หน่วยข่าวกรองอิหร่านเผยที่อยู่ของผู้ก่อสงครามที่เชื่อมโยงกับมอสสาดซึ่งปลอมตัวเป็นนักข่าว
หน่วยข่าวกรองอิหร่านเผยที่อยู่ของผู้ก่อสงครามที่เชื่อมโยงกับมอสสาดซึ่งปลอมตัวเป็นนักข่าว

ปฏิบัติการข่าวกรองของอิหร่านที่ประสบความสำเร็จได้เปิดเผยที่อยู่ของบุคคลที่มีความเชื่อมโยงกับหน่วยข่าวกรองมอสสาด (Mossad) ของอิสราเอล ซึ่งรับหน้าที่สนับสนุนสงครามข้อมูลของระบอบการปกครองอิสราเอลเพื่อต่อต้านสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน

    การเปิดเผยดังกล่าวซึ่งออกอากาศทางช่องโทรทัศน์แห่งชาติ เมื่อวันอังคาร (21 ต.ค.) แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ข่าวกรองของอิหร่านได้ค้นหาที่อยู่อาศัยที่แม่นยำของผู้ที่ทำงานโดยตรงหรือปรากฏตัวทางโทรทัศน์ต่อต้านอิหร่านที่มีชื่อว่า “อิหร่านอินเตอร์เนชั่นแนล”  อยู่บ่อยครั้ง

    การออกอากาศดังกล่าวมีภาพและรายละเอียดของที่อยู่อาศัยจริงของแต่ละบุคคลในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง

    บุคคลดังกล่าวรวมถึงบาบัค เอซฮากี หนึ่งในนักข่าวของสถานีโทรทัศน์ ซึ่งเปิดเผยว่า อยู่ที่ถนนฟาเบรกัต ในเมืองโฮลอนที่ถูกยึดครองใกล้กับเทลอาวีฟ

    อีกคนหนึ่งคือ เมียร์ จาเวดันฟาร์ แขกประจำของสถานีโทรทัศน์ “อิหร่านอินเตอร์เนชั่นแนล” ที่คอยปกป้องระบอบการปกครองของอิสราเอลและการรุกรานอันนองเลือดอยู่เสมอ และบ้านของเขาก็ตั้งอยู่ในเทลอาวีฟ

    เมนาเช อามีร์ เกิดที่กรุงเตหะราน ภายใต้ชื่อเดิมว่า มานูเชห์ร ซัคเมห์ชี ผู้ซึ่งเดินทางไปยังดินแดนที่ถูกยึดครองก่อนที่การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านจะได้รับชัยชนะในปี พ.ศ. 2522 ถือเป็นบุคคลสำคัญอีกคนหนึ่งที่ต่อต้านอิหร่าน ซึ่งถิ่นที่อยู่ของเขาถูกบุกรุกอันเป็นผลมาจากปฏิบัติการข่าวกรอง อามีร์ ผู้ประกาศข่าววัยหลายสิบปีที่ทำงานให้กับกระทรวงวิทยุและกระทรวงการต่างประเทศของรัฐบาลอิสราเอล ยอมรับว่า ตนเองเป็นไซออนิสต์ และยอมรับอย่างไม่ละอายว่าตนเองได้รับการ "แต่งตั้ง" โดยมอสสาดโดยตรง

   คามาล เพนฮาซี โฆษกกองทัพอิสราเอล ซึ่งกล่าวอ้างต่อสาธารณะว่าเขาทำหน้าที่ให้กับกองกำลังที่มี "คุณธรรม แข็งแกร่ง และก้าวหน้า" ก็เป็นอีกบุคคลหนึ่งที่พบว่าอาศัยอยู่ในโฮลอนเช่นกัน

    ตามที่รายงานระบุ “การเคลื่อนไหวของเขาอยู่ภายใต้การเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด” โดยเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอิหร่าน

    นอกจากนี้ ปฏิบัติการข่าวกรองอิหร่านยังระบุสถานที่ตั้งอาคารทั้งหลังที่ตั้งอยู่บนถนนเดกาเนียในโฮลอน ซึ่งเป็นที่ตั้งของพนักงานของสถานีโทรทัศน์ “อิหร่านอินเตอร์เนชั่นแนล”  อีกด้วย

    ตลอดช่วงเวลาแห่งการกระทำอันโหดร้ายของระบอบการปกครองอิสราเอลและพันธมิตร รวมถึงสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซาที่เทลอาวีฟซึ่งเริ่มขึ้นในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2566 ตลอดจนสงครามที่ไม่ถูกยั่วยุและผิดกฎหมายของอิสราเอลและสหรัฐฯ ต่ออิหร่านในเดือนมิถุนายน “อิหร่านอินเตอร์เนชั่นแนล” จะยังคงยืนหยัดเคียงข้างฝ่ายตรงข้ามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    หลังจากเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปราว 20,000 ราย อามีร์เคยกล่าวไว้ว่า การสังหารหมู่ครั้งนี้ "ยังไม่ถือเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์"

    คำพูดดังกล่าวทำให้แม้แต่กลุ่มต่อต้านอิหร่านที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศก็รู้สึกโกรธแค้น โดยพวกเขาได้เตือนใจถึงความสูญเสียที่การกระทำอันโหดร้ายดังกล่าวได้เกิดขึ้นกับผู้ที่ไม่ได้เป็นผู้สู้รบ

    ระหว่างสงคราม 12 วัน ช่องสถานีโทรทัศน์ “อิหร่านอินเตอร์เนชั่นแนล”แห่งนี้จะพยายามสร้างความวุ่นวายไปทั่วสาธารณรัฐอิสลามอย่างบ้าคลั่ง

    การกระแสปลุกระดมดังกล่าวเคยกระตุ้นให้กลุ่มนักเคลื่อนไหวทางสื่อประมาณ 450 คน รวมถึงผู้ที่ต่อต้านสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ออกมาประณามว่าเครือข่ายดังกล่าวเป็นเครือข่ายที่ไม่เป็นมืออาชีพ เรียกร้องให้คว่ำบาตร และอธิบายว่า เป็น "กระบอกเสียงของระบอบไซออนิสต์" และเป็นกลุ่มก่อการร้าย

    บารัค ราวิท นักข่าวที่ทำงานกับเว็บไซต์ Axios ของอเมริกา เคยโพสต์บนแพลฟอร์ม X (ทวิตเตอร์เดิม) ว่า "หน่วยงานมอดสาดใช้สื่อแห่งนี้ในการทำสงครามข้อมูลอยู่เป็นประจำ"


ที่มา : สำนักข่าว เพรสทีวี

Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 82 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

27427241
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
9108
14157
50717
27283198
283668
287144
27427241

พ 22 ต.ค. 2025 :: 18:16:02