ทำไมกูฟะฮ์จึงเป็นที่ตั้งของรัฐบาลท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ?
ทำไมกูฟะฮ์จึงเป็นที่ตั้งของรัฐบาลท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ?

       ทั้ง ๆ ที่ชาวเมืองกูฟะฮ์เป็นผู้ที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อท่านอิมามอะลี (อ.) และท่านอิมามฮุเซน (อ.) แต่ทำไมท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) จึงจะไปที่เมืองกูฟะฮ์อีก และจะจัดตั้งรัฐบาลของตนเองขึ้นในเมืองนั้น? จะกล่าวได้หรือไม่ว่า เมื่อพิจารณาในแง่มุมของยุทธศาสตร์ด้านการทหาร กูฟะฮ์เป็นเมืองที่เหมาะสม ดังนั้นท่านอิมาม (อ.) จึงไปที่นั่นและจัดตั้งรัฐบาลของท่านขึ้นที่นั่น? ทำไมท่านอิมาม (อ.) จึงไม่เลือกเอาเมืองหนึ่งเมืองใดในประเทศอิหร่าน?

คำตอบ :

      เรื่องเกี่ยวกับท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) เป็นหนึ่งในเรื่องราวต่าง ๆ ซึ่งมีรากฐานที่มาอยู่ในคัมภีร์อัลกุรอาน และริวายะฮ์ (คำรายงาน) ของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ก็ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ในขั้นมุตะวาติร (คือมีผู้รายงานจำนวนมากและมีการรายงานมาอย่างต่อเนื่อง) ปัจจุบันประเด็นดังกล่าวนับว่าเป็นหนึ่งในเนื้อหาที่แน่นอนชัดเจนยิ่งประการหนึ่งของศาสนาอิสลาม

      มัซฮับ (แนวทาง) ชีอะฮ์อิมามียะฮ์จะพูดถึงเรื่องนี้ไว้มากกว่ามัซฮับ (แนวทาง) อื่น ๆ ทั้งนี้เนื่องจากบรรดาอิมาม (อ.) ผู้บริสุทธิ์ทุกท่านจะให้ความสำคัญในการอธิบายถึงเรื่องนี้ไว้เป็นพิเศษ ถึงขั้นที่ว่าทุกเวลาหากโอกาสอำนวยอิมามทุกท่านของเราจะกล่าวถึงการดำรงอยู่ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) และขบวนการปฏิวัติโลกของท่าน ด้วยเหตุนี้ในสายธารชีอะฮ์อิมามียะฮ์จะมีการกล่าวถึงรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับการปฏิวัติของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) และรัฐบาลโลกของท่าน อย่างไรก็ตามแม้เรื่องราวและคำรายงาน (ริวายะฮ์) เกี่ยวกับเรื่องนี้จะมีจำนวนมากมาย แต่การที่จะแยกแยะคำรายงาน (ริวายะฮ์) ที่ซอเฮี๊ยะห์ (ถูกต้อง) ออกจากคำรายงานที่ฎออีฟ (อ่อนแอ) นั้นเป็นหน้าที่ของผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในศาสตร์สาขานี้ ไม่ใช่ว่าเพียงแค่พบเห็นฮะดีษ (วจนะ) บทหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็จะตัดสินชี้ขาดได้ในทันทีว่าเรื่องราวของขบวนการปฏิวัติของท่านอิมาม (อ.) และสภาพของรัฐบาลของท่านจะต้องเป็นดังที่ปรากฏในคำรายงาน (ริวายะฮ์) ที่เราพบเห็น

      แต่โดยภาพรวมแล้วรายละเอียดที่ได้กล่าวถึงในคำรายงานทั้งหลาย ส่วนหนึ่งของประเด็นต่าง ๆ ที่ถูกกล่าวถึงเกี่ยวกับรัฐบาลโลกของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) นั่นคือที่ตั้งของรัฐบาลของท่านซึ่งในบางคำรายงาน (ริวายะฮ์) ได้กล่าวถึงชื่อของเมืองกูฟะฮ์ไว้ แต่มีคำถามว่า ทำไมเมืองกูฟะฮ์จึงถูกกำหนดให้เป็นสถานที่ตั้งของรัฐบาลของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ทั้ง ๆ ที่เมืองกูฟะฮ์นั้นมีประวัติที่ไม่ดีงามกรณีที่ประชาชนของเมืองนี้ไม่ซื่อสัตย์และไม่รักษาคำมั่นสัญญา จำเป็นต้องตอบว่า

