ผู้ช่วยให้รอดใน "ชีอะฮ์และอารยธรรมตะวันตก" ความแตกต่างและความคล้ายคลึง
ผู้ช่วยให้รอดใน "ชีอะฮ์และอารยธรรมตะวันตก" ความแตกต่างและความคล้ายคลึง

 ผู้ช่วยให้รอด เป็นแนวคิดสากลที่ปรากฏอยู่ในศาสนาและวัฒนธรรมต่าง ๆ ในรูปแบบที่แตกต่างกัน เรากำลังพยายามเปรียบเทียบผู้ช่วยให้รอดในแนวคิดของโลกตะวันตกโดยเน้นที่ศาสนาคริสต์และปรัชญาสมัยใหม่กับผู้ช่วยให้รอดในหลักความเชื่อของชีอะฮ์สิบสองอิมาม (ชีอะฮ์ อิสนา อะชะรียะฮ์) การเปรียบเทียบนี้จะช่วยให้เราเข้าใจความเหมือนและความแตกต่างของทั้งสองมุมมองนี้ได้ดีขึ้น

คำถามที่สำคัญมากก็คือว่า : ผู้ช่วยให้รอดในชีอะฮ์นั้นมีเหตุผลมากกว่าหรือในศาสนาคริสต์?

คำนำ : ผู้ช่วยให้รอด เป็นแนวคิดสากลที่ปรากฏอยู่ในศาสนาและวัฒนธรรมต่าง ๆ ในรูปแบบที่แตกต่างกัน

    เรากำลังพยายามเปรียบเทียบผู้ช่วยให้รอดในแนวคิดของโลกตะวันตกโดยเน้นที่ศาสนาคริสต์และปรัชญาสมัยใหม่กับผู้ช่วยให้รอดในหลักความเชื่อของชีอะฮ์สิบสองอิมาม (ชีอะฮ์ อิสนา อะชะรียะฮ์)

    การเปรียบเทียบนี้จะช่วยให้เราเข้าใจความเหมือนและความแตกต่างของทั้งสองมุมมองนี้ได้ดีขึ้น

พระผู้ช่วยให้รอด (The Savior) ในโลกตะวันตกและรากฐานทางศาสนา

    ในศาสนาคริสต์ พระเยซูคริสต์เป็นที่รู้จักในฐานะพระผู้ช่วยให้รอดของมนุษยชาติที่จะเสด็จกลับมาในอนาคต (การเสด็จมาครั้งที่สอง / Second Coming) และช่วยโลกให้หลุดพ้นจากความชั่วร้าย

    ความเชื่อนี้เป็นหนึ่งในรากฐานหลักของเทววิทยาคริสเตียน และมีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อวัฒนธรรมและแนวคิดของอารยธรรมตะวันตก

    ในปรัชญาสมัยใหม่ แนวคิดต่างๆ อย่างเช่น ความก้าวหน้าของมนุษย์และการบรรลุสังคมในอุดมคติ (Utopia) ส่วนหนึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากพระผู้ช่วยให้รอด นักปรัชญา อย่างเช่น เฮเกิล (Georg Wilhelm Friedrich Hegel) และมาร์กซ์ (Karl Marx) เชื่อในแนวคิดเรื่องจุดจบของประวัติศาสตร์และการปรากฏขึ้นของสังคมที่ยุติธรรม

ผู้ช่วยให้รอด (มุนญี) ในชีอะฮ์สิบสองอิมาม

    ในชีอะฮ์สิบสองอิมาม ความเชื่อในอิมามซะมาน (มะฮ์ดีผู้ถูกสัญญาไว้) ในฐานะผู้ช่วยให้รอดในยุคสุดท้าย ถือเป็นหนึ่งในหลักการพื้นฐานทางความเชื่อ

    อิมามซะมาน (อ.) เป็นอิมามท่านสุดท้ายของชีอะฮ์สิบสองอิมามที่อยู่ในสภาพเร้นกาย (ฆ็อยบะฮ์) และจะปรากฏตัวในอนาคตเพื่อชำระล้างโลกจากความอธรรมและการกดขี่

    อิมามซะมาน (อ.) เป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำแห่งพระเจ้า ผู้ธำรงความยุติธรรม และผู้ปฏิรูปโลก การปรากฏตัวของท่านจะมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกและการสถาปนาความยุติธรรมที่สมบูรณ์แบบ

    ชาวชีอะฮ์มีหน้าที่จะต้องรอคอยการปรากฏตัวของอิมามซะมานในช่วงเวลาแห่งการเร้นกาย (ฆ็อยบะฮ์) ของท่าน และพร้อมกับการเตรียมจิตวิญญาณและการปฏิบัตินั้นจะต้องอุตสาห์พยายามและต่อสู้เพื่อให้เกิดความยุติธรรมขึ้นในโลก แนวคิด "การรอคอยการปรากฏตัว" (อินติซ๊อร อัล ฟะร็อจญ์) หมายถึง ความหวังและพยายามในการสร้างเงื่อนไขต่างๆ ที่เหมาะสมสำหรับการปรากฏตัว (ซุฮูร)

การเปรียบเทียบผู้ช่วยให้รอดในชีอะฮ์และในโลกตะวันตก

    ความหวังในความรอดพ้น : ทั้งสองมุมมองมีความหวังในการปรากฏตัวของผู้ช่วยให้รอดซึ่งจะช่วยโลกให้รอดพ้นจากความชั่วร้าย

    ความยุติธรรม : ทั้งในศาสนาคริสต์และในชีอะฮ์ ผู้ช่วยให้รอดเป็นที่รู้จักในนามผู้ธำรงความยุติธรรมและผู้สร้างสันติภาพโลก

