใช้ในกรณีที่อิสราเอลโจมตีครั้งใหม่

    นาซีร์ซาเดห์กล่าวว่า “ในสงคราม 12 วัน เราเผชิญหน้ากับมหาอำนาจที่ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ ในสงครามครั้งนี้ สาธารณรัฐอิสลามอิหร่านไม่ได้เผชิญหน้ากับระบอบไซออนิสต์เพียงฝ่ายเดียว เนื่องจากสหรัฐฯ มีศักยภาพด้านการส่งกำลังบำรุง ข่าวกรอง และการสนับสนุนทั้งหมดอยู่ในสงครามครั้งนี้”

    นาซีร์ซาเดห์เน้นย้ำว่า กองทัพอิหร่านไม่ได้พึ่งพาแหล่งทรัพยากรจากต่างประเทศและใช้วัสดุที่ผลิตจากอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของประเทศ โดยกล่าวว่า โลกได้ประจักษ์แล้วว่าขีปนาวุธที่อิหร่านยิงออกไปนั้นโจมตีเป้าหมายได้อย่างสมบูรณ์แบบ และสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับระบอบการปกครองของอิสราเอล

    เขากล่าวเสริมว่า “ขีปนาวุธที่ใช้ในสงคราม 12 วันนั้น ผลิตโดยกระทรวงกลาโหมเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันเราได้ผลิตและครอบครองขีปนาวุธที่มีสมรรถนะสูงกว่าขีปนาวุธรุ่นก่อน ๆ มาก และหากศัตรูไซออนิสต์กระทำการเสี่ยงภัย (ต่ออิหร่าน) อีกครั้ง เราจะใช้ขีปนาวุธเหล่านี้อย่างแน่นอน”

    นาซีร์ซาเดห์ยังกล่าวอีกว่า ระบอบการปกครองของอิสราเอลได้ใช้พลังทั้งหมดของระบบที่เรียกว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศในช่วงสงคราม 12 วัน รวมถึงระบบ THAAD, MIM-104 Patriot, Iron Dome และระบบ Arrow

    เขากล่าวเสริมว่า แม้จะใช้ระบบเหล่านี้ทั้งหมด แต่ระบอบไซออนิสต์สามารถป้องกันขีปนาวุธของเราไม่ให้ตกได้เพียงประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ในช่วงแรกของสงคราม แต่ในช่วงท้ายของสงคราม ขีปนาวุธของเรากลับตกถึงเป้าหมายถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่า ประสบการณ์ของเราเพิ่มขึ้น ในขณะที่ขีดความสามารถในการป้องกันของฝ่ายตรงข้ามลดลง”

    “หากแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไป กองกำลังติดอาวุธของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านคงได้เปรียบอย่างแน่นอน”

    เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2568 ระบอบการปกครองของอิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีอิหร่าน โดยมีเป้าหมายที่โรงงานพลเรือน โรงงานทหาร และสถานที่ทางนิวเคลียร์หลายแห่ง ซึ่งส่งผลให้ผู้บัญชาการทหารและนักวิทยาศาสตร์ด้านนิวเคลียร์ของอิหร่านจำนวนหนึ่งถูกลอบสังหาร

    เพื่อเป็นการตอบโต้ อิหร่านได้ปล่อยโดรนและขีปนาวุธโจมตีดินแดนที่ถูกยึดครองภายใต้ชื่อปฏิบัติการว่า คำสัญญาที่แท้จริง 3 (True Promise III) ส่งผลให้ทั้งนิคมและสิ่งอำนวยความสะดวกทางทหารได้รับความเสียหายอย่างหนัก

    เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2568 กองทัพอากาศและกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้โจมตีทางอากาศต่อโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน 3 แห่ง เพื่อพยายามบรรเทาแรงกดดันต่อระบอบการปกครองอิสราเอล

    วันรุ่งขึ้น คือวันที่ 23 มิถุนายน กองกำลังอิหร่านตอบโต้ด้วยโดรนและขีปนาวุธมากกว่า 30 ลำ ใส่ฐานทัพสหรัฐฯ ในกาตาร์ ภายใต้ชื่อรหัสว่าปฏิบัติการข่าวดีแห่งชัยชนะ (Glad Tidings of Victory) ส่งผลให้ส่วนต่าง ๆ ของฐานทัพได้รับความเสียหายหลายส่วน

    ในที่สุด เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน หลังจากได้รับความสูญเสียอย่างหนักจากกองกำลังติดอาวุธของอิหร่าน ทั้งระบอบการปกครองของอิสราเอลและสหรัฐฯ ก็ถูกบังคับให้ตกลงยุติการสู้รบ


ที่มา : สำนักข่าว เพรสทีวี

Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 251 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

26769104
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
2291
7024
27109
26695292
143726
243345
26769104

พฤ 21 ส.ค. 2025 :: 08:00:39