อียิปต์และเหตุการณ์ต่าง ๆ ในยุคการปรากฏตัวของอิมามมะฮ์ดี (อ.)
อียิปต์และเหตุการณ์ต่าง ๆ ในยุคการปรากฏตัวของอิมามมะฮ์ดี (อ.)

 มีริวายะฮ์ (คำรายงาน) จำนวนมากพูดถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอียิปต์ .. อันดับแรก ริวายะฮ์ ต่าง ๆ ของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ที่แจ้งข่าวดีแก่ชาวมุสลิมถึงการพิชิตอียิปต์โดยมือของพวกเขาเอง ตลอดจนริวายะฮ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพิชิตอียิปต์โดยชาวมาเกร็บ (อะฮ์ลุลมัฆริบ) ในช่วงเหตุการณ์ต่างๆ ของการปฏิวัติของชาวฟาฏิมียะฮ์ และท้ายที่สุดเหตุการณ์ต่างๆ ในช่วงการปรากฏตัวของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.)

    อย่างไรก็ตาม ในตำราอ้างอิงทั้งหลายนั้น เหตุการณ์ต่าง ๆ ในช่วงเวลาของการปรากฏตัวของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ได้ถูกรายงานไว้ปะปนกับเหตุการณ์ๆ ในช่วงเวลาของการสถาปนารัฐบาลฟาฏิมียะฮ์ เนื่องจากในบรรดาริวายะฮ์ ที่เกี่ยวข้องกับท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ก็มีพูดถึงการเข้ามาของกองทัพมาเกร็บในอียิปต์ด้วยเช่นกัน .. ..และวิธีแยกแยะมันก็คือการมีอยู่ของริวายะฮ์ที่บ่งบอกถึงความเกี่ยวโยงของมันกับช่วงเวลาการปรากฏตัวของท่านอิมาม หรือการเชื่อมโยงกับเหตุการณ์เฉพาะบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในช่วงเวลาการปรากฏตัวของท่าน อย่างเช่น การก่อกบฏของซุฟยานีและอื่นๆ

    ด้วยการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน มีเพียงริวายะฮ์จำนวนหนึ่งเท่านั้นที่อยู่ในมือของเราซึ่งกล่าวถึงเหตุการณ์ต่างๆ ในอียิปต์ และไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุการณ์เหล่านั้นเป็นส่วนหนึ่งในเหตุการณ์ทั้งหลายในช่วงเวลาของการปรากฏตัวของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) หรือมีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นส่วนหนึ่งจากเหตุการณ์เหล่านั้น

    ตัวอย่างเช่น บรรดาริวายะฮ์ที่เกี่ยวข้องกับการถูกสังหารของผู้ปกครองอียิปต์โดยมือของประชาชนในประเทศนั้นเอง ริวายะฮ์เหล่านี้ ดังที่จะเห็นได้ในหนังสือบิชาเราะตุลอิสลาม หน้า 175 ซึ่งอ้างจากหนังสืออัล อิรชาด ของเชคมุฟีด ถือเป็นหนึ่งในสัญญาณของการปรากฏตัวของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.)

