ท่านอมีรุลมุอ์มินีนอะลี บินอบีฏอลิบ (อ.) พร้อมกับการอธิบายโองการหนึ่งจากคัมภีร์อัลกุรอาน ท่านได้ชี้ถึงเรื่องราวของศาสดาท่านหนึ่ง ซึ่งมีอายุน้อยกว่าลูกชายของตน 50 ปี หนึ่งในเรื่องราวที่เป็นอุทาหรณ์ของคัมภีร์อัลกุรอานคือเรื่องราวของอุซัยร์ (อ.) (หรือ อุสซียาห์) ศาสดาท่านหนึ่งของบนีอิสรอเอล....
หนึ่งในเรื่องราวที่เป็นอุทาหรณ์ของคัมภีร์อัลกุรอานคือเรื่องราวของอุซัยร์ (อ.) (หรือ อุสซียาห์) ศาสดาท่านหนึ่งของบนีอิสรอเอล ผู้สืบเชื้อสายจากศาสดาฮารูน (อ.) (อาโรน) พี่ชายของศาสดามูซา (อ.) (โมเสส) อุซัยร์ (อ.) เป็นหนึ่งในผู้ทรงความรู้ที่ยิ่งใหญ่ของชาวยิวที่ได้รับฉายาว่า "ผู้ช่วยให้รอดของชาวยิว" เนื่องจากหลังจากเหตุการณ์การสังหารหมู่ประชาชนโดยบุคตุนนัศร์ (เนบูคัดเนสซาร์ - Nebuchadnezzar) และการทำลายโบสถ์วิหารต่างๆ การเผาคัมภีร์เตารอต (โตราห์) การจับบรรดาสตรีเป็นเชลยและการพิชิตบาบิโลนโดยพระเจ้าไซรัสมหาราช อุซัยร์ (อ.) ได้ไปพบพระเจ้าไซรัสมหาราชและขอให้พระองค์จัดการชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ชาวยิว ด้วยเหตุนี้เองพวกเขาจึงเรียกอุซัยร์ (อ.) ว่าเป็นบุตรของพระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงตรัสเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจนในโองการที่ 30 ของบท (ซูเราะฮ์) อัตตาบะฮ์ ว่า :
وَ قالَتِ الْیَهُودُ عُزَیْرٌ ابْنُ اللَّه
"และชาวยิวได้กล่าวว่า อุซัยร์คือบุตรของอัลลอฮ์”
นอกจากนี้ในอีกเรื่องราวหนึ่งของคัมภีร์อัลกุรอานได้ชี้ถึงโดยนัยเกี่ยวกับอุซัยร์ (อ.) พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงตร้สเกี่ยวกับเรื่องราวของเขาว่า : "เขาได้เดินผ่านเมืองที่หลังคาต่างๆ ของอาคารบ้านเรือนของมันได้พังทลายลงอย่างสมบูรณ์ เขาพูดกับตัวเองว่า : "พระผู้เป็นเจ้าจะทรงทำให้ชาวเมืองของซากปรักหักพังนี้ฟื้นคืนชีพ หลังจากการตายของพวกเขาได้อย่างไร?" พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงทำให้เขาตายเป็นระยะเวลาหนึ่งร้อยปี
จากนั้นพระองค์ก็ทรงทำให้เขาฟื้นคืนชีพและตรัสกับเขาว่า "เจ้าพักอยู่นานเท่าไหร่" เขากล่าวว่า "วันหนึ่งหรือบางส่วนของวัน" พระองค์ทรงตรัสว่า " (หาใช่เช่นนั้นไม!) ทว่ามันเป็นระยะเวลาหนึ่งร้อยปี เจ้าจงมองดูอาหารและเครื่องดื่มของเจ้า (ซึ่งรสชาติและสีสรรของมัน) ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด และจงดูลาของเจ้า (ว่ามันเปื่อยสลายอย่างไร) เรื่องราวนี้ก็เพื่อเราจะ (ได้ตอบคำถามของเจ้าและ) ทำให้เจ้าเป็นสัญญาณสำหรับผู้คนทั้งหลาย และเจ้าจงมองดูยังกระดูกนี้ว่า เราได้ประกอบมันเข้าด้วยกัน (ให้เป็นโครงร่าง) ได้อย่างไร จากนั้นเราก็หุ้มมันด้วยเนื้อ" ดังนั้นเมื่อ (วิธีการทำให้ผู้ตายฟื้นคืนชีพ) เป็นที่ประจักษ์แก่เขาแล้ว เขาก็กล่าวว่า (บัดนี้) ข้าพระองค์รู้แล้วว่า แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่ง" (1)
มีรายงานจากท่านอมีรุลมุอ์มินีน (อ.) โดยที่ท่านได้กล่าวเกี่ยวกับโองการนี้ว่า :
