วันอีดกุรบาน คือวันแห่งการเฉลิมฉลองความสำเร็จของปวงบ่าวในการปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากพระผู้เป็นเจ้า ชัยชนะของพวกเขาที่มีเหนืออารมณ์ใฝ่ต่ำ และการปฏิบัติตาม (ฆ่อรีซะฮ์) สัญชาตญาณแห่งความเป็นสัตว์ หรือกล่าวอีกสำนวนหนึ่งก็คือ วันอีดกุรบาน คือวันแห่งการเฉลิมฉลองชัยชนะของสติปัญญาของมนุษย์ที่มีเหนืออารมณ์ใฝ่ต่ำของตน
สรรพสิ่งถูกสร้าง (มัคลูกอต) ของพระผู้เป็นเจ้าแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
1.กลุ่มที่ปฏิบัติตามสัญชาตญาณแห่งความเป็นสัตว์ (ฆ่อรีซะฮ์) และอารมณ์ใคร่ ได้แก่ สรรพสัตว์ ทั้งหลาย
2.กลุ่มที่ปฏิบัติตามภาระหน้าที่ที่ถูกมอบหมายจากพระผู้เป็นเจ้าและตามสติปัญญาอันบริสุทธิ์ที่ พระองค์ทรงมอบให้แก่พวกเขา ได้แก่ มวลมลาอิกะฮ์ (ทวยเทพ)
3.กลุ่มผู้ซึ่งบางครั้งเลือกที่จะปฏิบัติตามสัญชาตญาณแห่งความเป็นสัตว์ (ฆ่อรีซะฮ์) ปฏิบัติตามความใคร่และอารมณ์ใฝ่ต่ำ และบางครั้งก็เลือกที่จะปฏิบัติตามภาระหน้าที่ได้รับมอบหมายจากพระผู้เป็นเจ้า กลุ่มนี้ได้แก่มวลมนุษย์
เมื่อใดก็ตามที่มนุษย์ยืนอยู่บนทางสองแพ่ง คือระหว่างการที่จะตามสัญชาติญาณแห่งความเป็นสัตว์ (ฆ่อรีซะฮ์) กับการปฏิบัติตามหน้าที่ที่ถูกมอบหมายจากพระผู้เป็นเจ้า หากเขาเลือกที่จะปฏิบัติตามสัญชาติญาณแห่งความเป็นสัตว์ (ฆ่อรีซะฮ์) และความใคร่ดังกล่าว เขาก็จะเข้ารวมอยู่ในกลุ่มของสัตว์เดรัจฉานทั้งหลาย ยิ่งไปกว่านั้น เขาจะมีสถานะที่ต่ำกว่าบรรดาสัตว์เดรัจฉาน เนื่องจากเขาไม่ได้ใช้ประโยชน์จากสติปัญญา ไม่ได้ใช้ความคิด ไม่ได้ใช้เหตุผลและคำแนะนำสั่งสอนต่างๆ ของปวงศาสดา (อ.) คัมภีร์อัลกุรอานได้กล่าวว่า
اولئك كالانعام بل هم اضل
“พวกเหล่านั้นประดุจดังปศุสัตว์ ทว่าพวกเขาเป็นผู้ที่หลงทางเสียยิ่งกว่า” (1)
มนุษย์จำนวนไม่น้อยที่ใช้ชีวิตประหนึ่งคนหูหนวกและตาบอด ประหนึ่งสัตว์เดรัจฉานและไม่พร้อมที่จะใช้สติปัญญาของตนเองคิดใคร่ครวญสิ่งใดทั้งสิ้น ดังที่คัมภีร์อัลกรุอานได้กล่าวว่า
إِنَّ شَرَّ الدَّوَابِّ عِنْدَ اللَّهِ الصُّمُّ الْبُكْمُ الَّذِينَ لا يَعْقِلُون
“แท้จริงสัตว์ที่ชั่วร้ายยิ่ง ณ อัลลอฮ์ คือผู้ที่หูหนวก ผู้ที่เป็นใบ้ ซึ่งพวกเขาไม่ใช้สติปัญญา” (2)
แต่มนุษย์คนใดก็ตามเมื่อเขายืนอยู่ในทางสองแพ่งที่อันตรายนี้ แต่เขาเลือกที่จะปฏิบัติตามหน้าที่ ปฏิบัติตามสิ่งที่ถูกมอบหมายจากพระผู้เป็นเจ้า เขาจะเข้าอยู่ในกลุ่มของมวลมลาอิกะฮ์และปวงบ่าวที่บริสุทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า ฮะดีษ (วจนะ) ของท่านอะมีรุลมุอ์มินีน (อ.) ได้กล่าวไว้เช่นนี้ว่า
إنّ الله ركّب في الملائكة عقلا بلا شهوة، وركّب في البهائم شهوةً بلا عقل، وركّب في بني آدم كلتيهما، فمن غلب عقله شهوته فهو خير من الملائكة، ومن غلب شهوته عقله فهو شرٌ من البهائم
“แท้จริงอัลลอฮ์ทรงประกอบไว้ในมลาอิกะฮ์ซึ่งสติปัญญาโดยปราศจากอารมณ์ใคร่ ทรงประกอบเข้าไว้ในสัตว์เดรัจฉานซึ่งอารมณ์ใคร่โดยปราศจากสติปัญญา และทรงประกอบไว้ในลูกหลานของอาดัมซึ่งทั้งสองประการ ดังนั้นผู้ใดที่สติปัญญาของเขาพิชิตอารมณ์ใคร่ของเขา เขาคือผู้ที่ประเสริฐกว่ามลาอิกะฮ์ และผู้ใดที่อารมณ์ใคร่ของเขาพิชิตสติปัญญาของเขา เขาเลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน” (3)