    อีกสำนวนหนึ่งซึ่งมีการพูดถึงกันโดยทั่วไปในยุคของเราที่กล่าวว่า : “ชาวอียิปต์จะฆ่าเจ้านายของตนเอง” และ “ทาสจะยึดครองประเทศของเจ้านาย” (1) ซึ่งพวกเขาได้เทียบเคียงว่าคือการสังหาร “อันวาร ซาดาต” นี่ถือเป็นความผิดพลาด เนื่องจากคำว่า “ซาดาต” ในริวายะฮ์เหล่านี้หมายถึงบรรดาเจ้านายหรือหัวหน้า และไม่ใช่ชื่อเฉพาะ และผู้ปกครองชาวอียิปต์ผู้ซึ่งการฆ่าเขาถือเป็นหนึ่งในสัญญาณของการปรากฏตัวของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) นั้นจะมีเหตุการณ์อื่นเกิดขึ้นติดตามมาด้วย  เนื่องจากริวายะฮ์นี้กล่าวถึงการเข้ามาของกองทัพหนึ่งหรือหลายกองทัพในอียิปต์ และอาจเป็นกองทัพตะวันตกหรือกองทัพมาเกร็บ ซึ่งเราจะอธิบายเกี่ยวกับประเด็นนี้ในภายหลัง ริวายะฮ์บางส่วนกล่าวว่า : การถูกสังหารของผู้ปกครองอียิปต์จะเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันกับการถูกสังหารของผู้ปกครองของชาม (ซีเรีย) โดยน้ำมือของประชาชน นอกจากนี้มีปรากฏในหนังสือ บิชาเราะตุลอิสลาม หน้า 185 อ้างอิงจากหนังสือ “อัลเกาลุลมุคตะซ๊อร” ที่เขียนโดยอิบนุฮะญัรซึ่งเขากล่าวว่า : คำพูดที่ 16 : “ก่อนหน้าเขา (ซุฟยานี)  ผู้ปกครองชามและผู้ปกครองอียิปต์จะถูกสังหาร”

    นอกจากนี้ ระหว่างริวายะฮ์ที่พูดถึงเรื่องราวการถูกสังหารของผู้ปกครองอียิปต์จะมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับริวายะฮ์ที่พูดถึงเรื่องราวของนักปฏิวัติผู้หนึ่งที่จะยืนหยัดขึ้นในอียิปต์ก่อนการก่อกบฏของซุฟยานี

    มีระบุในหนังสือบิฮารุลอันวารว่า :

يَخْرُجُ قَبْلَ السفيانيِّ مصريٌّ ويَمانيٌّ

          “มิศรีและยะมานีจะยืนหยัดขึ้นต่อสู้ก่อนซุฟยานี” (2)

    และชาวอียิปต์ผู้นี้อาจเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวคือ เป็นผู้บัญชาการเหล่าทัพซึ่งตามริวายะฮ์บางบทกล่าวว่าเขาจะสร้างขบวนการเคลื่อนไหวหนึ่งขึ้นในอียิปต์และจะประกาศภาวะสงคราม

وَقَامَ بِمِصْرَ أَمِيْرُ الْأُمَرَاءِ وَجُهِّزَتِ الْجُيُوْشُ

       “และผู้บัญชาการสูงสุดจะยืนหยัดขึ้นและกองทัพจะถูกจัดเตรียม”

    ในริวายะฮ์อีกบทหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ กล่าวว่าก่อนที่กองกำลังของตะวันตกจะเข้ามา เขาจะเรียกร้องเชิญชวนประชาชนไปสู่วงศ์วานของท่านศาสดา (ซ็อลฯ)

وَ يَخْرُجُ أَهْلُ اَلْغَرْبِ إِلَى مِصْرَ . فَإِذَا دَخَلُوا فَتِلْكَ إِمَارَةُ اَلسُّفْيَانِيِّ وَ يَخْرُجُ قَبْلَ ذَلِكَ مَنْ يَدْعُو لآِلِ مُحَمَّدٍ عَلَيْهِمُ السَّلاَمُ

          “และชาวตะวันตกจะเข้ามายังอียิปต์ เมื่อพวกเขาเข้ามา การปกครองของซุฟยานีก็จะถูกสถาปนาขึ้น และก่อนหน้านั้นจะมีบุคคลผู้หนึ่งเรียกร้องเชิญชวนประชาชนไปสู่วงศ์วานของท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ)” (3)

    และเป็นไปได้ว่าชายชาวอียิปต์ (มิศรี่) และผู้บัญชาการสูงสุดและชายที่เรียกร้องเชิญชวนประชาชนไปยังอะฮ์ลุลบัยต์ของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) นั้น คือสามคน ไม่ใช่คนเดียว

