การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในฉนวนกาซาเมื่อคืนนี้ ซึ่งถือเป็นการโจมตีที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการหยุดยิงในดินแดนที่ถูกปิดล้อม ทำให้เกิดเสียงประณามจากทั่วโลก
เมื่อวันอังคาร (18 มี.ค.) ชาวปาเลสไตน์มากกว่า 410 คน รวมทั้งสตรีและเด็ก เสียชีวิต หลังจากที่ระบอบการปกครองที่ยึดครองกลับมาดำเนินสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซาอีกครั้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อข้อตกลงสงบศึกที่ยังไม่แน่นอน ซึ่งมีระยะเวลา 2 เดือนกับกลุ่มฮามาสขบวนการต่อต้านของปาเลสไตน์
เหมา หนิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวว่า ปักกิ่ง “กังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์”
เธอยังเรียกร้องให้ทุกฝ่าย "หลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจนำไปสู่สถานการณ์ที่เลวร้ายลง และป้องกันภัยพิบัติทางมนุษยธรรมที่มีขนาดใหญ่กว่า"
‘เกลียวแห่งการทวีความรุนแรง’
รัสเซียยังเตือนด้วยว่า อาจเกิด “วิกฤตทวีความรุนแรงมากขึ้น” ในฉนวนกาซา ท่ามกลางการโจมตีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลที่เกิดขึ้นใหม่
ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลินกล่าวว่า “สถานการณ์ล่าสุดที่เลวร้ายลง ความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นกลับคืนมา นี่คือสิ่งที่เราเป็นกังวล”
เขากล่าวว่า มอสโกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและคาดหวังว่าสถานการณ์จะกลับคืนสู่ “วิถีทางที่สันติ”
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แอนโธนี อัลบาเนซี เรียกร้องให้เคารพการหยุดยิงในฉนวนกาซา ซึ่ง "ได้เกิดความทุกข์ทรมานอย่างใหญ่หลวงอยู่แล้ว"
เขายังกล่าวอีกว่า ประเทศของเขาจะยังคงยืนหยัดเพื่อสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคต่อไป
รัฐมนตรีต่างประเทศของเนเธอร์แลนด์ แคสเปอร์ เฟลด์คัมป์ เรียกร้องให้ฝ่ายที่ทำสงครามปฏิบัติตามข้อตกลงสงบศึกฉนวนกาซาอย่างเต็มที่ และปกป้องพลเรือนทั้งหมด
เขาบอกว่า ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมควรสามารถเข้าถึงได้สำหรับผู้ที่ต้องการ และเสริมว่า “การสู้รบทุกรูปแบบจะต้องยุติลงอย่างถาวร”
นอกจากนี้ หัวหน้าสำนักงานกิจการมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติยังกล่าวว่า ข่าวการโจมตีฉนวนกาซาของอิสราเอลจนมีผู้เสียชีวิตนั้นเป็นเรื่อง "เลวร้าย"
“เจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรมของเราได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยชีวิตผู้คนให้ได้มากที่สุดในฉนวนกาซา ผู้รอดชีวิตต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส และขณะนี้ก็มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น” ทอม เฟล็ตเชอร์ กล่าวในแพลตฟอร์ม X ว่า “ทุกคนที่มีอิทธิพลต้องยืนกรานให้เรื่องนี้ยุติลง”
ในแถลงการณ์ สภาความสัมพันธ์อเมริกัน-อิสลาม (CAIR) โจมตีคณะรัฐมนตรีฝ่ายขวาจัดของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล ที่กลับมาโจมตีกาซาด้วย "ความโหดร้ายและเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" อีกครั้ง และ "สังหารพลเรือนหลายร้อยคนในเวลาไม่กี่ชั่วโมง"
องค์กรสิทธิพลเมืองและการสนับสนุนชาวมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ กล่าวว่า “เนทันยาฮูต้องการสังหารหมู่เด็กชาวปาเลสไตน์ในค่ายผู้ลี้ภัยมากกว่าเสี่ยงต่อการล่มสลายของคณะรัฐมนตรีโดยแลกเปลี่ยนสิ่งของที่ทั้งสองฝ่ายถือครองและยุติสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างถาวรตามที่ข้อตกลงหยุดยิงกำหนดไว้”
อิสราเอลเปิดฉากโจมตีฉนวนกาซาอย่างโหดร้ายเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2566 แต่ระบอบการปกครองไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่ประกาศไว้ แม้ว่าได้สังหารชาวปาเลสไตน์ไปมากกว่า 48,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก
ระบอบการปกครองเทลอาวีฟยอมรับเงื่อนไขการเจรจาระยะยาวของกลุ่มฮามาสภายใต้ข้อตกลงสงบศึกฉนวนกาซาสามระยะ ซึ่งเริ่มเมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา อิสราเอลปฏิเสธที่จะก้าวไปสู่การหยุดยิงขั้นที่สอง ซึ่งกำหนดให้ต้องถอนทหารยึดครองออกจากฉนวนกาซา
ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี
Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่