    มิติข้ามชาติ : ผู้ช่วยให้รอดในทั้งสองมุมมองไม่ได้จำกัดอยู่เพียงภูมิภาคหรือประเทศใดประเทศหนึ่งโดยเฉพาะ ทว่าจะปรากฏตัวขึ้นสำหรับมนุษยชาติทั้งมวล

ความแตกต่าง ผู้ช่วยให้รอดในชีอะฮ์และในโลกตะวันตก

    อัตลักษณ์ของผู้ช่วยให้รอด : ในศาสนาคริสต์ ผู้ช่วยให้รอดคือพระเยซูคริสต์ ในขณะที่ชีอะฮ์ ผู้ช่วยให้รอดคืออิมามซะมาน (มะฮ์ดี ผู้ถูกสัญญาไว้)

    เวลาของการปรากฏตัว : ในศาสนาคริสต์ เวลาการเสด็จกลับมาของพระคริสต์ไม่แน่นอน แต่ในชีอะฮ์ มีสัญญาณต่างๆ บ่งบอกถึงการปรากฏตัวของอิมามซะมาน (อ.)

    บทบาทของมนุษย์ : ในชีอะฮ์ มีการเน้นย้ำอย่างมากเกี่ยวกับบทบาทของมนุษย์ในการเตรียมเงื่อนไขต่างๆ สำหรับการปรากฏตัว (ซุฮูร)  ในขณะที่ศาสนาคริสต์ ปัญหานี้ถูกให้ความสำคัญน้อยกว่า

สรุป

    ผู้ช่วยให้รอดในโลกตะวันตกและชีอะห์อิมามสิบสองเป็นทั้งภาพสะท้อนของความปรารถนาของมนุษย์เพื่อความรอดพ้นและความยุติธรรม อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างที่สำคัญในอัตลักษณ์ของผู้ช่วยให้รอด เวลาของการมาปรากฏตัว และบทบาทของมนุษย์ในสองมุมมองนี้

    การทำความเข้าใจความเหมือนและความแตกต่างเหล่านี้จะช่วยให้เราเข้าใจแนวคิดเรื่องผู้ช่วยให้รอดได้ดีขึ้น และรู้ว่าศาสนาและแนวทางใดมีความคาดหวังแบบไดนามิกและสอดคล้องกับธรรมชาติของมนุษย์มากกว่า

ความมีตรรกะมากกว่าในชีอะฮ์สิบสองอิมาม

    ความรับผิดชอบของมนุษย์ : ในชีอะฮ์ การเน้นที่ "การรอคอยอย่างแข็งขัน" หมายความว่ามนุษย์ต้องทำงานเพื่อสร้างเงื่อนไขต่างๆ สำหรับการปรากฏตัว  ทัศนคตินี้มีเหตุผลมากกว่า เพราะแทนที่จะรอผู้ช่วยให้รอดจากภายนอก ทัศนคตินี้จะส่งเสริมให้ผู้คนลงมือปฏิบัติและมีความรับผิดชอบ

    ความชัดเจนและรายละเอียด : ในชีอะฮ์ มีการอธิบายอัตลักษณ์ของผู้ช่วยให้รอดและอัตลักษณะของท่านอย่างละเอียด ในขณะที่ในโลกตะวันตก (โดยเฉพาะในศาสนาคริสต์) ช่วงเวลาและลักษณะของการปรากฏตัวของผู้ช่วยให้รอดนั้นคลุมเครือ ความชัดเจนนี้ทำให้ความเชื่อในผู้ช่วยให้รอดในมุมมองของชีอะฮ์ดูมีเหตุผลมากกว่า

    ความสอดคล้องกับสัญชาติญาณทางธรรมชาติ (ฟิฏเราะฮ์) ของมนุษย์ : การเน้นย้ำของชีอะฮ์ในการสร้างความยุติธรรมและการขจัดการกดขี่นั้นสอดคล้องกับความปรารถนาตามสัญชาติญาณทางธรรมชาติที่จะดำรงชีวิตอยู่ในสังคมที่มีความยุติธรรม

เฮนรี คอร์บิน กับมุมมองเกี่ยวกับอิมามมะฮ์ดี (อ.) ตามความเชื่อของชีอะฮ์

    ด้วยเหตุนี้เอง เฮนรี คอร์บิน (Henry Corbin) นักปรัชญาและนักบูรพาคดี (Orientalist) ชาวฝรั่งเศสมีคำพูดที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับผู้ช่วยให้รอด (อิมามมะฮ์ดี) ของชีอะฮ์ว่า : "ชีอะฮ์สิบสองอิมาม เป็นสำนักคิดเดียวที่รักษาความหวังแห่งอนาคตที่สดใสไว้ในหัวใจของผู้ปฏิบัติตามและเรียกร้องพวกเขาไปสู่การต่อสู้และการเคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดความยุติธรรมขึ้นในระดับโลก"

    เฮนรี คอร์บินยังกล่าวอีกว่า : "ชีอะฮ์เป็นสำนักคิดเดียวที่สามารถรักษาความเชื่อมโยงและความผูกพันของตนเองกับโลกอันสูงส่งและวิวรณ์ (วะห์ยู) แห่งพระเจ้า และจะรักษาความเชื่อมโยงนี้ให้คงอยู่ตลอดประวัติศาสตร์"

    เนื่องจากเป็นสำนักคิดเดียวในโลกที่เชื่อในผู้ช่วยให้รอดที่มีชีวิตและดำรงอยู่ในปัจจุบัน จึงเป็นคุณลักษณะเดียวที่ไม่มีศาสนาอื่นใดในโลกมี


บทความ : มุศฏอฟา อะมีรี

ปลและเรียบเรียง : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 204 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

26515643
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
4811
7410
30942
26426341
133610
234739
26515643

พฤ 17 ก.ค. 2025 :: 15:35:16