      ประการแรก พระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าต้องการที่จะให้รัฐบาลโลกและขบวนการยืนหยัดต่อสู้ของท่านอิมาม (อ.) ถูกจัดตั้งขึ้นโดยมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองกูฟะฮ์ ซึ่งท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) และบรรดาอิมาม (อ.) ผู้บริสุทธิ์ได้แจ้งข่าวดีเอาไว้ และมีการเน้นย้ำไว้อย่างมากมาย บางคำรายงาน (ริวายะฮ์) ได้ชี้ชัดว่าเป็นการกำหนดโดยพระผู้เป็นเจ้าโดยกล่าวว่า จุดเริ่มต้นของขบวนการปฏิวัติของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) จะเกิดขึ้นในมหานครมักกะฮ์ หลังจากนั้นสถานที่ตั้งรัฐบาลของท่านจะอยู่ในเมืองกูฟะฮ์ 

      ประการที่สอง ความไม่ซื่อสัตย์ของประชาชนชาวเมืองกูฟะฮ์ในสมัยหนึ่งนั้น ไม่ใช่เหตุผลที่จะเป็นตัวชีวัดว่าในอนาคตซึ่งก็ยังไม่ชัดเจนว่าเมื่อใด ที่ว่าผู้คนในเมืองนั้นจะมีลักษณะของความไม่ซื่อสัตย์เพราะในอนาคตไม่เป็นที่ชัดเจนสำหรับเรา ยิ่งไปกว่านั้น ความไม่ซื่อสัตย์ของประชาชนชาวเมืองกูฟะฮ์ในสมัยของท่านอิมามอะลี (อ.) และท่านอิมามฮุเซน (อ.) ก็ไม่ใช่สาเหตุทำให้บ้านเมืองนั้นไร้ความดีงามและความน่าเชื่อถือไปด้วยก็หาไม่ ทั้งนี้เนื่องจากมีคำรายงาน (ริวายะฮ์) จากบรรดาอิมาม (อ.) ผู้บริสุทธิ์ ซึ่งท่านเหล่านั้นได้กล่าวสรรเสริญยกย่องเมืองกูฟะฮ์และชาวเมืองกูฟะฮ์ไว้ ซึ่งส่วนหนึ่งจากตัวอย่างของคำรายงานเหล่านั้นได้แก่

      อับดุลลอฮ์ บินวะลีดเล่าว่า เราได้ไปพบท่านอิมามซอดิก (อ.) ในสมัยการปกครองของมัรวาน ท่านอิมามถามพวกเราว่า “พวกท่านมาจากไหน (เป็นชาวเมืองใด)” พวกเรากล่าวว่า “พวกเราเป็นชาวกูฟะฮ์” ท่านกล่าวว่า “ไม่มีแผ่นดินและเมืองใดที่จะรักเรามากไปกว่าชาวเมืองกูฟะฮ์” (1) (กล่าวคือชาวกูฟะฮ์นั้นมีความรักต่ออะฮ์ลุลบัยติ์มากกว่าชาวเมืองอื่น ๆ) 

      หากเราจะถือว่าคำรายงาน (ริวายะฮ์) บทนี้ เฉพาะเจาะจงในสมัยของท่านอิมามซอดิก (อ.) แล้วเราก็สามารถสรุปได้เช่นนี้ว่า ความไม่ซื่อสัตย์ของคนในยุคสมัยหนึ่งนั้นไม่ใช่เหตุผลที่จะชี้ว่าทุกยุคสมัยชาวเมืองนั้นจะต้องมีลักษณะที่ไม่มีความซื่อสัตย์ด้วย แต่ทว่าในยุคสมัยของท่านอิมามซอดิก (อ.) พวกเขาได้รับการยกย่องสรรเสริญโดยท่านอิมามซอดิก (อ.)

      คำรายงานอีกบทหนึ่งจากท่านอิมามซอดิก (อ.) ซึ่งท่านกล่าวว่า
“วิลายะฮ์ (อำนาจการปกครอง) ของเราถูกนำเสนอแก่ชั้นฟ้าทั้งหลาย แผ่นดิน ภูเขาและเมืองต่างๆ และไม่มีผู้ใดยอมรับวิลายะฮ์ของเราเหมือนดังที่ชาวกูฟะฮ์ยอมรับ” (2)

      ดังนั้นการมีอยู่ของคำรายงาน (ริวายะฮ์) ต่าง ๆ เช่นนี้ เป็นที่ชัดเจนว่า ความไม่ซื่อสัตย์ของกลุ่มชนหนึ่งอันเป็นเฉพาะนั้น ไม่ได้เป็นสาเหตุทำให้ประชาชนของเมืองหนึ่งจะต้องกลายเป็นผู้ที่มีลักษณะของความไม่ซื่อสัตย์ตลอดไป แต่ทว่าในทุกยุคสมัยชาวเมืองนั้น ๆ จะต้องถูกทดสอบ เพื่อจะได้รับรู้ว่าพวกเขาเป็นผู้ศรัทธาที่แท้จริงและมั่นคงต่อเป้าหมายต่าง ๆ ของตนเองหรือไม่

