ค่ำคืนที่หกเป็นค่ำคืนของบรรดาเยาวชนแห่งอาชูรอ และค่ำคืนของการซิกร์มุซีบัตของกอซิม บิน ฮะซัน (อ.) กอซิม บุตรชายของท่านอิมามฮะซัน (อ.) เกิดในปี ฮ.ศ. 47 ในเมืองมะดีนะฮ์ มารดาของท่าน ชื่อ "นะฟีละฮ์" หรือ "รอมละฮ์" หรือ "นัจมะฮ์" ท่านสูญเสียบิดา ขณะที่มีอายุได้สองขวบ ท่านได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาในอ้อมอกของท่านอิมามฮุเซน (อ.) อาผู้เป็นที่รักของท่าน จนกระทั่งเป็นชะฮีด และท่านอยู่ที่เหตุการณ์กัรบะลาพร้อมกับมารดาและพี่น้องคนอื่นๆ ของตน
กอซิม บิน ฮะซัน
กอซิม บุตรชายของท่านอิมามฮะซัน (อ.) เกิดในปี ฮ.ศ. 47 ในเมืองมะดีนะฮ์ มารดาของท่าน ชื่อ "นะฟีละฮ์" หรือ "รอมละฮ์" หรือ "นัจมะฮ์" ท่านสูญเสียบิดา ขณะที่มีอายุได้สองขวบ ท่านได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาในอ้อมอกของท่านอิมามฮุเซน (อ.) อาผู้เป็นที่รักของท่าน จนกระทั่งเป็นชะฮีด และท่านอยู่ที่เหตุการณ์กัรบะลาพร้อมกับมารดาและพี่น้องคนอื่นๆ ของตน
กอซิมในคืนของวันอาชูรอ
ตามรายงานหนึ่ง ในคืนของวันอาชูรอ เมื่อท่านอิมามฮุเซน (อ.) กล่าวเทศนาและกล่าวแก่บรรดาสหายของท่านว่า : “พรุ่งนี้ฉันและพวกท่านจะถูกสังหารทั้งหมด” กอซิมคิดว่าเกียรติและความภาคภูมิใจนี้จะเป็นของเหล่าบุรุษและผู้ใหญ่เพียงเท่านั้น และไม่รวมถึงบรรดาเยาวชน กอซิมจึงถามว่า : “พรุ่งนี้ข้าพเจ้าจะถูกสังหารด้วยหรือไม่?” ท่านอิมามฮุเซน (อ.) จึงได้ถามด้วยความเอ็นดูว่า : “โอ้ลูกของฉัน! ความตายในสายตาของเจ้าเป็นอย่างไรหรือ?” กอซิมกล่าวว่า : «احلی من العسل» “หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้ง” ท่านอิมาม (อ.) กล่าวว่า : “ใช่แล้ว! ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่า เจ้าเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่จะถูกสังหารหลังจากการถูกทดสอบอย่างหนักหน่วง” (1)
บทโคลงปลุกเร้าความกล้าหาญและข่มขวัญศัตรูในสนามรบ
ในวันอาชูรอ เมื่อถึงคราวของกอซิมที่จะออกไปสู้รบ เขาได้มาเพื่อขออนุญาตท่านอิมามฮุเซน (อ.) ท่านอิมาม (อ.) ได้โอบกอดเขาและทั้งคู่ก็ร้องไห้ชั่วขณะหนึ่ง แล้วกอซิมก็ขออนุญาตอีกครั้ง ท่านอิมามฮุเซน (อ.) ปฏิเสธที่จะอนุญาต กอซิมจูบมือและเท้าของท่านอิมาม (อ.) และยืนกรานรบเร้าในคำขอของตน แต่ท่านอิมาม (อ.) ก็ยังไม่ได้อนุญาต จนกระทั่งในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จในการทำให้ท่านอิมาม (อ.) อนุญาต มุลลา ฮุเซน กาชิฟี ได้เขียนเกี่ยวกับการที่กอซิมขออนุญาตจากท่านอิมามฮุเซน (อ.) และถูกปฏิเสธไว้เช่นนี้ว่า : ในที่สุด ท่านกอซิมก็แสดงปลอกแขนที่ท่านอิมาม ฮะซัน (อ.) บิดาของท่านได้ผูกไว้บนต้นแขนของท่าน และในนั้นท่านได้กำชับสั่งเสียไว้ว่า อย่าได้หยุดยั้งจากการช่วยเหลือฮุเซน (อ.) อาของตนอย่างเด็ดขาด ... เมื่อได้รับอนุญาต กอซิมก็เข้าสู่สนามรบ (2) ในขณะที่มารดาของท่าน ยืนเฝ้าดูท่านอยู่ที่ประตูกระโจม
