ซิกร์มุซีบัตค่ำคืนที่สิบเอ็ด : ค่ำคืนของคนแปลกหน้า (ชอม ฆอรีบอน)
ซิกร์มุซีบัตค่ำคืนที่สิบเอ็ด : ค่ำคืนของคนแปลกหน้า (ชอม ฆอรีบอน)

ในเหตุการณ์แห่งการนองเลือดและแสนเจ็บปวดของกัรบาลา ท่านหญิงซัยนับ (อ.) ได้ปรากฏตัวอย่างแข็งขันและสร้างสรรค์ แต่สิ่งที่ทำให้การปรากฏตัวนี้บังเกิดผลอีกประการหนึ่งและทำให้มีความเด็นชัดมากยิ่งขึ้นก็คือบทบาทเฉพาะของท่านหญิงผู้นี้ภายหลังจากเหตุการณ์อาชูรอในการเป็นผู้นำคาราวานของเชลยศึก

    ค่ำคืนที่ 11 ของเดือนมุฮัรร็อม ถูกเรียกว่า "ชอม ฆอรีบอน" (ค่ำคืนของคนแปลกหน้า) ในค่ำคืนนี้ เราจะกล่าวถึงส่วนหนึ่งของมุซีบัต (ความทุกข์ยาก ความทุกข์ทรมานและความทุกข์โศก) ของท่านหญิงซัยนับ กุบรอ (อ.) หลังจากการเป็นชะฮีดของท่านอบาอับดิลลาฮ์ อัล ฮุเซน (อ.) เหตุผลของการตั้งชื่อนี้ก็คือว่านับตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป ท่านรับผิดชอบหน้าที่การดูแลและบริหารจัดการคาราวานของเชลย และการรวบรวมเด็กกำพร้าและบรรดาสตรีที่ไร้ที่พักพิงของอะฮ์ลุลบัยต์ (อ. ) และคอยให้การปกป้องพวกเขาจากศัตรู

การเตรียมพื้นฐานไปสู่การลุกฮือของประชาชน

    การดำเนินการของท่านหญิงซัยนับ (อ.) หลังจากการเป็นชะฮีดของท่านอบาอับดิลลาฮ์ อัล ฮุเซน (อ.) มีผลกระทบอย่างมากและนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เนื่องจากความเป็นพิเศษต่างๆ เช่น : การรู้จักเวลา สติปัญญาและไหวพริบ คำพูดต่างๆ ที่เป็นโวหารและคมคาย และความกล้าหาญ เป็นต้น ส่วนหนึ่งจากการดำเนินการที่ชาญฉลาดและประกอบไปด้วยมิติทางการเมืองของท่านหญิงซัยนับ (อ.) คือการที่ท่านได้ส่งคนไปขออนุญาต ยะซีด (ละนะตุลลอฮิ อะลัยฮ์) เพื่อจัดพิธีไว้อาลัยและการทำมะตั่ม (1)

    ในตอนแรก การไว้อาลัยเหล่านี้ดูแทบจะไม่มีความสำคัญใดๆ ในมุมมองของเหล่าศัตรู เพราะหากพวกเขารู้สึกถึงอันตรายตั้งแต่แรก พวกเขาก็จะต้องยับยั้งไม่ให้เกิดสิ่งนี้ แต่ในความเป็นจริงแล้วการกระทำเหล่านี้ได้กลายเป็นพื้นฐานนำไปสู่การลุกฮือและการปฏิวัติของประชาชน และการต่อต้านบรรดาผู้สังหารท่านอิมามฮุเซน (อ.) และนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายส่วนหนึ่งของท่านซัยยิดุชชุฮะดาอ์ (อ.) ถึงขั้นที่เมื่อยะซีด (มัลอูน) ได้ยินประชาชนสาปแช่งบรรดาผู้สังหารท่านอิมามฮุเซน (อ.) เขาได้จัดการกับชิมร์และบรรดาสหายของเขาอย่างรุนแรง และกล่าวว่า :

و اللّه ِ! قَدْ کُنْتُ ارضی مِنْ طاعَتِکُمْ بِدونِ قَتْلِ الْحُسیْنِ لَعَنَ اللّه ُ بْنَ مَرْجانَة!

