โยสซี โคเฮน อดีตหัวหน้ามอสสาด กล่าวว่า หน่วยข่าวกรองของรัฐบาลอิสราเอลได้วาง "อุปกรณ์ที่ถูกจัดการหรือควบคุม" ไว้ทั่วโลกเพื่อสอดส่องและกำหนดเป้าหมายบุคคลต่าง ๆ รวมถึงพลเมืองอเมริกัน พร้อมทั้งเตือนว่า แม้แต่ "การต่อต้านชาวยิวด้วยวาจา" ก็สามารถทำให้ใครบางคนตกเป็นเป้าหมายได้
ในบทสัมภาษณ์บน The Brink Podcast โคเฮนคุยโวว่า หน่วยข่าวกรองของฝ่ายยึดครองได้พัฒนาเครื่องมือเฝ้าติดตามและก่อวินาศกรรมระหว่างปี พ.ศ. 2545 ถึง พ.ศ. 2547 เพื่อสอดส่องบุคคลและ "กำจัดพวกเขาออกไป" หากเทลอาวีฟมองว่า "การต่อต้านชาวยิวด้วยวาจา" เป็น "ภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่"
เขากล่าวว่า อุปกรณ์เหล่านี้ฝังอยู่ในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก และสามารถรวบรวมข้อมูลผู้ใช้และโจมตีเป้าหมายได้จริง เขาย้ำว่า เครือข่ายอุปกรณ์ที่ "พร้อมปฏิบัติการ" ในปัจจุบันครอบคลุม "ทุกประเทศที่คุณนึกออก"
โคเฮนกล่าวว่า “คุณรู้ไหมว่าตอนนี้เรามีอุปกรณ์ที่ ‘พร้อมปฏิบัติการ’ มากขนาดไหนในประเทศเหล่านั้น คุณนึกภาพไม่ออกหรอก แต่ผมรู้ นั่นเป็นระดับสติปัญญาที่สูงมาก ผมนอนไม่หลับมา 38 ปี เพราะเรื่องนี้ นั่นคือสิ่งที่ผมทำทั้งกลางวันและกลางคืน ทุกวัน เป็นเวลากว่า 38 ปี นับรวมการรับราชการทหารของผมด้วย”
อดีตหัวหน้าหน่วยข่าวกรองมอสสาดตั้งแต่ปีพ.ศ. 2559 ถึง พ.ศ. 2564 ยอมรับว่าแม้จะมีศักยภาพในการจารกรรมขั้นสูง แต่อิสราเอลก็ไม่สามารถป้องกันการโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2566 ได้ เนื่องจากหน่วยข่าวกรองของอิสราเอลในพื้นที่ฉนวนกาซาที่ถูกปิดล้อมนั้น "ด้อยคุณภาพ"
เขากล่าวว่า “ถ้าเรามีอุปกรณ์ประเภทนั้น เราคงจะรู้บางอย่างเกี่ยวกับการโจมตีที่จะเกิดขึ้น”
โคเฮนยังกล่าวอีกว่า เขาได้ยื่นคำร้องด้วยตัวเองเพื่อกำกับดูแลการรวบรวมข่าวกรองในฉนวนกาซา แต่ถูกหน่วยงานอื่นขัดขวาง
อดีตหัวหน้ามอสสาดกล่าวถึงนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลว่า “ความมั่นใจในตนเองของผู้นำอิสราเอลนั้นแทบจะกลายเป็นความเย่อหยิ่ง”
โคเฮนเน้นย้ำว่า เนทันยาฮูขาดความเห็นอกเห็นใจต่อประชาชนและมีปฏิกิริยาเคมีที่อ่อนแอกับผู้นำในภูมิภาค โดยเขาย้ำว่า การยึดติดกับอำนาจเป็นเวลานานนั้น "ทำลายจิตวิญญาณและดึงเอาจิตวิญญาณของคนรอบข้างเขาไป"
นอกเหนือจากการเฝ้าระวัง โคเฮนเตือนว่า อิสราเอลพร้อมที่จะ "กำจัด" พลเมืองสหรัฐฯ หรือบุคคลอื่นที่ถือว่ารับผิดชอบต่อ "การต่อต้านชาวยิว" ที่คุกคามการดำรงอยู่ของอิสราเอล
เขายังได้บรรยายถึงความล้มเหลวของกลยุทธ์สื่อของอิสราเอลในระดับนานาชาติ โดยยกตัวอย่างอัตราส่วนเนื้อหาที่สนับสนุนปาเลสไตน์และสนับสนุนอิสราเอลบนแพลตฟอร์มอย่าง TikTok ที่อยู่ที่ 54 ต่อ 1
ย้อนกลับไปในเดือนกันยายน พ.ศ. 2567 มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน รวมถึงเด็ก และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 4,000 คน จากเหตุระเบิดวิทยุติดตามตัวและวิทยุสื่อสารของอิสราเอล ผู้เสียชีวิตเหล่านี้รวมถึงสมาชิกขบวนการต่อต้านของฮิซบุลลอฮ์ในเลบานอนจำนวนมาก
การระเบิดทำให้เหยื่อจำนวนมากได้รับบาดเจ็บ โดยส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บที่ตาและแขนขา
ความโหดร้ายดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของการรุกรานเลบานอนอันนองเลือดของระบอบการปกครองอิสราเอล ซึ่งคร่าชีวิตชาวเลบานอนไปอย่างน้อย 3,130 ราย ก่อนที่การรุกรานจะสิ้นสุดลงในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2567 หลังจากบรรลุข้อตกลงหยุดยิง
ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี
Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่