บุคคลที่สติปัญญาของเขาสามารถพิชิตอารมณ์ใคร่ของเขาได้ มนุษย์ที่เลือกปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้มอบหมายจากพระผู้เป็นเจ้า มนุษย์ที่ถูกรวมเข้าอยู่ในแถวของมวลมลาอิกะฮ์เท่านั้นที่จะเฉลิมฉลองความสำเร็จในชีวิตของเขา และวันนี้คืออีดของเขาได้ ตัวอย่างเช่น สัญชาติญาณ (ฆ่อรีซะฮ์) ของมนุษย์ซึ่งได้แก่ ความหิว ความกระหายและอารมณ์ทางเพศ จะนำพามนุษย์ไปยังอาหาร น้ำและคู่ครองของตนเอง แต่หน้าที่ที่ถูกกำหนดจากพระผู้เป็นเจ้าจะบอกแก่เขาว่า ในเดือนรอมฎอนเจ้าจะต้องงดเว้นสิ่งเหล่านี้ ใครก็ตามที่ตลอด 30 วัน ของเดือนรอมฎอนเขาได้ถือศีลอด เขาเลือกปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากพระผู้เป็นเจ้า งดเว้นจากการปฏิบัติตามอารมณ์ใคร่ งดเว้นการปฏิบัติตามสัญชาติญาณ (ฆ่อรีซะฮ์) เหล่านั้น เขาคือผู้ที่มีสิทธิ์อย่างแท้จริงในการเฉลิมฉลองวันอีดิลฟิฏรี่ เนื่องจากเขาประสบความสำเร็จในการสนองตอบพระบัญชาของพระผู้เป็นเจ้า
สัญชาตญาณแห่งความรักในลูกของตนเองได้บอกแก่ท่านศาสดาอิบรอฮีม (อ.) ว่า “อย่าเชือดและอย่าฆ่าอิสมาอีล (อ.) ลูกรักผู้เป็นแก้วตาดวงใจของตนเอง” แต่หน้าที่ที่ถูกบัญชาจากพระผู้เป็นเจ้าได้บอกแก่ท่านศาสดาอิรอฮีม (อ.) ว่า “จงเชือดพลีเขา” ในระหว่างทางสองแพ่งของท่านศาสดาอิรอฮีม (อ.) ความพึงพอพระทัยของพระผู้เป็นเจ้า และการเลือกปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายโดยพระองค์ มีชัยชนะเหนือความต้องการส่วนตัวและสัญชาติญาณของตนเอง ด้วยเหตุนี้วันนั้นจึงถือเป็นวันอีดของท่านศาสดาอิบรอฮีม (อ.) ที่เรียกว่า “อีดกุรบาน” หากเราอ่านในฮะดีษ (วจนะ) ของท่านอะมีรุลมุอ์มินีน (อ.) ที่ว่า ทุกๆ วันที่พระผู้เป็นเจ้าไม่ถูกละเมิดฝ่าฝืน วันนั้นถือเป็นวันอีด (วันแห่งการเฉลิมฉลอง) โดยท่านได้กล่าวว่า
كُلُّ يَومٍ لا يُعصَي اللَّهُ فيهِ فَهُوَ عِيدٌ
“ในทุกๆ วันที่พระผู้เป็นเจ้าไม่ถูกละเมิดฝ่าฝืน วันนั้นคือวันอีด” (4)
หมายความว่า สถานการณ์ที่มนุษย์ต้องยืนอยู่ระหว่างการเลือกสองอย่าง คือความต้องการของอารมณ์ใฝ่ต่ำ กับการสนองตอบพระบัญชาและหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากพระผู้เป็นเจ้า มนุษย์จะเลือกปฏิบัติตามประการที่สองนี้ ในสถานการณ์เช่นนี้และในช่วงเวลานั้นก็คืออีด (การเฉลิมฉลอง) สำหรับเขา ดังนั้นวันอีดกุรบาน คือวันที่สติปัญญาและพระบัญชาแห่งพระผู้เป็นเจ้ามีชัยชนะเหนือความต้องการ อันเป็นสัญญาณทางธรรมชาติและอารมณ์ใฝ่ต่ำ
เชิงอรรถ :
(1) อัลกุรอานบทอัลอะอ์รอฟ โองการที่ 179
(2) อัลกุรอานบทอัลอันฟาล โองการที่ 22
(3) บิฮารุลอันวาร เล่มที่ 6 หน้าที่ 299
(4) นะฮ์ญุลบะลาเฆาะฮ์ ฮิกมะฮ์ที่ 428
แปลและเรียบเรียง : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ
Copyright © 2018 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่