          "ขอสาบานต่ออัลลอฮ์! ฉันพอใจต่อการเชื่อฟังของพวกเจ้าโดยปราศจากการสังหารฮุเซน ขออัลลอฮ์ทรงสาปแช่งบุตรของมัรญานะฮ์ (ที่ทำสิ่งที่ชั่วร้ายเช่นนี้)”

           และหลังจากนั้นเขาก็เตรียมการสำหรับบรรดาเชลยเพื่อให้เดินทางกลับไปยังเมืองมะดีนะฮ์ (2)

การโจมตีกระโจมที่พักของสตรีและเด็ก

    เหตุการณ์ที่น่าตกใจที่สุดเหตุการณ์หนึ่งในช่วงพระอาทิตย์ตกดินของวันอาชูรอคือการเผากระโจมต่างๆ ของลูกหลานท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) เหตุการณ์ร้ายแรงนี้เกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ศพที่ถูกสับเป็นชิ้นๆ ของท่านอิมาม (อ.) และบรรดาสหายผู้เสียสละและเป็นชะฮีดของท่านถูกทิ้งไว้ในทะเลทราย และกระโจมต่างๆ ได้ถูกปล้นก่อนหน้านั้น (3)

    บรรดาศัตรูได้แย่งชิงกันในการปล้นสะดมกระโจมต่างๆ ของครอบครัวของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) และแก้วตาดวงใจของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ อัซซะฮ์รอ (อ.) (4) จนถึงขั้นที่พวกเขาได้กระชากกำไลข้อเท้าจากฟาฏิมะฮ์ ลูกสาวคนเล็กของท่านอิมามฮุเซน (อ.) (5) และแม้แต่ผ้าคลุมหน้าและผ้าคลุมกายของบรรดาสตรีและเด็กผู้หญิงพวกเขาก็กระชากและปล้นสะดมเอาไป (6)

หลังจากการปล้นกระโจมต่างๆ ทหารของอิบนุ ซิยาดจำนวนหนึ่งได้จุดไฟขึ้น และหนึ่งในนั้นก็ตะโกนว่า :

اَحْرِقُوا بُیُوتَ الظَّالِمِینَ

          "จงเผาบ้านของพวกอธรรมเสียเถิด” (7)

    ในขณะที่กระโจมทั้งหลายถูกไฟไหม้และกลายเป็นเถ้าถ่านอย่างรวดเร็วนั้น เมื่อเผชิญกับพฤติกรรมที่ไร้ความเป็นสุภาพบุรุษและป่าเถื่อนของกลุ่มชนผู้ปฏิเสธผู้เป็นไพร่พลของยะซีด ท่านหญิงซัยนับ (อ.) ได้หันไปหาท่านอิมามซัยนุลอาบิดีน (อ.) และแสวงหาวิธีแก้ปัญหาจากท่าน ท่านอิมามซัจญาด (อ.) ซึ่งอยู่ในกระโจมที่กำลังลุกไหม้ด้วยสภาพที่ป่วยไข้และทำอะไรไม่ได้นั้น ได้กล่าวว่า :  «علیکنّ بالفرار» “พวกท่านจงหนีออกไปเถิด” (8) อัลลามะฮ์มัจญ์ลิซี (ร.ฎ.) เขียนโดยอ้างคำพูดของฟาฏิมะฮ์ ซุฆรอ (อ.) ลูกสาวของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ว่า : "ฉันเห็นคนควบม้าเข้ามายังฉัน ฉันรีบวิ่งหนีจากมัน แต่เขาเข้ามาหาฉัน ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกถึงโดนตีอย่างแรงด้วยด้ามหอกเข้าที่ไหล่ของฉัน และฉันก็ล้มคว่ำหน้าลงกับพื้น..." (9)

    ท่านอิมามซัจญาด (อ.) กล่าวว่า : "ขอสาบานต่ออัลลอฮ์! ไม่มีครั้งใดเลยที่ฉันมองไปยังอาและพี่สาวน้องสาวของฉัน นอกจากฉันจะร้องไห้และนึกถึงช่วงเวลาเหล่านั้นที่พวกเขาวิ่งจากกระโจมหนึ่งไปอีกกระโจมหนึ่ง และผู้ประกาศของกองทัพกูฟะฮ์ก็ตะโกนว่า จงเผากระโจมของผู้อธรรมเหล่านี้” (10)

