ท่านอิมามฮุเซน (อ.) เข้าสู่ดินแดนกัรบาลาในวันที่สองของเดือนมุฮัรร็อม ในปีฮิจเราะฮ์ที่ 61 ด้วยเหตุนี้ วันที่สองของเดือนมุฮัรร็อมจึงถูกตั้งชื่อให้เป็นวันแห่งการมาถึงกัรบาลของคาราวานของท่านซัยยิดุชชุฮะดาอ์ (อ.) วันที่สองเป็นสัญลักษณ์ของความแน่วแน่มั่นคง
ท่านอิมามฮุเซน (อ.) เข้าสู่ดินแดนกัรบาลาในวันที่สองของเดือนมุฮัรร็อม ในปีฮิจเราะฮ์ที่ 61 ด้วยเหตุนี้ วันที่สองของเดือนมุฮัรร็อมจึงถูกตั้งชื่อให้เป็นวันแห่งการมาถึงกัรบาลของคาราวานของท่านซัยยิดุชชุฮะดาอ์ (อ.) วันที่สองเป็นสัญลักษณ์ของความแน่วแน่มั่นคง ท่านอบาอับดิลลาฮ์ (อ.) ได้เผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆ มากมายนับตั้งแต่เริ่มต้นขบวนการต่อสู้ จากความไม่ซื่อสัตย์และการบิดพลิ้วคำมั่นสัญญาของชาวกูฟะฮ์ไปจนถึงการถูกกองทหารศัตรูไล่ล่า กระนั้นก็ตาม ท่านก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจ ไม่ยอมแพ้และยังคงแน่วแน่และมั่งคงต่อไปในเส้นทางแห่งเป้าหมายและเจตนารมณ์ของตนในการทำให้บรรลุซึ่งภารกิจแห่งพระเจ้า
การมาถึงกัรบะลา
กองคาราวานของท่านอิมามฮุเซน (อ.) มาถึงดินแดนกัรบาลาในวันที่สองของเดือนมุฮัรร็อม ขณะที่ถูกปิดล้อมด้วยกองทัพของฮุร บิน ยะซีด ริยาฮี เมื่อท่านอิมามได้ยินชื่อกัรบาลา ท่านกล่าวว่า :
هَذا مَوْضِعُ کَرْبٍ هاهُنا مُناخُ رِکابِنا وَ مَحَطُّ رِحالِنا وَ مَقْتَلُ رِجالِنا وَ مَسْفَکُ دِمائِنا بِهذا حَدَّ ثَنی جَدّی رَسُولُ اللّه صلی الله علیه و آله
“นี่คือสถานที่แห่งความโศกเศร้า ที่นี่คือสถานที่หยุดพักของสัตว์พาหนะของเรา สถานที่ลงสัมภาระของเรา นี่คือสถานที่แห่งการถูกสังหารของเหล่าบุรุษของเรา และสถานที่ถูกหลั่งเลือดของเรา ท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) ตาของฉันได้บอกเรื่องนี้แก่ฉัน” (1)
การปลอบใจท่านหญิงซัยนับ (อ.)
