อิสราเอล แคทซ์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของอิสราเอล สั่งให้กองทัพของรัฐบาลเตรียมแผนบังคับให้ชาวปาเลสไตน์ "ออกจากฉนวนกาซาโดยสมัครใจ" ตามข้อเสนออันกล้าหาญของทรัมป์ ซึ่งจะช่วยให้ประชากรกาซาจำนวนมากสามารถย้ายไปยังสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลกได้
คำสั่งของ อิสราเอล แคทซ์ เมื่อวันพฤหัสบดีนั้น ตามมาหลังข้อเสนอซึ่งก่อให้เกิดการโต้แย้งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากฉนวนกาซา และให้สหรัฐฯ เข้ายึดครองดินแดนแห่งนี้ที่ถูกทำลายจากสงคราม
นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวในแถลงการณ์ว่า “ผมได้สั่งให้กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) จัดทำแผนเพื่อให้ชาวกาซาสามารถเดินทางออกโดยสมัครใจได้”
อิสราเอล แคทซ์ ระบุว่า เขาได้แจ้งต่อกองทัพอิสราเอลให้เตรียมการ "เพื่อให้ชาวกาซาคนใดก็ตามที่ต้องการออกไปสามารถออกไปได้ ไปยังประเทศใด ๆ ก็ได้ ที่ยินดีรับพวกเขา"
รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของอิสราเอลกล่าวเสริมว่า “แผนดังกล่าวจะรวมถึงทางเลือกในการเดินทางออกทางบก รวมถึงการเตรียมการพิเศษสำหรับการเดินทางทางทะเลและทางอากาศ”
แคทซ์กล่าวว่า เขายินดีกับ "แผนการอันกล้าหาญของทรัมป์ ซึ่งจะช่วยให้ประชากรกาซาจำนวนมากสามารถย้ายไปยังสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลกได้"
ข้อเสนอของทรัมป์เกี่ยวกับฉนวนกาซาได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศหลายกลุ่ม ตลอดจนประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น รัสเซีย จีน และเยอรมนี ซึ่งระบุว่า ข้อเสนอดังกล่าวจะก่อให้เกิด "ความทุกข์ทรมานและความเกลียดชังรูปแบบใหม่"
ขณะเดียวกัน ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาได้ให้คำมั่นว่า จะไม่ทิ้งดินแดนฉนวนกาซาแม้บ้านเรือนของพวกเขาอยู่ในสภาพซากปรักหักพังก็ตาม
ซามีร์ อาบู บาเซิล คุณพ่อลูกห้า ซึ่งถูกขับไล่จากบ้านของเขาในพื้นที่ใกล้เมืองจาบาเลีย ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา กล่าวว่า “ทรัมป์สามารถลงนรกได้ด้วยแนวคิดของเขา ด้วยเงินของเขา และด้วยความเชื่อของเขา เราจะไม่ไปไหนทั้งนั้น เราไม่ใช่ทรัพย์สินของเขา”
ซามีร์ อาบู บาเซิล กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า “หากเขาต้องการแก้ไขความขัดแย้งนี้ เขาควรนำชาวอิสราเอลไปไว้ที่รัฐใดรัฐหนึ่ง [ในอเมริกา] พวกเขาคือคนแปลกหน้า ไม่ใช่ชาวปาเลสไตน์ เราคือเจ้าของดินแดน”
“เขาพูดด้วยความเย่อหยิ่งมาก… เขาสามารถทดสอบพวกเราได้ และเร็ว ๆ นี้ เขาจะพบว่าจินตนาการของเขาไม่เป็นผลกับพวกเรา”
ซามิ อาบู ซูห์รี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านของชาวปาเลสไตน์ กล่าวว่า ถ้อยแถลงของทรัมป์เกี่ยวกับการยึดครองดินแดนดังกล่าวนั้น “ไร้สาระและไร้เหตุผล” และเสริมว่า “แนวคิดใด ๆ ก็ตามในลักษณะนี้สามารถจุดชนวนให้เกิดความขัดแย้งในภูมิภาคนี้ได้”
ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างฮามาสและอิสราเอลมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2568 โดยมุ่งหวังที่จะยุติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซาของระบอบการปกครองอิสราเอลที่ดำเนินมานานกว่า 15 เดือน ซึ่งคร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปเกือบ 62,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก โดยตัวเลขดังกล่าวยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากมีศพอื่น ๆ ถูกกู้ออกมาจากซากปรักหักพังเพิ่มมากขึ้น
แม้จะลงนามข้อตกลงหยุดยิงแล้ว แต่อิสราเอลกลับละเมิดข้อตกลงนี้อย่างต่อเนื่องด้วยการโจมตีทางอากาศ การซุ่มโจมตี และการปิดล้อมความช่วยเหลือทุกวัน ในขณะที่ฮามาสยังคงยึดมั่นกับข้อตกลงนี้
ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี
Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่