กระทรวงสาธารณสุขของกาซากล่าวว่า ความรุนแรงที่ปะทุขึ้นอีกครั้งของอิสราเอลทำให้เกิดการสังหารหมู่อย่างน้อย 970 ราย ในเวลา 48 ชั่วโมง และมีเจ้าหน้าที่ชาวต่างชาติที่ทำงานให้กับหน่วยงานของสหประชาชาติเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัส 5 ราย
กระทรวงสาธารณสุขระบุในแถลงการณ์เมื่อวันพุธ (19 มี.ค.) ว่า คลื่นการโจมตีทางอากาศที่รุนแรง ซึ่งทำลายข้อตกลงหยุดยิงที่เปราะบางในฉนวนกาซาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ได้คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 970 ราย ในพื้นที่ที่ถูกปิดล้อม
ยอดผู้เสียชีวิตก่อนการโจมตีล่าสุด ซึ่งมียอดผู้เสียชีวิตจากสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่กินเวลานาน 15 เดือนของระบอบการปกครองที่บันทึกโดยกระทรวงเมื่อตอนเที่ยงของวันที่ 17 มีนาคม อยู่ที่ 48,577 ราย
กระทรวงฯ เผยว่า ภายในเวลาเที่ยงวันของวันพุธ ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 49,547 ราย
กระทรวงสาธารณสุขของกาซายังได้รายงาน "มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัส 5 ราย ในบรรดาเจ้าหน้าที่ชาวต่างชาติที่ทำงานให้กับสถาบันของสหประชาชาติ"
รายงานระบุว่า อิสราเอลโจมตีสำนักงานใหญ่ของ UN ในเมืองเดียร์เอลบาลาห์ ซึ่งอยู่ใจกลางฉนวนกาซา เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
กระทรวงสาธารณสุขกล่าว่า เหยื่อเหล่านี้ถูกนำส่งไปที่โรงพยาบาลผู้พลีชีพอัลอักซอแล้ว ว
กองทัพอิสราเอลปฏิเสธข้อกล่าวหาโจมตีอาคารของสหประชาชาติในฉนวนกาซา
สำนักงานบริการโครงการแห่งสหประชาชาติ (UNOPS) ยืนยันการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่หนึ่งรายจากวัตถุระเบิดที่ "ทิ้งหรือยิง" ใส่อาคารสำนักงานในเมืองเดียร์เอลบาลาห์
แถลงการณ์ระบุ และเสริมว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 5 ราย“มีการทิ้งหรือยิงวัตถุระเบิดไปที่โครงสร้างพื้นฐานและเกิดการระเบิดภายในอาคาร”
นายจอร์จ โมเรรา ดา ซิลวา ผู้อำนวยการบริหาร UNOPS กล่าวว่า เขา "ตกใจและเสียใจ" กับการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง
“นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ” ผู้อำนวยการบริหาร UNOPS กล่าวและเสริมว่า “การโจมตีสถานที่ด้านมนุษยธรรมถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ”
ต่อมากระทรวงต่างประเทศของบัลแกเรียกล่าวในวันนั้นว่า พลเมืองคนหนึ่งของประเทศซึ่งทำงานให้กับสหประชาชาติ ถูกสังหารในฉนวนกาซา โดยไม่ได้ระบุว่าเสียชีวิตที่ใดในดินแดนดังกล่าว
เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล กล่าวคำขู่เมื่อวันอังคารว่า การสังหารหมู่สตรีและเด็กในฉนวนกาซาเป็น "เพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น" เขาถูกกล่าวหาว่า ก่ออาชญากรรมสงครามและกวาดล้างชาติพันธุ์ในฉนวนกาซา
ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี
Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่