    อย่างไรก็ตาม ริวายะฮ์เหล่านี้โดยรวมแล้วบ่งบอกถึงการยืนหยัดขึ้นต่อสู้ของขบวนการการเคลื่อนไหวในอียิปต์ และการปฏิวัติอิสลามซึ่งจะเป็นผู้เตรียมพื้นฐานสำหรับการปรากฏตัวของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ที่นั่น หรืออย่างน้อยก็บ่งบอกถึงการมีอยู่ของบรรยากาศอิสลามที่เข้มแข็งและทรงพลัง และมีการเปลี่ยนแปลงภายในและการปฏิวัติในอียิปต์ที่สัมพันธ์กับสงครามและสันติภาพระหว่างประเทศและระดับโลก

    และจากริวายะฮ์เหล่านี้ มีริวายะฮ์ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ต่างๆ ของพวกคอปติก (ชาวกิปฏี) ที่จะพิชิตเหนือพื้นที่โดยรอบของอียิปต์ ดังที่มีรายงานจากท่านอมีรุลมุอ์มินีน (อ.) เกี่ยวกับสัญญาณต่างๆ ของการปรากฏตัวของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ซึ่งท่านกล่าวว่า :

وَغَلَبَةُ الْقِبْطِ عَلى أَطْرَافِ مِصْرَ

          “และพวกกิปฏี (คอปติก) จะพิชิตพื้นที่โดยรอบของอียิปต์” (4)

    และอาจเป็นไปได้ว่าจุดประสงค์ของมันก็คือสิ่งที่อิบนุ ฮัมมาด ได้รายงานไว้ในต้นฉบับตัวเขียนของเขาจากท่านอบูซัร (ร.ฏ.) ซึ่งกล่าวว่า : "ความปลอดภัยจะถูกยกออกไปจากอียิปต์” คอรีญะฮ์กล่าวว่า ฉันถามอบูซัรว่า : “ในช่วงเวลานั้นที่ความปลอดภัยจะหมดไป ไม่มีผู้นำที่จะทำให้มันเกิดขึ้นเลยหรือ?” เขากล่าวว่า : “ไม่มี ทว่าระบอบจะล่มสลาย” (5) และสิ่งที่เขารายง่นจากกะอับก็คือว่า : “อียิปต์จะแตกสลายเหมือนมูลอูฐ”

    กล่าวโดยสรุปก็คือ ชาวคอปติกของอียิปต์จะก่อจลาจลในเมืองนั้นและต่อต้านรัฐบาลและยึดครองพื้นที่บางส่วน ซึ่งทำให้เกิดความอ่อนแอในด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจของอียิปต์ และโดยธรรมชาติแล้วการก่อกบฏและการต่อต้านรัฐบาลนี้มีการวางแผนโดยการยุยงจากบรรดาศัตรูภายนอกของชาวมุสลิม เนื่องจากไม่มีบันทึกในประวัติศาสตร์ว่าชาวคอปติกเคยมีการเคลื่อนไหวที่สำคัญในการต่อต้านชาวมุสลิม  เว้นแต่จะถูกนำเข้าโดยมหาอำนาจต่างชาติอย่างที่เกิดขึ้นในสงครามครูเสดและในยุคปัจจุบัน

    อย่างไรก็ตาม ริวายะฮ์ดังกล่าวไม่ได้กล่าวถึงช่วงเวลาของมัน แต่ในริวายะฮ์อื่นๆ จากฮุซัยฟะฮ์ได้กล่าวว่า :

          “อียิปต์จะปลอดภัยจากการถูกทำลายจนกระทั่งบัศเราะฮ์จะถูกทำลาย” (6)

    และตามรูปการแล้ว การถูกทำลายของเมืองบัศเราะฮ์ตามที่ถูกกล่าวไว้ในริวายะฮ์นั้นจะเกิดขึ้นในเวลาของการปรากฏตัวของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.)  หลังจากการสถาปนารัฐบาลผู้วางพื้นฐานการปรากฏตัวของชาวอิหร่าน หรือหลังจากการยึดครองอิรักโดยซุฟยานีในปีการปรากฏตัวของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.)

