มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องให้สหรัฐฯ และภูมิภาคให้การสนับสนุนเพิ่มเติมแก่รัฐบาลซีเรียที่นำโดยกลุ่มฮัยอัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (HTS) เพื่อป้องกัน "การล่มสลายที่อาจเกิดขึ้น" ท่ามกลางการปราบปรามชนกลุ่มน้อยของระบอบปกครองซีเรีย
ขณะกล่าวให้การต่อหน้าคณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ต่างประเทศของวุฒิสภา รูบิโอได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับการล่มสลายที่อาจเกิดขึ้นได้ของระบอบปกครองซีเรีย โดยกลุ่มฮัยอัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (HTS) ของอาบู มฮัมมัด อัล-โจลานี พร้อมทั้งปกป้องการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อดามัสกัส และเรียกร้องให้สหรัฐฯ เข้าไปมีส่วนร่วมมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบครั้งใหญ่อีกครั้งในซีเรีย
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า “เมื่อพิจารณาถึงความท้าทายที่พวกเขาต้องเผชิญ อาจจะมีเวลาอีกหลายสัปดาห์หรือไม่กี่เดือนก่อนที่ประเทศจะล่มสลายและเกิดสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบครั้งใหญ่ ซึ่งก็คือประเทศจะแตกแยกกัน”
รูบิโอเน้นย้ำว่า การผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตร "จะไม่เพียงพอ" และเรียกร้องให้ "รัฐสภาดำเนินการหรือใช้กลยุทธ์ที่กว้างขึ้น" เพื่อรักษาเสถียรภาพของประเทศหลังจากสงครามที่กินเวลานานถึง 14 ปี
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวว่า การผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรอาจทำให้ “ประเทศเพื่อนบ้านสามารถเริ่มช่วยเหลือหน่วยงานการเปลี่ยนผ่านในการสร้างกลไกการปกครองที่อนุญาตให้ประเทศเหล่านั้นจัดตั้งรัฐบาล รวมกองกำลังทหารภายใต้ธงเดียวกัน และอื่น ๆ ได้”
รูบิโอเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่สหรัฐฯ ต้องร่วมมือกับรัฐบาลซีเรียที่นำโดยกลุ่มฮัยอัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (HTS) โดยกล่าวว่า “หากเราร่วมมือกับพวกเขา มันอาจจะได้ผลหรือไม่ได้ผลก็ได้ หากเราไม่ร่วมมือกับพวกเขา รับรองได้เลยว่าจะไม่ได้ผล”
เขาได้ยอมรับถึงความกังวลเกี่ยวกับโจลานี ซึ่งเป็นผู้ก่อการร้ายที่ถูกกำหนดโดยสหรัฐฯ และสมาชิกหน่วยงานเปลี่ยนผ่านของซีเรีย โดยเขากล่าวว่า “ข่าวร้ายก็คือ หน่วยงานเปลี่ยนผ่านนั้นไม่ได้ผ่านการตรวจสอบประวัติกับเอฟบีไอ”
รูบิโอ ยังกล่าวอีกด้วยว่า ซีเรียที่มีเสถียรภาพมากขึ้นซึ่งไม่ทำหน้าที่เป็น "ฐานยิง" สำหรับการโจมตีอิสราเอลนั้น จะเป็น "ความสำเร็จที่ไม่ธรรมดา" สำหรับ "ความมั่นคง" ของระบอบการปกครองเทลอาวีฟ
นักการทูตสหรัฐฯ ให้ความเห็นดังกล่าวหลังจากที่รัฐบาลฮัยอัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (HTS) ก่อเหตุโจมตีกลุ่มชนกลุ่มน้อยอลาวีและดรูซในซีเรียอย่างนองเลือดหลายครั้ง ภายหลังประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด ที่ได้รับการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยของซีเรียถูกขับไล่ออกจากตำแหน่งในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งนำโดยกลุ่มก่อการร้าย
นับตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม ครอบครัวชาวอลาวีหลายร้อยครอบครัวถูกสังหารโดยกองกำลัง ตาห์รีร์ อัล-ชาม (HTS) ภายใต้การบังคับบัญชาของโจลานี และสตรีชาวอลาวีหลายสิบคนถูกลักพาตัวและบังคับให้เป็นทาสทางเพศโดยอดีตสมาชิก ไอซิส และนักรบอัลกออิดะห์
ความรุนแรงของกลุ่มฮัยอัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (HTS) ยังขยายไปยังหมู่บ้านดรูซทางใต้ของดามัสกัส ซึ่งมีรายงานการปะทะกันอย่างหนัก
ในระหว่างการเยือนซาอุดีอาระเบียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้ประกาศยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรในยุคของอัสซาด และได้พบกับโจลานี ผู้นำกลุ่มฮัยอัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (HTS) ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีชั่วคราวของซีเรีย
โจลานีสวมชุดสูทและได้รับคำชมจากทรัมป์ว่าเป็น “ชายหนุ่มที่น่าดึงดูด” จนเมื่อไม่นานนี้ เขาก็เคยอยู่ในรายชื่อผู้ต้องสงสัยของสหรัฐฯ ในข้อหาเกี่ยวข้องกับผู้ก่อการร้าย
โจลานี วัย 42 ปี ถูกคุมขังในอิรักเป็นเวลาหลายปีในข้อหาเป็นสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ หลังจากสหรัฐฯ บุกอิรักเมื่อปี 2003 ปัจจุบันเขายังคงถูกสหรัฐฯ และสหประชาชาติคว่ำบาตรเนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยืนยันว่า กลุ่มนี้ก่อตั้งขึ้นโดยรัฐบาลในวอชิงตันในขณะนั้น
การที่ทรัมป์ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรดามัสกัสเกิดขึ้นหลังจากโจลานีแสดงความพร้อมที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับอิสราเอล
สัปดาห์ที่แล้ว สื่ออิสราเอลรายงานว่า คณะผู้แทนจากรัฐบาลที่นำโดยกลุ่มฮัยอัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (HTS) ในซีเรียได้เดินทางเยือนดินแดนที่ยึดครองเป็นการลับเพื่อเจรจาโดยตรงกับเจ้าหน้าที่อิสราเอล
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล บรรยายเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า กองทัพอิสราเอลช่วยให้กลุ่มฮัยอัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (HTS) เข้ายึดครองซีเรียได้อย่างไรในเดือนธันวาคม
นับตั้งแต่การขับไล่ประธานาธิบดีอัสซาดออกไป อิสราเอลได้โจมตีทางอากาศต่อซีเรียนับร้อยครั้ง และยึดครองดินแดนเป็นบริเวณกว้างในประเทศ นอกเหนือไปจากที่ราบสูงโกลัน ซึ่งอิสราเอลยึดครองไว้ระหว่างสงครามหกวันในปีพ.ศ. 2510
ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี
Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่