หลังจากคำพูดของท่านอิมามฮุเซน (อ.) พวกเขาทั้งหมดก็ลงจากสัตว์พาหนะและตั้งกระโจมเต็นท์ขึ้น และจากอีกด้านหนึ่ง กองทัพศัตรูพร้อมทหารจำนวนนับพันก็ตั้งค่ายอยู่ที่จุดตรงกันข้าม หลังจากตั้งที่พักในกัรบาลาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านอิมามฮุเซน (อ.) ได้นั่งลงที่มุมหนึ่งและขณะจัดเตรียมดาบของตนนั้น ท่านได้รำพึงรำพันด้วยบทกวีเกี่ยวกับความไม่ซื่อสัตย์ของโลก (ดุนยา) โดยกล่าวว่า :
يا دَهرُ أُفٍّ لَكَ مِن خَليلِ كَم لَكَ في الإِشراقِ وَالأَصيلِ
مِن صاحِبٍ وَطالِبٍ قَتيلِ وَالدَهرُ لا يَقنَعُ بِالبَديلِ
“กาลเวลาเอ๋ย! ความเป็นมิตรของเจ้านั้นช่างเลวร้ายเหลือ เจ้าได้เข่นฆ่ามิตรแท้และผู้แสวงหาไปเท่าใดแล้ว ตั้งแต่รุ่งอรุณจนพบค่ำ สิ่งใดก็ไม่อาจทดแทนได้เพียงพอสำหรับเจ้า” (2)
มีรายงานจากท่านอิมามซัจญาด (อ.) ว่า : “ในค่ำคืนที่วันรุ่งขึ้นของมันบิดาของฉันจะถูกสังหารนั้น ฉันก็นั่งอยู่ในกระโจม และท่านหญิงซัยนับ (อ.) อาของฉันได้ทำหน้าที่ดูแลและพยาบาลฉัน ในเวลานั้นเอง บิดาของฉันได้ปีกตัวออกไปจากบรรดาสหายของท่านและไปที่กระโจมของท่าน และญูน (3) (ทาสของอบูซัร ฆิฟารี) ก็อยู่กับท่านและกำลังยุ่งอยู่กับการซ่อมและจัดเตรียมดาบของท่าน (อ.) ในช่วงเวลานี้เอง บิดาของฉันได้รำพันบทกวีเหล่านี้ว่า :
يا دَهرُ أُفٍّ لَكَ مِن خَليلِ كَم لَكَ في الإِشراقِ وَالأَصيلِ
مِن صاحِبٍ وَطالِبٍ قَتيلِ وَالدَهرُ لا يَقنَعُ بِالبَديلِ
وَالأَمرُ في ذاكَ إِلى الجَليلِ وَكُلُّ حَيٍّ سالِكُ السَبيلِ
“กาลเวลาเอ๋ย! ความเป็นมิตรของเจ้านั้นช่างเลวร้ายเหลือ เจ้าได้เข่นฆ่ามิตรแท้และผู้แสวงหาไปเท่าใดแล้ว ตั้งแต่รุ่งอรุณจนพบค่ำ สิ่งใดก็ไม่ทดแทนได้เพียงพอสำหรับเจ้า แท้จริงทุกกิจการย่อมกลับคืนสู่พระองค์ และทุกชีวิตต้องเดินไปตามทางของมัน”
ท่านท่องบทกวีนี้ซ้ำ 2-3 ครั้งจนฉันเข้าใจและรู้ว่าจุดประสงค์ของท่านคืออะไร ฉันร้องไห้จนลำคอของฉันตีบตัน แต่ฉันกลั้นความรู้สึกไว้และไม่พูดอะไร และฉันรู้ว่าอีกไม่นานบะลาอ์ (การทดสอบ) ก็จะเกิดขึ้น และ (ซัยนับ) อาของฉันก็ได้ยินสิ่งที่ฉันได้ยินเช่นกัน แต่นางไม่อาจควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ ดังนั้นนางจึงลุกขึ้น และในขณะที่นางกำลังกระชากเสื้อผ้าของตนลงบนพื้น และทำอะไรไม่ถูกนั้น นางก็เข้าไปหาท่านอิมาม (อ.) และกล่าวว่า :
"โอ้ ความทุกข์ระทมเอ๋ย! ทำไมความตายจึงไม่พรากชีวิตไปจากฉันเสียวันนี้ เป็นเสมือนวันที่ฟาฏิมะฮ์ผู้เป็นมารดาของฉัน อะลีบิดาของฉัน และฮะซันพี่ชายของฉัน (อะลัยฮิมุสสะลาม) ได้ตายจากฉันไป โอ้ผู้สืบทอดบรรพชน โอ้ผู้เป็นที่พึ่งสุดท้ายที่ฉันยังเหลืออยู่ โอ้อบาอับดิลลาฮ์! ... ท่านกำลังเตรียมตัวสำหรับการถูกสังหารกระนั้นหรือ? (ท่านกำลังจะจากพวกเราไปอีกคนกระนั้นหรือ?)"