    ในบรรดาริวายะฮ์เหล่านี้ มีหะดีษเกี่ยวกับการเข้ามายังอียิปต์ของกองกำลังมาเกร็บ ซึ่งผู้เขียนทั้งหลายมักจะถือว่าสัญญาณนี้เป็นหนึ่งในสัญญาณของการปรากฏตัวของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) และจุดประสงค์ของคำว่ามาเกร็บ (มัฆริบี) ในริวายะฮ์นี้และริวายะฮ์อื่นๆ หมายถึงเมืองมาเกร็บดินแดนต่างๆ ของอิสลามซึ่งประกอบด้วยรัฐบาลโมร็อกโก แอลจีเรีย ลิเบีย และตูนิเซีย อย่างไรก็ตาม เท่าที่ผมได้ตรวจสอบบรรดาริวายะฮ์ที่เกี่ยวข้อง ผมไม่พบริวายะฮ์ใดๆ ที่บ่งชี้อย่างชัดเจน แต่ผมได้เห็นริวายะฮ์จำนวนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการเข้ามายังอียิปต์ของกองกำลังตะวันตกในช่วงการปฏิวัติของชาวฟาฏิมียะฮ์  แต่ผมไปเจอริวายะฮ์ในหนังสือ อัล ฆ็อยบะฮ์ ของเชคฏูซี หน้า 278 ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งข้อมูลที่เก่าแก่และน่าเชื่อถือที่สุด ในนั้นได้กล่าวถึงชาวตะวันตก (อะฮ์ลุลฆ็อรบ์) ไม่ใช่ชาวมาเกร็บ (อะฮ์ลุลมัฆริบ) และเจ้าของหนังสือบิฮารุลอันวาร และบิชะเราะตุลอิสลาม ได้รายงานมาจากเขา นอกจากสองคนนี้แล้ว ยังมีอีกหลายคนรายงานมาอย่างผิดๆ ว่าเป็น “ชาวมาเกร็บ”

    และริวายะฮ์บทนี้บ่งบอกถึงการเข้ามายังอียิปต์ของชาวตะวันตกไม่นานก่อนที่ซุฟยานีจะก่อกบฏในดามัสกัส และมันเป็นถ้อยคำส่วนหนึ่งจากริวายะฮ์ที่ยาวของอัมมาร ยาซีร (ร.ฎ.) ที่กล่าวว่า :

إِنَّ دَوْلَةَ أَهْلِ بَيْتِ نَبِيِّكُمْ فِي آخِرِ اَلزَّمَانِ وَ لَهَا أَمَارَاتٌ ... وَ يَخْرُجُ أَهْلُ اَلْغَرْبِ إِلَى مِصْرَ . فَإِذَا دَخَلُوا فَتِلْكَ إِمَارَةُ اَلسُّفْيَانِيِّ

      “แท้จริงรัฐบาลของอะฮ์ลุลบัยต์ของศาสดาของพวกท่านจะถูกสถาปนาขึ้นในยุคสุดท้าย ซึ่งมีสัญญาณต่างๆ คือ ... และชาวตะวันตกจะออกไปยังอียิปต์ และทันทีที่พวกเขาเข้าไปในอียิปต์ รัฐบาลของซุฟยานีก็จะถูกสถาปนาขึ้น”

    เป็นไปได้ว่าริวายะฮ์ของเชคฏูซี (ร.ฎ.) (เสียชีวิตในปี ฮศ. 460) ซึ่งเป็นต้นฉบับและแหล่งที่มาของริวายะฮ์ที่บรรดานักรายงานหะดีษหลังจากเขาได้อ้างอิงมันและคำว่า "ฆ็อรบ์" (ตะวันตก) ถูกเข้าใจผิดว่าเป็น “มัฆริบ”  (มาเกร็บ)