ตามรายงานของอิบนุ ชะฮ์รอชูบ กอซิมได้รำพันบทปลุกเร้าความกล้าหาญและข่มขวัญศัตรูต่อไปนี้ในสนามรบว่า :
انی انا القاسُم من نسل علی
نحن و بیت الله اولی بالنبی
من شمر ذی الجوشن او ابن الدعی
“แท้จริงข้าชื่อกอซิม ผู้สืบเชื้อสายมาจากอะลี ขอสาบานต่อบัยตุลลอฮ์ว่า เราคู่ควรแก่ท่านศาสดามากกว่าชิมร์ ซิลเญาชัน หรือลูกคนชั่ว (อิบนุ ซิยาด) (3)
และหลังจากการสังหารศัตรูของอัลลอฮ์จำนวนหนึ่ง ในที่สุดเขาก็เป็นชะฮีด (4)
การเป็นชะฮีดของกอซิม
ฏอบารีและอบุลฟะร็อจ อิสฟะฮานีได้กล่าวถึงวิธีการเป็นชะฮีดของกอซิมโดยอ้างอิงจากฮะมีด บิน มุสลิม ไว้เช่นนี้ว่า :
“เด็กหนุ่มคนหนึ่งได้มายังพวกเรา ซึ่งมีใบหน้าเปล่งประกายราวกับพระจันทร์เสี้ยว ในมือของเขามีดาบ สวมเสื้อและกางเกง และรองเท้าแตะ และสายรัดของรองเท้าแตะของเขาข้างหนึ่งขาด ฉันจำได้ว่าเป็นสายรัตข้างซ้าย อัมร์ บิน ซะอีด อิซะดี กล่าวกับฉันว่า : “ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ ฉันจะโจมตีเขา!” ฉันกล่าวว่า : “มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่อัลลอฮ์ ขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮ์! เจ้าต้องการอะไรจากการกระทำนี้ กองทัพจำนวนมากที่อยู่รอบๆ จะจัดการกับเขาเอง” เขากล่าวว่า : “ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่าฉันจะโจมตีเขา!” เขาได้โจมตีและฟาดดาบลงบนศีรษะของกอซิม กอซิมได้หน้าคะมำลงกับพื้น และตะโกนว่า : "โอ้อาจ๋า!" ขอสาบานต่ออัลลอฮ์! ฮุเซนได้กระโจนเข้าไปยังผู้สังหารกอซิมเหมือนนกอินทรีย์และโจมตีเขาเหมือนราชสีห์ที่โกรธแค้นและฟันลงบนเขาอย่างแรง เขาใช้แขนของตนเป็นโล่ห์ป้องกัน แต่การฟันนั้นก็ได้ตัดแขนของเขาจากข้อศอก เขากรีดร้องและถอยออกไป ชาวกูฟะฮ์กลุ่มหนึ่งเข้าโจมตีเพื่อช่วยเขา แต่พวกเขาก็เหยียบย่ำเขาไว้ใต้กีบม้าจนกระทั่งเขาเสียชีวิต (5)
หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อฝุ่นในสนามรบจางลง เราได้เห็นท่านอิมามฮุเซน (อ.) ยืนอยู่เคียงข้างร่างของเด็กหนุ่มคนนั้น และเขากำลังถูส้นเท้าของตนบนพื้นดิน ณ เวลานั้น ท่านอิมามฮุเซน (อ.) กล่าวว่า :
بُعْداً لقومٍ قتلوك ومَنْ خصمهم يوم القيامة فيك جدّك
"กลุ่มชนที่สังหารเจ้านั้นอยู่ห่างไกลจากความเมตตาของอัลลอฮ์ และในวันกิยามะฮ์ ตาของเจ้าจะเป็นปฏิปักษ์ต่อพวกเขา” (6)