การกระจัดกระจายของชาวกระโจม

ท่านหญิงซัยนับ (อ.) ทำหน้าที่ในการปกป้องเด็กกำพร้าและการปฐมพยาบาลท่านอิมามซัจญาด (อ.)  ท่านคอยระวังชีวิตของเด็กๆ เพื่อไม่ให้พวกเขาได้รับอันตรายในระหว่างที่ศัตรูจู่โจมเพื่อปล้นสะดมกระโจมทั้งหลาย ทุกคนต่างมาพึ่งพิงท่านและร้องทุกข์เกี่ยวกับความอธรรมของศัตรู แม้ว่าความทุกข์โศรก (มุซีบัต) ของวันอาชูรอจะหนักหน่วงและมีราคาแพงมาก แต่ท่านหญิงซัยนับ (อ.) ก็ยืนหยัดเหมือนภูเขาที่มั่นคงและไม่ยอมก้มหัวให้กับศัตรู ในด้านหนึ่ง ท่านมุ่งมั่นในการดูแลเด็กกำพร้าและรวบรวมสตรีและเด็กผู้หญิง และในอีกด้านหนึ่ง ท่านก็ยุ่งอยู่กับการตามหาบรรดาผู้ที่หายตัวไปในทะเลทราย ท่านหญิงซัยนับ (อ.) ป้องกันไม่ให้เด็ก ๆ ถูกทุบตีโดยวางตัวเองเป็นโล่และร่างกายของท่านไหม้เกรียมจากการถูกเฆี่ยนตี ด้วยเหตุนี้ ร่างกายของท่านจึงฟกช้ำจากการถูกเฆี่ยนตี ดั่งที่ในคำพูดหนึ่งท่านได้กล่าวต่อท่านซัยยิดุชชุฮะดาอ์ (อ.) ว่า :

یَابْنَ اُمِّی لَقَدْ کَلَلْتُ عَنِ الْمُدَافِعَةِ لِهَؤُلاَءِ النِّسَاءِ وَالاْطْفَالِ وَ هَذَا مَتْنِی قَدْ اُسْوِدَ مِنَ الضَّرْبِ

          “โอ้บุตรชายของแม่ของฉัน! ฉันหมดเรี่ยวแรงที่ปกป้องเด็กและสตรีเหล่านี้จากศัตรูได้ และหลังและแขนหรือใบหน้าของฉันเองได้กลายเป็นสีดำเนื่องจากการทุบตีของศัตรู" (11)  

    หลังจากการปล้นสะดมและการเผากระโจมต่างๆ ของอะฮ์ลุลบัยต์ ท่านหญิงซัยนับ (อ.) ได้รวบรวมสตรีและเด็กที่กระจัดกระจายไว้ในกระโจมหลังหนึ่ง และตรวจสอบดูสภาพและกอดรัดเด็กๆ จนกระทั่งท่านตระหนักว่าเด็กสองคนจากคาราวานของอะฮ์ลุลบัยต์ได้หายไป ท่านจึงรีบค้นหาอย่างร้อนรนและพบเด็กทั้งสองอยู่ใต้พุ่มไม้หนามซึ่งกำลังนอนอยู่ในอ้อมแขนของกันและกัน ท่านหญิงซัยนับ (อ.) เข้ามาหาพวกเขา แต่ไม่ว่าท่านจะเรียกพวกเขาอย่างไร ท่านก็เห็นว่าพวกเขาไม่ตื่น ใช่แล้ว! เด็กผู้บริสุทธิ์สองคนนั้นได้เสียชีวิตเนื่องจากความทุกข์ทรมาณ (มุซีบัต) ที่รุนแรงและความหวาดกลัวจากการปล้นสะดมของศัตรู ผู้เขียนหนังสือ "มาอาลี อัล-ซิบฏ็อยน์" ได้เล่าไว้ดังนี้ : "ในตอนค่ำของวันอาชูรอ เด็กสองคนได้เสียชีวิตเนื่องจากความหวาดกลัวและความกระหาย และเนื่องจากท่านหญิงซัยนับ กุบรอ (อ.) กำลังตรวจสอบเพื่อรวบรวมครอบครัวและเด็ก ๆ แต่ท่านไม่พบเด็กสองคนนั้น หลังจากค้นหาเป็นเวลานาน ท่านก็พบว่าพวกเขาเสียชีวิตแล้วในสภาพที่เอามือกอดคอของกันและกัน” (12)