    แน่นอน เรายอมรับทัศนะที่ว่ากองกำลังตะวันตกหรือมาเกร็บจะเข้ามาหลังจากเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอียิปต์และจะเป็นสาเหตุของการปลุกปั่นมัน และดูเหมือนว่ากองกำลังเหล่านั้นเป็นกองกำลังที่ต่อต้านอิสลามและต่อต้านชาวอียิปต์ที่พยายามจะเข้าสู่อียิปต์และหากทำได้สำเร็จในการเข้าสู่อียิปต์ มันจะเป็นสัญญาณของการออกมาก่อกบฏของซุฟยานีในดามัสกัสและการยึดครองดินแดนชามของเขา เมื่อพิจารณาถึงข้อเท็จจริงที่ว่า ซุฟยานีจะออกมาก่อนการปรากฏตัวของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) เพียงไม่กี่เดือน ดังนั้นการเข้ามายังอียิปต์ของกองกำลังเหล่านี้จะเกิดขึ้นในปีของปรากฏตัวของท่านอิมาม หรือใกล้เคียงกันนั้น

    ริวายะฮ์บางส่วนกล่าวว่า ซุฟยานีจะต่อสู้กับชาวอียิปต์และจะเข้าไปที่นั่นและก่ออาชญากรรมเป็นเวลาสี่เดือน และเป็นไปได้มากว่าริวายะฮ์บทนี้เป็นหนึ่งในหะดีษที่พูดเกินจริงเกี่ยวกับซุฟยานี เนื่องจากไม่มีการเอ่ยถึงเรื่องนี้ในแหล่งข้อมูลชั้นหนึ่ง และดังที่บางริวายะฮ์กล่าวไว้ บุคคลที่ซุฟยานีจะสังหารในดามัสกัสนั้นคืออับเกาะอ์ ซึ่งมาจากอียิปต์หรือมีความสัมพันธ์กับอียิปต์ วัลลอฮุลอาลิม (พระเจ้าเท่านั้นที่ทรงรู้)

    ริวายะฮ์อีกบทหนึ่งในบริบทนี้กล่าวว่า  ท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) จะกำหนดให้อียิปต์เป็นธรรมาสน์ (ฐานในการประกาศศาสนา) ของท่าน และเรื่องนี้ปรากฏอยู่ในริวายะฮ์ของอะบายะฮ์ อะซะดี จากท่านอิมามอะลี (อ.) ดังนี้ :

    “ฉันได้ยินท่านอะมีรุลมุอ์มินีน (อ.) กล่าวในขณะที่ท่านกำลังเอนตัวพิงและฉันกำลังยืนอยู่ว่า : “ฉันจะตั้งธรรมาสน์ในอียิปต์และจะทำลายเมืองดามัสกัส และขับไล่ชาวยิวและชาวคริสต์ออกจากเมืองอาหรับทั้งหมดด้วยไม้เท้านี้ ฉันจะขับไล่ชาวอาหรับออกไป” ฉันกล่าวว่า : “ท่านกำลังจะบอกว่าท่านจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาหลังจากความตายอย่างนั้นหรือ?” ท่านกล่าวว่า : “โอ้ อะบายะฮ์ เจ้าคิดผิดแล้ว! บุรุษจากเชื้อสายของฉันจะทำสิ่งนี้” (7)

    และยังมีรายงานมาจากท่านอิมามอะลี (อ.) ซึ่งท่านได้กล่าวเกี่ยวกับท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) และบรรดาผู้ช่วยเหลือของท่านไว้เช่นนี้ว่า :