จากนั้นท่านก็กล่าวว่า :
عز والله على عمك ان تدعوه فلا يجيبك او يجيبك ثم لا ينفعك صوت والله كثر واتروه وقل ناصروه
“ขอสาบานต่ออัลลอฮ์! เป็นความเจ็บปวดต่ออาของเจ้าที่เจ้าเรียกหาเขา แต่เขาไม่สามารถตอบเจ้าได้ หรือเขาตอบเจ้า แต่เสียงตอบก็ไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรต่อเจ้า ในวันที่ศัตรูของเขามีมากมายและผู้ช่วยเหลือของเขามีน้อยนิด” (7) ฮะมีด บิน มุสลิม กล่าวว่า : จากนั้นท่านก็อุ้มเขาขึ้นมา ฉันเห็นขาทั้งสองข้างของเด็กชายผู้นั้นลากไปบนพื้น และฮุเซน (อ.) วางหน้าอกของเขาไว้บนหน้าอกของตน ฉันพูดกับตัวเองว่า : "ท่านจะพาเขาไปที่ไหนหรือ?" ท่านได้พาเขาไปวางลงข้างๆ อะลี อักบัร (อ.) ลูกชายของตน และบรรดาชะฮีดคนอื่นๆ ฉันถามชื่อของเด็กน้อยคนนั้น พวกเขากล่าวว่า เขาคือกอซิม บิน ฮะซัน (อ.) (8)
ในบทซิยารัตนาฮิยะฮ์ มุก็อดดะซะฮ์ ได้กล่าวถึงท่านกอซิมไว้ เช่นนี้ว่า :
“ขอควมสันติสุขจงมีแด่กอซิม บุตรของฮะซัน (อ.) ผู้ซึ่งดาบได้ถูกฟันลงบนศีรษะของเขา และชุดเกราะของเขาได้ถูกปล้นไป”
เมื่อเขาเรียกหาฮุเซน ผู้เป็นอา ท่านอิมามฮุเซน (อ.) ก็นำพาตัวเองไปยังกอซิมเหมือนอินทรย์นักล่า ท่านได้เห็นกอซิมถูเท้าบนพื้นดินขณะกำลังจะสิ้นใจ ท่านกล่าวว่า : “จงห่างไกลจากความเมตตาของอัลลอฮ์เลียเถิด กลุ่มชนที่สังหารเจ้า และผู้ที่จะเป็นปรปักษ์ต่อพวกเขาในปรโลกด้วยเหตุแห่งเจ้า คือปู่ของเจ้าและบิดาของเจ้า (9)
ทุกคนที่ล้มลงกับพื้นจะเรียกหาท่านอิมามฮุเซน (อ.) และท่านอิมามก็จะรีบรุดมายังร่างของเขา แต่โอ้อนิจจา ตั้งแต่ช่วงเวลาที่ท่านอิมามฮุเซน (อ.) ล้มลงในหลุมที่ถูกสังหารด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยเลือด ซัยนับ กุบรอ (อ.) ได้ร้องตะโกน :
وا مُحَمَّداه! وا عَلیّاه، وا جَعْفَراه
"โอ้ มุฮัมมัด! โอ้อะลิ! โอ้ญะฟัร!”
แหล่งอ้างอิง :
1. มะดีนะตุลมะอาญิซ, เล่ม 4, หน้า 214-215; นะฟะซุลมะฮ์มูม, เชคอับบาส กุมมี, หน้า 207
2. เราเฏาะตุชชุฮะดาอ์, มุลลา ฮุเซน กาชิฟี, เล่ม 1, หน้า 400
3. อัล มะนากิบ, อิบนุชะฮ์รอชูบ, เล่ม 3, หน้า 255
4. วะซีละตุดดาร็อยน์, อิบรอฮีม มุซาวี ซันญานี, หน้า 253
5. นาซิคุตตะวารีค, มุฮัมมัด ตะกี, เล่ม 2, หน้า 327
6. อัล อิรชาด, เชคมุฟีด, เล่ม 2, หน้า 108; อัล ลุฮูฟ, ซัยยิดอิบนุฏอวูซ, หน้า 168
7. ตารีค ฏอบะรี, เล่ม 5, หน้า 447
8. อัล อิรชาด, เชคมุฟีด, เล่ม 2, หน้า 107-108
9. บิฮารุลอันวาร, อัลลามะฮ์มัจญ์ลิซี, เล่ม 45, หน้า 67
บทความโดย : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ
Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่