อยาตุลลอฮ์ ซัยยิด อาลี คอเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวว่า ประสบการณ์แสดงให้เห็นว่าการเจรจากับสหรัฐฯ ไม่มีผลต่อการแก้ไขปัญหาของอิหร่าน ชาวอเมริกันกำลังยุ่งอยู่กับการทำงานบนกระดาษเพื่อเปลี่ยนแปลงแผนที่โลก โดยมีอิหร่านเป็นเป้าหมายของแผนของพวกเขาด้วยเช่นกัน
คำกล่าวของผู้นำการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านในการประชุมกับเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศในกรุงเตหะรานเมื่อวันศุกร์ (7 ก.พ.) มีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากสหรัฐฯ กำหนดมาตรการคว่ำบาตรครั้งแรกหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งที่จะ "กดดันอิหร่านอย่างเต็มที่" อีกครั้ง
อยาตุลลอฮ์ คอเมเนอี กล่าวโดยอ้างอิงถึงการถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านของสหรัฐฯ ว่า “การเจรจากับสหรัฐฯ ไม่มีผลต่อการแก้ไขปัญหาของประเทศ เราต้องดำเนินการให้ถูกต้อง”
“พวกเขาไม่ควรแสร้งทำเป็นว่า หากเรา (อิหร่าน) นั่งในโต๊ะเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ นั้น ปัญหาต่าง ๆ จะได้รับการแก้ไข ไม่เลย การเจรจากับสหรัฐฯ จะไม่แก้ไขปัญหาใด ๆ ได้เลย เหตุผลนั้นคืออะไร? จากประสบการณ์!”
ในปี 2558 อิหร่านและประเทศอื่นอีก 6 ประเทศ รวมทั้งสหรัฐอเมริกา ได้ลงนามในข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านซึ่งเรียกอย่างเป็นทางการว่า แผนปฏิบัติการร่วมครอบคลุม (JCPOA) ซึ่งขณะนี้ถูกระงับการเจรจาอยู่ หลังจากการเจรจามาเป็นเวลา 2 ปี ก่อนที่จะถูกยกเลิกโดยประธานาธิบดีทรัมป์
อยาตุลลอฮ์ คอเมเนอี เล่าถึงการเดินไปมาอันเหนื่อยล้า ซึ่งรวมถึงการเดินเล่นเป็นเวลา 15 นาทีระหว่างจอห์น เคอร์รี อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และมุฮัมมัด ญะวาด ซาริฟ ในตัวเมืองเจนีวาและเลียบแม่น้ำโรน ซึ่งทำให้รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านคนก่อนต้องพบกับความยากลำบาก
“รัฐบาลของเราในขณะนั้นได้นั่งโต๊ะและเจรจากัน พวกเขาก็มาและกลับไป พวกเขานั่งลงและยืนขึ้นและเจรจากัน พวกเขาพูดคุย หัวเราะ จับมือ สร้างมิตรภาพ ทุกคนร่วมมือกัน และสนธิสัญญาก็เกิดขึ้น”
ผู้นำการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านกล่าวว่า “ในสนธิสัญญานี้ ฝ่ายอิหร่านมีน้ำใจมาก โดยให้สัมปทานหลายอย่างแก่ฝ่ายอื่น แต่ฝ่ายอเมริกากลับไม่ปฏิบัติตามสนธิสัญญาเดียวกันนี้”
อยาตุลลอฮ์ คอเมเนอี กล่าวโดยอ้างถึงทรัมป์ ว่า “บุคคลคนเดียวกันที่อยู่ในตำแหน่งขณะนี้ฉีกสนธิสัญญา เขาบอกว่า เขาจะฉีกมันทิ้ง และเขาก็ทำจริงๆ แต่พวกเขาไม่ได้ดำเนินการตามข้อตกลง”
อยาตุลลอฮ์ คอเมเนอี กล่าวเสริมว่า ผู้สืบทอดตำแหน่งของรัฐบาลทรัมป์ก็ไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวเช่นกัน
“สนธิสัญญาฉบับนี้มีจุดประสงค์เพื่อยกเลิกการคว่ำบาตรของสหรัฐ แต่กลับไม่เกิดขึ้นจริง ยิ่งไปกว่านั้น สนธิสัญญาฉบับนี้ยังทำให้สหประชาชาติต้องคอยคุกคามอิหร่านอยู่ตลอดเวลา สนธิสัญญาฉบับนี้เป็นผลจากการเจรจาที่กินเวลานานถึง 2 ปี”
ขณะนี้อิหร่านกำลังอยู่ในช่วงเฉลิมฉลองวันครบรอบการปฏิวัติอิสลามที่ปิดผนึกชะตากรรมของระบอบการปกครองปาห์ลาวี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ เมื่อปีพ.ศ. 2522
ทุก ๆ ปี ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่กองทัพอากาศอิหร่านจะเข้าพบกับผู้นำเพื่อรำลึกถึงความจงรักภักดีทางประวัติศาสตร์ของเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศต่อ อิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) อดีตผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐอิสลาม เมื่อปีพ.ศ. 2522 เหตุการณ์นี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่นำไปสู่ชัยชนะของการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านในอีกสามวันต่อมา
อยาตุลลอฮ์ คอเมเนอี กล่าวว่า ชาวอเมริกันกำลังยุ่งอยู่กับการทำงานบนกระดาษเพื่อเปลี่ยนแปลงแผนที่โลก โดยมีอิหร่านเป็นเป้าหมายของแผนของพวกเขาด้วยเช่นกัน
ผู้นำอิหร่านกล่าวว่า “แน่นอนว่า มันเป็นเพียงบนกระดาษเท่านั้น มันไม่มีความเป็นจริง พวกเขายังพูดถึงเรา แสดงความคิดเห็น และข่มขู่เราอีกด้วย”
อยาตุลลอฮ์ คอเมเนอี กล่าวว่า “หากพวกเขาคุกคามเรา เราก็จะคุกคามพวกเขา หากพวกเขาใช้คำขู่นั้น เราก็จะทำเช่นเดียวกัน หากพวกเขาโจมตีความมั่นคงของชาติของเรา เราก็จะโจมตีความมั่นคงของพวกเขาโดยไม่ลังเล”
ผู้นำสูงสุดของอิหร่านกล่าวเสริมว่า “นี่คือบทเรียนจากอัลกุรอานและคำสอนของศาสนาอิสลาม และเป็นหน้าที่ของเราที่จะปฏิบัติตามนั้น เราหวังว่า พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงอำนาจจะทำให้เราประสบความสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ของเรา”
ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี
Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่