     ในค่ำคืนแห่งความเดียวดายและความแปลกหน้า (ชาม ฆอรีบอน) ท่านหญิงซัยนับ (อ.) ได้ทำให้หัวใจของตนเองว่างเปล่าจากสิ่งอื่นที่นอกเหนือจากอัลลอฮ์ได้อย่างน่าประหลาด ท่านหญิงยังคงระวังรักษาการนมาซตะฮัจญุดและการภาวนาของพรต่อพระเจ้าที่ไม่เคยละทิ้งในชีวิตของท่าน แต่ในค่ำคืนนี้ ด้วยกับความอ่อนแอ เหนื่อยล้า และการได้รับบาดเจ็บจนท่านไม่สามารถยืนนมาซได้เหมือนปกติ ท่านจึงได้นั่งทำนมาซซอลาตุลลัยน์ และวิงวอนขอพรต่อพระผู้เป็นเจ้าของตน (13)

การเคลื่อนคาราวานผ่านสถานที่ถูกสังหารของท่านอิมามฮุเซน (อ.)

    ในช่วงบ่ายของวันที่ 11 มุฮัรร็อม อุมัร อิบนิ ซะอัด และบรรดาทหารของเขาได้ตัดสินใจออกเดินทาง ในขณะที่ทิ้งร่างไร้ศีรษะของท่านอิมามฮุเซน (อ.) และสหายของท่านไว้บนพื้นดินของทะเลทราย และได้ให้ท่านอิมามชัจญาด (อ.) ในสภาพที่ป่วยอยู่นั้น รวมทั้งบรรดาสตรีและเด็กๆ ของบรรดาชะฮีดซึ่งเป็นอะมานะฮ์ (ความไว้วางใจ) ของท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) ในหมู่ประชาชาติของท่าน ขึ้นขี่อูฐที่เปลือยเปล่าไร้อานรองและใบหน้าที่ถูกเปิดต่อหน้าต่อตาของเหล่าศัตรูนับพันคน และเคลื่อนขบวนพวกเขาไปยังกูฟะฮ์เหมือนกับเชลยศึกในสภาพที่พวกเขาตกอยู่ในความทุกข์ยากและความโศกเศร้าถึงขีดสุด ตามคำสั่งของอุมัร อิบนุ ซะอัด กองทัพกูฟะฮ์ได้นำคาราวานเชลยผ่านสถานที่สังหาร แต่ในบางแหล่งอ้างอิงระบุว่าการผ่านสถานที่สังหารนั้น เป็นไปตามคำร้องขอของบรรดาเชลยเอง (14)

เมื่อท่านหญิงซัยนับ (อ.) ผ่านสถานที่ถูกสังหารของพี่ชายของท่าน ท่านกล่าวว่า :

يا مُحَمَّداه ، يا مُحَمَّداه ، هذَا الحُسَينُ بِالعَراءِ ، مُرَمَّلٌ بِالدِّماءِ ، مُقَطَّعُ الأَعضاءِ ، يا مُحَمَّداه ، وبَناتُكَ سَبايا ، وذُرِّيَّتُكَ مُقَتَّلَةٌ تَسفي عَلَيهَا الصَّبا!

          "โอ้ มุฮัมมัดเอ๋ย! โอ้ มุฮัมมัดเอ๋ย! นี่คือฮุเซน ผู้ถูกทิ้งไว้ในที่โล่งแจ้ง ปกคลุมไปด้วยทรายและเลือด และแขนขาของเขาถูกตัดเป็นชิ้นๆ โอ้ มุฮัมมัดเอ๋ย! บรรดาลูกสาวของท่านถูกจับเป็นเชลย ลูกหลานของท่านถูกฆ่า  ลมตะวันออกได้พัดฝุ่นทรายมาลงบนร่างพวกเขา!” ดังนั้นทั้งมิตรและศัตรูทุกคนจึงเริ่มร้องไห้! โดยที่บรรดาสตรีส่งเสียงกรีดร้องและตบหน้าตัวเอง ตามการรายงานของหนังสือมะกอติล บรรดามิตรและศัตรูด้วยกับการเห็นเหตุการณ์นี้ต่างพากันร้องไห้ (15)

ท่านอิมามซัยนุลอาบีดีน (อ.) กล่าวว่า : “ขณะที่ผ่านสถานที่ถูกสังหาร เมื่อฉันเห็นศพที่เต็มไปด้วยเลือดของพี่ชาย, อาและบิดาของฉัน นอนไม่มีศีรษะและถูกเหยียบย่ำด้วยกีบม้า ฉันรู้สึกเสียใจมาก และความโกรธกริ้วทำให้ลำคอของฉันตีบตันถึงขั้นที่เกือบจะทำให้ฉันสิ้นใจ แต่เมื่อซัยนับ (อ.) อาของฉันสังเกตเห็นอาการของฉัน นางได้กล่าวว่า :