ท่านอิมามฮุเซน (อ.) ได้ปลอบประโลมจิตใจน้องสาวของท่าน และกล่าวกับเธอว่า : "โอ้น้องรัก! จงอดทนด้วยความอดทนแห่งอัลลอฮ์เถิด และพึงรู้เถิดไว้ว่า แท้จริงมนุษย์ทุกคนจะต้องพบกับความตาย แม้แต่ชาวฟ้าเองก็ไม่อาจจะคงชีวิตรอดอยู่ได้เช่นกัน แท้จริงสรรพสิ่งย่อมสิ้นสลาย เว้นแต่เพียงพระพักตร์ของอัลลอฮ์ (ซบ.) ผู้ทรงสร้างโลกนี้เท่านั้น และด้วยเดชานุภาพของพระองค์ พระองค์จะเป็นผู้ทำให้มนุษย์ทั้งหลายฟื้นคืนชีพขึ้นมา เพื่อพวกเขาจะมีชีวิตกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง พระองค์เท่านั้นที่จะทรงดำรงอยู่โดยพระองค์เอง บิดาของฉันนั้นประเสริฐกว่าฉัน มารดาของฉันก็ประเสริฐกว่าฉัน และพี่ชายของฉันก็ประเสริฐกว่าฉันเช่นกัน (แต่บุคคลเหล่านั้นก็จากโลกนี้ไปแล้ว) เป็นหน้าที่สำหรับฉันและบุคคลเหล่านั้น รวมไปถึงมุสลิมทุกคนที่จะต้องยึดถือเอาท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) เป็นแบบฉบับ”
ท่านอิมามฮุเซน (อ.) ได้กล่าวต่อไปว่า : "โอ้น้องรัก! โอ้อุมมุกุลซูม! โอ้ฟาฏิมะฮ์! โอ้รุบาบ! จงใคร่ครวญเถิด เมื่อใดก็ตามที่ฉันถูกสังหาร ขอพวกเจ้าอย่าได้ฉีกเสื้อผ้า อย่าได้ขีดข่วนหน้าตา และอย่าร้องให้คร่ำครวญใดๆ ทั้งสิ้น"
ท่านอิมามซัยนุลอาบิดีน (อ.) ได้กล่าวว่า : หลังจากที่อาของฉันสงบลงแล้ว บิดาของฉันก็พานางเข้ามาใกล้ฉัน และให้นางนั่งลงข้างฉัน แล้วท่านก็ออกไปหาบรรดาสหายของท่าน...” (3)
แต่ในวันอาชูรอหลังจากการเป็นชะฮีดของท่านอบาอับดิลลาฮ์ (อ.) นั้น ไม่มีใครอีกแล้วที่จะคอยปลอบโยนและทำให้ท่านหญิงซัยนับ (อ.) และบรรดาสตรีแห่งอะฮ์ลุลบัยต์ของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) สงบลงได้
แหล่งอ้างอิง :
1. อะอ์ยานุชชีอะฮ์, ซัยยิดมุห์ซิน อามีน อามิลี, เล่ม 1, หน้า 593
2. อัลกามิล ฟิตตารีค, อิบนุอะซีร, เล่ม 4, หน้า 58
3. อันซาบุลอัชรอฟ, บะลาซุรี, เล่ม 3, หน้า 185; ตารีคฏอบารี, เล่ม 7, หน้า 324; อัลกามิล ฟิตตารีค, อิบนิอะซีร, เล่ม 3, หน้า 275; อิรชาด, เชคมุฟีด, หน้า 232
บทความโดย : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ
Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่