أَنَّ عُزَیْراً خَرَجَ مِنْ أَهْلِهِ وَ امْرَأَتِهِ فِی شَهْرِهَا وَ لَهُ یَوْمَئِذٍ خَمْسُونَ سَنَةً فَلَمَّا ابْتَلَاهُ اللَّهُ عَزَّ وَ جَلَّ بِذَنْبِهِ أَمَاتَهُ اللَّهُ مِائَةَ سَنَةٍ ثُمَّ بَعَثَهُ فَرَجَعَ إِلَى أَهْلِهِ وَ هُوَ ابْنُ خَمْسُونَ سَنَةً فَاسْتَقْبَلَهُ ابْنُهُ وَ هُوَ ابْنُ مِائَةِ سَنَةٍ وَ رَدَّ اللَّهُ عُزَیْراً فِی السِّنِّ الَّذِی کَانَ بِه
"อุซัยร์ได้เดินทางออกไปจากครอบครัวของเขา ในขณะที่ภรรยาของเขาอยู่ในเมืองของนาง และในวันนั้น เขามีอายุ 50 ปี (และในเวลานั้นลูกชายของเขาเพิ่งเกิดมา) แต่เมื่อพระผู้เป็นเจ้าได้ทรงทดสอบเขาด้วยกับความผิดของเขา และทรงทำให้เขาตาย (อยู่ในหมู่บ้านนั้น) เป็นเวลาหนึ่งร้อยปี
จากนั้นได้ทรงทำให้เขาฟื้นคืนชีพ แล้วเขากลับไปหาครอบครัวของเขา ในขณะที่เขามีอายุ 50 ปี แต่ลูกชายของเขามีอายุ 100 ปี และอัลลอฮ์ทรงทำให้อุซัยร์กลับมาในอายุที่เขามีอยู่ (ก่อนตาย)” (2)
เชิงอรรถ :
1.อัลกุรอานบทอัลบะกอเราะฮ์ โองการที่ 259 :
أَوْ کَالَّذی مَرَّ عَلى قَرْیَةٍ وَ هِیَ خاوِیَةٌ عَلى عُرُوشِها قالَ أَنَّى یُحْیی هذِهِ اللَّهُ بَعْدَ مَوْتِها فَأَماتَهُ اللَّهُ مِائَةَ عامٍ ثُمَّ بَعَثَهُ قالَ کَمْ لَبِثْتَ قالَ لَبِثْتُ یَوْماً أَوْ بَعْضَ یَوْمٍ قالَ بَلْ لَبِثْتَ مِائَةَ عامٍ فَانْظُرْ إِلى طَعامِکَ وَ شَرابِکَ لَمْ یَتَسَنَّهْ وَ انْظُرْ إِلى حِمارِکَ وَ لِنَجْعَلَکَ آیَةً لِلنَّاسِ وَ انْظُرْ إِلَى الْعِظامِ کَیْفَ نُنْشِزُها ثُمَّ نَکْسُوها لَحْماً فَلَمَّا تَبَیَّنَ لَهُ قالَ أَعْلَمُ أَنَّ اللَّهَ عَلى کُلِّ شَیْءٍ قَدیر
"หรืออุปมาเช่นผู้ที่ได้ผ่านเมืองหนึ่ง (คือบัยตุลมักดิส (เยรูซาเล็ม) ที่ถูกทำลายโดยกษัตริย์บุคตุนนัศร์แห่งบาบิโลน) โดยที่มันพังทับลงบนหลังคาต่างๆ ของมัน เขาได้กล่าวว่า อัลลอฮ์จะทรงให้ (ผู้คนใน) เมืองนี้มีชีวิตขึ้นได้อย่างไร หลังจากที่มันได้ตายไปแล้ว และอัลลอฮ์ก็ทรงให้เขาตายเป็นเวลาร้อยปี ภายหลังพระองค์ได้ทรงให้เขาฟื้นคืนชีพ พระองค์รงตรัสว่า เจ้าพักอยู่นานเท่าใด? เขากล่าวว่า ข้าพระองค์พักอยู่วันหนึ่งหรือบางส่วนของวันเท่านั้น พระองค์ทรงกล่าวว่า หามิได้! เจ้าพักอยู่นานถึงร้อยปี เจ้าจงมองดูอาหารของเจ้า และเครื่องดื่มของเจ้า มันยังไม่เน่าบูดเลย และจงมองดูลาของเจ้าซิ และเพื่อเราจะให้เจ้าเป็นสัญญาณหนึ่งสำหรับมนุษย์ และจงมองบรรดากระดูก (ของลาตัว) นั้น ว่าเราจะยกรวมมันเข้าไว้ในที่ของมันแล้วจะหุ้มมันด้วยเนื้ออย่างไร? ครั้นเมื่อสิ่งเหล่านั้นได้ประจักษ์แก่เขา เขาก็กล่าวว่า ข้าพระองค์รู้แล้วว่า แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่ง"
2.มุคตะซ็อร อัลบะซออิร, หน้า 103
บทความ : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ
Copyright © 2017 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้อิสลามสำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่