ما لی اراك تَجودُ بِنَفْسِك یا بَقیَّةَ جَدّی وَ اَبی وَ اِخْوَتی؟ فَقُلتُ: وکَیْفَ لا اجْزعُ و اَهْلَعُ وَ قَدْ اری سَیِّدی وَ اخْوَتی وعُمومَتی و وَلَد عَمّی وَ اَهْلی مُضَرَّجینَ بِدِمائِهِمْ مُرمَّلینَ بالعَراءِ مُسَلَّبینَ لایُکْفَنُونَ وَلا یُوارُونَ، وَلایَعْرجُ عَلَیْهِمْ اَحَدٌ

          "โอ้ ผู้เป็นความทรงจำที่เหลืออยู่ของตา พ่อ และพี่น้องของฉัน! ทำไมถึงจะยอมแพ้กับชีวิตของเจ้า?” ฉันกล่าวว่า : “จะไม่ให้ฉันหมดความอดทนและเศร้าโศกได้อย่างไรในขณะที่ฉันเห็นนายของฉัน พี่น้องของฉัน อาของฉัน ลูกพี่ลูกน้องของฉัน และครอบครัวของฉันถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นทรายและเลือด และร่างกายของพวกเขานอนเปลือยเปล่าอยู่บนพื้นโล่ง และไม่มีใครคิดที่จะห่อศพและฝังพวกเขา” (16)        

    ท่านหญิงซัยนับ กุบรอ (อ.) ทราบดีว่าหลังจากท่านซัยยิดุชชุฮะดาอ์ (อ.) นั่นคือท่านอิมามซัจญาด ( อ.) คือผู้รับผิดชอบทำหน้าที่เป็นผู้นำประชาชาติและภารกิจอันหนักหน่วงแห่งวิลายะฮ์ (อำนาจการปกครอง) ก็อยู่กับท่าน ดังนั้นท่านจำเป็นต้องมีชีวิตอยู่เพื่อที่แผ่นดินโลกจะได้ไม่ว่างเปล่าจากข้อพิสูจน์ (ฮุจญะฮ์) ของอัลลอฮ์


แหล่งที่มา :

(1).  บิฮารุลอันวาร, อัลลามะฮ์มัจญ์ลิซี, เล่ม 45, หน้า 196

(2). อัล บิดายะฮ์ วัล นิฮายะฮ์, อิบนิกะซีร, เล่ม 8, หน้า 208

(3). อัล ลุฮูฟ, ซัยยิดอิบนุฏอวูซ, หน้า 132

(4). อัล มัลฮูฟ, ซัยยิดอิบนุฏอวูซ, หน้า 180

(5). ซีร อะอ์ลาม อัล นุบลาอ์, ชัมซุดดีน ซะฮะบี, เล่ม 4, หน้า 361

(6). อัล อะมาลี, เชคซอดูก, หน้า 229

(7). ซัยนับ กุบรอ (อ.), ญะอ์ฟัร นักดี, หน้า 96

(8). เมาซูอะฮ์ กัรบะลา, ละบีบ บัยดูน, เล่ม 2, หน้า 230

(9). บิฮารุลอันวาร, อัลลามะฮ์มัจญ์ลิซี, เล่ม 45, หน้า 60-61

(10). ซัยนับ กุบรอ (อ.), ญะอ์ฟัร นักดี, หน้า 96

(11). เมาซูอะฮ์ กัรบะลา, ละบีบ บัยดูน, เล่ม 2, หน้า 258

(12). มะอาลิซซิมฏ็อยน์, ฮาอิรี, หน้า 52

(13). ริยาฮัยนิชชะรีอะฮ์, ซะบีฮูลลอฮ์ มะฮัลลาตี, เล่ม 3, หน้า 61

(14). อัล ลุฮูฟ, ซัยยิดอิบนุฏอวูซ, หน้า 78

(15). อันซาบุลอัชรอฟ, บะลาซะรี, เล่ม 3, หน้า 206

(16). เมาซูอะฮ์ กัรบะลา, ละบีบ บัยดูน, เล่ม 2, หน้า 260


บทความโดย : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่


 

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 732 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

25128404
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
29624
36652
241173
24814297
314107
1079962
25128404

ส 21 ธ.ค. 2024 :: 21:22:11