ความขัดแย้งระหว่างชาติอาหรับกับเปอร์เซียที่มีมายาวนาน จนบางคนผูกโยงให้สืบเนื่องจนถึงปัจจุบัน นักวิชาการบางท่านชี้ว่าสงครามแปดปีระหว่างอิรักกับอิหร่าน ปี ค.ศ 1980-1988 คือสงครามระหว่างพวกอาหรับกับเปอร์เซีย เพื่อช่วงชิงความเป็นใหญ่ในภูมิภาค และในอีกมุมหนึ่งคือความขัดแย้งระหว่างซุนนีกับชีอะห์.....
มายาคติ “จันทร์เสี้ยวชีอะห์” หรือการขู่ให้กลัวจันทร์เสี้ยวชีอะฮ์นั้นเป็นความผิดพลาดที่ใหญ่หลวง และถือเป็นส่วนหนึ่งจากการโฆษณาชวนเชื่อที่หน่วยสืบราชการลับทั้งหลายได้ใช้เพื่อทำลายชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของชีอะฮ์
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ได้รายงานเกี่ยวกับประเด็นนี้ โดยเขียนว่า : การข่มขู่ให้หวั่นกลัวจันทร์เสี้ยวชีอะฮ์นั้นเป็นความผิดพลาดที่ใหญ่หลวง และถือเป็นส่วนหนึ่งจากการโฆษณาชวนเชื่อที่หน่วยสืบราชการลับทั้งหลายนำมาใช้ โดยอาศัยคำฟัตวาต่างๆ ของกลุ่มตักฟีรีย์ เพื่อทำลายชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของชีอะฮ์ แต่แล้วไม่นานเท่าใดนักผลที่ออกมากลับเป็นสิ่งที่ตรงกันข้าม และผู้ที่ขุดหลุมพรางกลับตกลงไปในหลุมเสียเอง จนกระทั้งล่าสุดต้องประกาศถอนตัวกลับบ้านใครบ้านมันไปแล้ว
ในส่วนถัดไปของรายงานนี้ได้กล่าวว่า : ชาวชีอะฮ์ในอิรักและในภูมิภาคต้องการที่จะใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากการปรากฏตัวขึ้นของกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ กลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากบางรัฐบาลของกลุ่มประเทศอิสลามและองค์กรการกุศลต่างๆ ที่หลอกลวง ที่เรียกร้องเชิญชวนสู่อิสลาม แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับห่างไกลจากอิสลามและคำสอนต่างๆ อันสูงส่งของอิสลาม
วอชิงตันโพสต์ได้เสริมว่า : นักการเมืองชาวจอร์แดนผู้หนึ่งได้แสดงความสำนึกเสียใจต่อการขู่ต่างๆ ของบางคนเกี่ยวกับจันเสี้ยวชีอะฮ์ คำเตือนต่างๆ ที่พยายามจะบอกว่าชาวชีอะฮ์ คือกลุ่มชนที่ต้องการจะพิชิตและครอบงำเหนือภูมิภาคตะวันออกกลาง แต่ทว่าข้อเท็จจริงในประเด็นนี้กลับพิสูจน์ให้เห็นไปในทางที่ตรงกันข้าม ผู้ที่เผา "มุอาซ อัลกิซาซิบะฮ์" นั้นไม่ใช่ชาวชีอะฮ์ แต่เป็นพวกสุดโต่งชาวซุนนี่ (ตามสำนวนของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้) ซึ่งพวกเขาไม่ต้องการให้สันติภาพและความสงบสุขเกิดขึ้นในภูมิภาค
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ได้กล่าวในตอนท้ายว่า : ชาวชีอะฮ์ในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวอิรัก ได้ทำสงครามและทำการต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับชาวอะฮ์ลิซซุนนะฮ์ในการต่อต้านและปราบปรามกลุ่มดาอิช (ISIS) เพื่อให้อิรักหมดจากกลุ่มก่อการร้าย เพื่อที่ประชาชนจะได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขและห่างไกลจากการสร้างความแตกแยก
วาทกรรมจันทร์เสี้ยวชีอะห์ เป็นการสรุปว่าประเทศนี้ประเทศนั้นเป็นส่วนหนึ่งของจันทร์เสี้ยวชีอะห์จึงเป็นเรื่องแปลกประหลาด ไม่มีเกณฑ์ชัดเจน ซ้ำยังขัดแย้งกันเองซึ่งเป้าหมายที่ชัดเจนที่สุดที่สามารถมองเห็นคือความพยายามเชื่อมโยงให้ประเทศเหล่านี้ผูกกับจันทร์เสี้ยวชีอะห์ ผูกโยงกับอิหร่าน พวกต่อต้านชีอะห์พยายามพูดว่าชีอะห์มีเอกภาพเพื่อชี้ว่าเป็นอันตรายร้ายแรง โยงถึงต้นตอความขัดแย้งว่า อิหร่านสนับสนุนผู้ก่อการร้ายหลายกลุ่ม ทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากการปฏิวัติการนำโดยของอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) เมื่อปี 1979 เป็นการปฏิวัติสร้างความแบ่งแยกทางนิกายในภูมิภาคอย่างรุนแรง ส่งออกการปฏิวัติ เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ในขณะที่นักวิชาการบางท่านอธิบายว่าแท้จริงแล้วชีอะห์ในที่ต่างๆ ทั่วโลกไม่มีเอกภาพ เป็นวาทกรรมจันทร์เสี้ยวชีอะห์เท่านั้น
ไม่ว่าจะนิยามจันทร์เสี้ยวชีอะห์อย่างไร ข้อพึงตระหนักคือเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น เพื่อต่อต้านชีอะห์กับอิหร่าน เป็นยุทธศาสตร์สร้างศัตรู (กำหนดให้เป็นศัตรู) ซึ่งในความเป็นจริงไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งทางเชื้อชาติหรือศาสนานิกาย เป็นความต้องการแผ่ขยายอำนาจของชนชั้นปกครองซาอุดีอาราเบียกับพันธมิตร เพื่อจะปกป้องอำนาจของพวกเขาในภูมิภาคนี้จากการคุกคามจากอิหร่านในยุคการตื่นตัวของประชาชาติอิสลาม ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ และระบอบไซออนิสต์เห็นชอบและสนับสนุนอย่างเป็นทางการเพราะหวาดกลัวการสูญเสียอิทธิพลในภูมิภาค
Copyright © 2017 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้อิสลามสำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่