แผนการต่าง ๆ ของอิสราเอลในการโจมตีอิหร่านในหนังสือสองเล่มนี้
แผนการต่าง ๆ ของอิสราเอลในการโจมตีอิหร่านในหนังสือสองเล่มนี้

ซัยยิดมะฮ์ดี เดซฟูลี : ในช่วงวันหยุดของอีดปีนี้ ผมได้อ่านหนังสือสองเล่ม คือ หนังสือ “พันธกิจศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอลในการต่อต้านอิหร่าน” (ISRAEL'S DIVINE MISSION AGAINST IRAN) และ “เป้าหมาย : เตหะราน” (TARGET TEHRAN) หนังสือทั้งสองเล่มนี้ค่อนข้างใหม่และได้ชี้ถึงประเด็นต่าง ๆ ที่น่าสนใจและพิเศษเกี่ยวกับอิหร่าน

หนังสือพันธกิจอันศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอลในการต่อต้านอิหร่าน

    หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นหลังจากวันที่ 7 ตุลาคม (ปฏิบัติการพายุอัลอักซอ) และพูดถึงการดำเนินการต่าง ๆ ที่เป็นปฏิปักษ์ต่ออิหร่านโดยเฉพาะ

    ในเนื้อหาส่วนหนึ่งของหนังสือระบุอย่างชัดเจนว่า อิสราเอลกำลังพยายามลอบสังหารและกำจัดอายะตุลลอฮ์คอเมเนอี ก่อนที่จะโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน ด้วยเหตุผลหลายประการ :

1. การกำจัดผู้นำอิหร่านจะส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจและความวุ่นวายภายในระบบการเมืองอิหร่าน รวมถึงขวัญกำลังใจของกองกำลังของระบอบการปกครอง

2. มันจะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากการป้องกันประเทศและจะสร้างโอกาสที่ดีในการโจมตีอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ของอิหร่าน และระบอบการปกครองอิหร่านไม่สามารถหาคนมาแทนที่เขา (ผู้นำ) ได้อย่างรวดเร็ว

3. อำนาจของอิสราเอลจะถูกแสดงให้ฝ่ายตรงข้ามได้เห็นว่าว่ามันสามารถโจมตีได้ขนาดไหน

    แต่หากการลอบสังหารครั้งนี้ถูกเลื่อนออกไปหลังจากการทิ้งระเบิดพื้นที่อุตสาหกรรมนิวเคลียร์แล้ว ก็ยังมีหลายประเด็นดังนี้ :

1. ภายหลังจากคลื่นการโจมตีต่าง ๆ ที่รุนแรง ประเด็นการล่มสลายของระบอบการปกครองขึ้นอยู่กับว่า การโจมตีหนักหน่วงและการลอบสังหารผู้นำอิหร่านจะสามารถเอาชนะกลไกการปรับตัวของระบอบการปกครองได้หรือไม่ ในขณะที่สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านกำลังเผชิญกับการประท้วงของประชาชนอย่างกว้างขวาง การกำจัดผู้นำในเวลาเดียวกันผ่านการลอบสังหารและการทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านนิวเคลียร์จะทำให้ผู้นำ (ใหม่) ของมันควบคุมประเทศได้ยากและนำไปสู่การล่มสลาย

2. การประท้วงของประชาชนอาจจะขยายตัวและนำไปสู่การประท้วงอย่างกว้างขวางและการล่มสลายของระบอบการปกครองจะเกิดขึ้นในทันทีหลังจากการทิ้งระเบิดโรงงานนิวเคลียร์

    อิสราเอลได้เตรียมแผนต่าง ๆ ของตนสำหรับสถานการณ์ต่าง ๆ ก่อนและหลังการทิ้งระเบิดไว้แล้ว

หนังสือ "เป้าหมาย : เตหะราน"

    ส่วนในหนังสือ “เป้าหมาย : เตหะราน” หน้า 50 ถึง 57 ได้กล่าวถึงหลายประเด็นที่สำคัญ หลังจากที่ชารอนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของอิสราเอล เขาก็มองหาตัวเลือกที่กล้าหาญและปฏิบัติงานได้เหมือนตัวเขาเองในการเป็นผู้นำมอสสาด เขามาถึงเมียร์ ดาแกน แม่ทัพผู้กล้าหาญซึ่งดูเหมือนคนคาบมีดสั้นไว้ในปากของตน

    ดาแกน มีกลยุทธ์ 5 ประการ ในการเผชิญหน้ากับอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ของอิหร่าน เขาเชื่อว่าอิสราเอลควรทำลายและหยุดยั้งโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และควรหลีกเลี่ยงการโจมตีทางทหารโดยตรง เนื่องจากต้นทุนของมันสูงเกินไป และความเสี่ยงนั้นอันตรายอย่างยิ่ง ยกเว้นภายใต้เงื่อนไขสองประการ :

    ก) ควรวางมีดสั้นไว้บนต้นคอของอิสราเอล (ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงหลังจากวันที่ 7 ตุลาคม)

    ข) กองกำลังที่สนับสนุนอิหร่าน เช่น กลุ่มฮิซบุลลอฮ์ และกลุ่มฮามาส เป็นต้น ไม่เป็นภัยคุกคามทางการทหารและขีปนาวุธต่ออิสราเอลอีกต่อไป (ซึ่งก็เกิดขึ้นจริงหลังจากวันที่ 7 ตุลาคม)

    ตามข้อเขียนของหนังสือ แม้กระทั่งในสมัยที่เอฮุด โอลเมิร์ต ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อบุช จูเนียร์ไปเยือนอิสราเอล โอลเมิร์ตและเอฮุด บารัคได้เสนอแผนการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านให้กับบุช

    บุชได้คัดค้านอย่างรุนแรง (แต่ตอนนี้ทรัมป์เห็นด้วยอย่างเต็มที่) เมื่อดาแกนและกาบี แอชเคนาซี เสนาธิการกองทัพอิสราเอล ทราบถึงแผนการและการหารือดังกล่าว พวกเขาโกรธมากและแปลกใจว่าเหตุใดอิสราเอลจะต้องเสี่ยงอันตรายกับอิหร่านเช่นนี้ ในเมื่อโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านสามารถหยุดยั้งได้ด้วยการจารกรรมและการก่อวินาศกรรม

    ดาแกนวิเคราะห์ว่า อิสราเอลควรดำเนินการและลงทุนในสองประเด็นในอิหร่าน

    หนึ่ง) สร้างขบวนการนักศึกษาเรียกร้องประชาธิปไตยต่อต้านระบอบการปกครอง

    สอง) สนับสนุนชนกลุ่มน้อยที่ต่อต้านระบอบการปกครอง เช่น ชาวเคิร์ด ชาวอาเซอรี และชาวบาลูจิ


ที่มา : ซัยยิดมะฮ์ดี เดซฟูลี, ทวิตเตอร์

แปลและเรียบเรียง : Naeem Elahi Pradapyari

Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 152 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

26833421
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
4777
8113
43099
26741995
208043
243345
26833421

พฤ 28 ส.ค. 2025 :: 15:13:19