     ประการที่สาม สถานที่ของเมืองกูฟะฮ์เป็นสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่ง บางทีเนื่องจากความศักดิ์สิทธิ์ของเมืองนี้นี่เองที่พระผู้เป็นเจ้าทรงประสงค์ที่จะให้เมืองอันศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นสถานที่ตั้งของรัฐบาลของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ผู้ช่วยให้รอดเพียงหนึ่งเดียวของโลก ผู้ที่จะมาแก้ไขปรับปรุงโลกในยุคสุดท้าย (ซึ่งเราเองไม่อาจที่จะล่วงรู้ถึงเหตุผลและฮิกมะฮ์ (วิทยปัญญา) ของพระองค์ในเรื่องนี้ได้) และสิ่งนี้ก็ไม่มีความเกี่ยวข้องแต่ประการใดกับสภาพการณ์ของประชาชนในที่นั้นที่ว่าพวกเขามีประวัติศาสตร์ที่ดีงามหรือไม่

     มีคำรายงาน (ริวายะฮ์) ต่าง ๆ ในเรื่องของวิลายะฮ์ (อำนาจการปกครอง) ที่เนื่องมาจากความศักดิ์สิทธิ์ของเมืองกูฟะฮ์ ตัวอย่างเช่นคำรายงานต่อไปนี้

     ท่านอิมามซอดิก (อ.) ได้กล่าวว่า “กูฟะฮ์เป็นสวนหนึ่งจากบรรดาสวนของสวรรค์ ในสถานที่แห่งนี้มีหลุมฝังศพของ (ศาสดา) นูห์ อิบรอฮีม ... และหลุมฝังศพของซัยยิดุลเอาซิยาอ์ (หัวหน้าของบรรดาผู้สืบทอดของท่านศาสดา) คือท่านอะมีรุลมุอ์มินีน” (3)

     ท่านอิมามซอดิก (อ.) ได้กล่าวว่า “การบริจาคเงินหนึ่งดิรฮัมในเมืองกูฟะฮ์เทียบเท่ากับการบริจาคเงินจำนวน 100 ดิรฮัมในเมืองอื่น ๆ และการนมาซสองร่อกาอัตในเมืองกูฟะฮ์เทียบเท่ากับการนมาซ 100 ร่อกาอัต” (4)

     ประการที่สี่ รัฐบาลของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) คือรัฐบาลโลก เมื่อท่านกำหนดให้เมืองกูฟะฮ์เป็นสถานที่ตั้งของรัฐบาลของท่าน ดังนั้นสถานที่ดังกล่าวจึงมิได้ถูกจำกัดว่าเป็นเฉพาะของประชาชนในเมืองนั้นเพียงเท่านั้น สถานที่ตั้งรัฐบาล (เมืองหลวง) ดังกล่าวนี้จะเป็นของชาวโลกทั้งมวล

พระผู้เป็นเจ้าทรงคัดเลือกแผ่นดินสี่แห่งท่ามกลางแผ่นดินทั้งหลาย โดยที่พระองค์ทรงตรัสว่า

 وَ التِّينِ وَ الزَّيْتُونِ وَ طورِ سِينِينَ وَ هَذَا الْبَلَدِ الأَمِينِ

“ขอสาบานด้วยอัตตีน (ต้นมะเดื่อ) และอัซซัยตูน (ต้นมะกอก) และฎูรซีนาย และเมืองที่ปลอดภัย (บะละดุลอะมีน) นี้

(อัลกุรอานบทอัตตีน โองการที่ 1-3)

**อัตตีน**คือเมืองมะดีนะฮ์ อัซซัยตูน คือบัยตุลมักดิส (เยรูซาเล็ม) ฎูรซีนีน คือเมืองกูฟะฮ์ และบะละดุลอะมีน คือเมืองมักกะฮ์” (5)


เชิงอรรถ :

1 - ซะฟีนะตุลบิฮาร เล่มที่ 7 หน้าที่ 543

2 - ซะฟีนะตุลบิฮาร เล่มที่ 7 หน้าที่ 546

3 - ซะฟีนะตุลบิฮาร เล่มที่ 7 หน้าที่ 544

4 - ซะฟีนะตุลบิฮาร เล่มที่ 7 หน้าที่ 543

5 -ซะฟีนะตุลบิฮาร เล่มที่ 7 หน้าที่ 543

อ่านเพิ่มเติมจากหนังสือต่อไปนี้
1. มะฮ์ดี เมาอูด, แปลโดย อะลี ดะวานี 
2. อัลอิรชาด, เชคมุฟีด


บทความโดย : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

Copyright © 2017 SAHIBZAMAN.NET-สื่อเรียนรู้อิสลามสำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 297 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

26406844
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
5528
8184
41036
26283640
24811
234739
26406844

พฤ 03 ก.ค. 2025 :: 21:19:19