     “จากนั้น (มะฮ์ดีและบรรดาสหายของเขา) จะออกเดินทางไปยังอียิปต์ และเขาจะขึ้นสู่ธรรมาสน์ที่นั่นและทำการปราศรัยกับประชาชนและจะกล่าวกับพวกเขาว่า : แผ่นดินโลกจะสมบูรณ์และเขียวขจีด้วยผลของความยุติธรรม และท้องฟ้าจะโปรยน้ำฝนแห่งความเมตตาลงมา และต้นไม้ก็จะให้ผลอุดมสมบูรณ์ และแผ่นดินก็จะทำให้พืชพันธ์ของมันงอกเงยขึ้น และประดับหน้าด้วยดอกไม้และพืชพรรณแก่ชาวแผ่นดิน สัตว์ป่าจะใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุขและปลอดภัย โดยที่พวกมันจะเล็มหญ้าเดินไปตามถนนต่างๆ ของโลกเหมือนสัตว์เลี้ยงที่แทะเล็มหญ้า แสงสว่างแห่งความรู้ก็จะส่องเข้าสู่หัวใจของบรรดาผู้ศรัทธา ในลักษณะที่ไม่มีผู้ศรัทธาคนใดต้องการวิชาความรู้จากผู้รู้คนใดของตนอีก ในวันนั้นโองการที่กล่าวว่า “และอัลลอฮ์ก็จะทรงให้ความพอเพียงแก่ทั้งหมด จากความมั่งมีของพระองค์” จะปรากฏเป็นจริง” (8)

    จากริวายะฮ์ทั้งสองนี้สามารถสรุปได้ว่า ในรัฐบาลโลกของอิสลาม อียิปต์จะกลายเป็นฐานทางวิชาการและการเผยแพร่ศาสนาที่มีชื่อเสียงในโลกโดยมือของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ... โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงประโยคที่ว่า “ฉันจะตั้ง ธรรมาสน์ขึ้นในอียิปต์” และ “จากนั้นเขาจะไปที่อียิปต์และเขาจะขึ้นสู่ธรรมาสน์ที่นั่น” กล่าวคือ ท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) และบรรดาสหายของท่านจะเดินทางไปอียิปต์ แต่ไม่ใช่เพื่อพิชิตที่นั่นหรือสถาปนาการปกครองของท่านที่นั่น แต่เนื่องจากการที่อียิปต์ให้การต้อนรับท่านอิมาม (ดวงวิญญาณของเราพลีแด่ท่าน) และบรรดาสหายของท่าน ด้วยเหตุนี้เองที่ท่านจะเลือกสถานที่นั้นเป็นธรรมาสน์และบัลลังก์ในการกล่าวสุนทรพจน์ของท่าน ดังที่ท่านอมีรุลมุอ์มินีน (อ.) ปู่ทวดผู้มีเกียรติของท่านได้สัญญาไว้ และเนื่องจากท่านจะส่งสาส์นของท่านจากที่นั่นถึงประชาชนชาวอียิปต์และชาวโลก และการที่อียิปต์เป็นบัลลังก์ของวิชาความรู้และเป็นฐานในการส่งสาส์นของท่านไปทั่วโลกนั้นไม่มีความขัดแย้งใดๆ กับระดับความรู้ที่ชาวมุสลิมได้รับในขณะนั้น

    ในท่ามกลางริวายะฮ์เหล่านี้ มีริวายะฮ์ที่บอกว่า ท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) มีขุมสมบัติและคลังความรู้และสิ่งอื่นๆ อยู่ในปิรามิดสองแห่งของอียิปต์ ซึ่งริวายะฮ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ปรากฏอยู่ในตำราอ้างอิงชั้นหนึ่ง เช่น หนังสือกะมาลุดดีน ของเชคซอดูก ( ร.ฎ.) ในหน้า 564 ในริวายะฮ์บทหนึ่งจากอะห์มัด บิน มุฮัมมัด ชะอ์รอนี ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกหลานของอัมมาร บิน ยาซีร (ร.ฎ.) ได้รายงานมาจากมุฮัมมัด บินกอซิม มิศรี่ว่า ลูกชายของอะห์มัด บิน ฏูลูน มอบหมายคนงานหนึ่งพันคนเป็นเวลาหนึ่งปีเพื่อขุดและค้นหาประตูปิรามิด ในที่สุดพวกเขาก็เจอหินอ่อนซึ่งด้านหลังของมันเป็นอาคารที่พวกเขาไม่สามารถทำลายได้ แต่มีนักบวชคริสเตียนจากอบิสซิเนียอ่านคำจารึกบนหินซึ่งเป็นคำพูดของฟาโรห์แห่งอียิปต์องค์หนึ่ง : “ฉันได้สร้างปิรามิดและป้อมปราการต่างๆ ขึ้นมา และสร้างปิรามิดทั้งสองนี้และเก็บสมบัติต่างๆ ของฉันไว้ในนั้น” อิบนุ ฏูลูน กล่าวว่า : “นี่คือสิ่งที่ไม่มีใครรู้ช่องทางและวิธีการของมัน นอกจากกออิมแห่งวงศ์วานของมุฮัมมัด (ซ็อลฯ) จากนั้นเขาก็วางหินอ่อนนั้นลงไว้ที่เดิมของมัน” ในริวายะฮ์นี้มีจุดอ่อนต่างๆ ที่ผู้รายงานบางคนอาจกล่าวเพิ่มไว้เอง แต่ในขณะเดียวกันก็มีจุดแข็งต่างๆ ที่สำคัญอยู่ในนั้น วัลลอฮุลอาลิม (พระเจ้าเท่านั้นที่ทรงรอบรู้)  

    และในหมู่ริวายะฮ์เหล่านั้น มีริวายะฮ์ที่เกี่ยวกับ “อัคนัส อียิปต์” ซึ่งผู้เขียนหนังสือ “กันซุลอุมมาล”  ได้รายงานไว้ในหนังสือบุรฮาน (หน้า 200 อ้างอิงจากตารีคอิบนุอะซากิร) จากท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ที่กล่าวว่า :

     “ชายคนหนึ่งจากเกุเรชชื่ออัคนัส (และในหนังสือ “ฟัยฎุลกอดีร” ของมะนาวี, เล่มที่ 4, หน้า 131 : จากบนี อุมัยยะฮ์) จะขึ้นสู่อำนาจในอียิปต์ แล้วพวกเขาก็จะเอาชนะเขา หรือจะยึดอำนาจจากเขา แล้วเขาจะหลบหนีไปยังโรม และเขาจะนำชาวโรมันไปยังอเล็กซานเดรียและต่อสู้กับชาวมุสลิมที่นั่น และนี่คือเหตุการณ์แรก” และจุดประสงค์จากเหตุการณ์ต่างๆ คือเหตุการณ์การปรากฏตัวของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) และจุดประสงค์จากบนีอุมัยยะฮ์ หมายถึง แนวคิดและแนวทางของพวกเขา


เชิงอรรถ :

1. บิชาเราะตุลอิสลาม, หน้า 176

2. บิฮารุลอันวาร, เล่ม 52, หน้า 210

3. บิฮารุลอันวาร, เล่ม 52, หน้า 208

4. บิชาเราะตุลอิสลาม, หน้า 42 อ้างจาก มะนากิบ, อิบนุ ชะฮ์รอชูบ

5. ต้นฉบับตัวเขียนของอิบนุ ฮัมมาด, หน้า 78

6. บิชาเราะตุลอิสลาม, หน้า 28 อ้างจากอิบนุ อะรอบี ในหนังสือ “มุฮาเฎาะเราะตุลอับร๊อร”

7. บิฮารุลอันวาร, เล่ม 53, หน้า 60

8. บิชาเราะตุลอิสลาม, หน้า 71


ที่มา : จากหนังสือ อัศรุซุฮูร โดย อัลลามะฮ์อะลี อัล กูรอนี

แปลและเรียบเรียง : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญา

Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 1343 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

25316365
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
17545
46075
180557
24887231
502068
1079962
25316365

พฤ 26 ธ.ค. 2024 :: 11:20:36