นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองและการเข้าควบคุมของสหรัฐฯ เหนือทะเลทั้งหลาย ประเทศนี้ ได้แสดงตัวว่าเป็นผู้พิทักษ์ความมั่นคงของโลกเสรีนิยมและเสรีภาพแห่งท้องทะเล สงครามหลายครั้งเกิดขึ้นโดยสหรัฐฯ เพื่อสิ่งนี้ ภายใต้สถานการณ์พิเศษ กองกำลังของฮูซี (อันซอรุลลอฮ์) ได้ท้าทายอำนาจการควบคุมที่กินเวลายาวนานกว่าเจ็ดสิบปีนี้ สถานการณ์ในฉนวนกาซานำไปสู่การยอมรับอย่างจริงจังและความชอบธรรมพิเศษต่อการดำเนินการต่างๆ ของเยเมนในทะเลแดง
ตามรายงานของมัชริก ช่องเทเลแกรม "Noosoolgara" เขียนว่า : เยเมนกับปัญหาที่ใหญ่กว่าทะเลแดง
นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองและการเข้าควบคุมของสหรัฐฯ เหนือทะเลทั้งหลาย ประเทศนี้ ได้แสดงตัวว่าเป็นผู้พิทักษ์ความมั่นคงของโลกเสรีนิยมและเสรีภาพแห่งท้องทะเล สงครามหลายครั้งเกิดขึ้นโดยสหรัฐฯ เพื่อสิ่งนี้
เริ่มต้นตั้งแต่สงครามบนคาบสมุทรเกาหลีและเวียดนามไปจนถึงการป้องกันการถ่ายโอนระเบิดนิวเคลียร์ไปยังคิวบาในทศวรรษ 1960 ตลอดจนสงครามอ่าวเปอร์เซียครั้งแรกและครั้งที่สองและอื่นๆ ในทุกกรณีทั้งหมดเหล่านี้ สิ่งสำคัญคือ ความสามารถพิเศษทางการทหารและเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกาในพื้นที่ทางทะเล ความสามารถนี้ยิ่งใหญ่มากถึงขั้นที่จีนและรัสเซียยอมรับและพยายามออกแบบและใช้เส้นทางบกทั่วไป เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์นี้ สงครามในยูเครนและการกดดันต่ออิหร่านได้รับการออกแบบและดำเนินการโดยสหรัฐอเมริกาเพื่อปิดเส้นทางบกนี้
ขณะนี้ ภายใต้สถานการณ์พิเศษ กองกำลังของฮูซี (อันซอรุลลอฮ์) ได้ท้าทายอำนาจการควบคุมที่กินเวลายาวนานกว่าเจ็ดสิบปีนี้ สถานการณ์ในฉนวนกาซานำไปสู่การยอมรับอย่างจริงจังและความชอบธรรมพิเศษต่อการดำเนินการต่างๆ ของเยเมนในทะเลแดง ในขณะเดียวกันการดำเนินการยิงที่แม่นยำและตรงเป้าหมาย เฉพาะกับเรือที่มีต้นทางหรือปลายทางอยู่ที่ดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองก็สามารถรักษาความชอบธรรมนี้ได้ เนื่องจากหนึ่งในประเทศที่ใหญ่ที่สุดที่ใช้เส้นทางทะเลแดงคือจีน และการไม่ปะทะกับเรือของประเทศนี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่า ในช่วงเวลานี้ สหรัฐอเมริกาได้ถูกมัดมืออย่างสมบูรณ์และได้ดำเนินการในสถานะของการป้องกัน ในช่วงแรกและหลังจากข้อความทั้งหมดหลังม่าน สหรัฐอเมริกาไม่สามารถหยุดเยเมนได้ จากนั้น ด้วยการส่งกองทัพเรือ - ซึ่งนั่นก็ด้วยรูปแบบที่หนักหน่วงเช่นกัน - ก็ยังไม่สามารถทำให้เยเมนหวาดกลัวได้ ในการดำเนินการต่อมา ด้วยการโจมตีโดยตรงต่อกองทัพเรือของเยเมน ทหารสิบนายของเยเมนต้องเสียชีวิต (เป็นชะฮีด) แต่เยเมนกลับโจมตีเรือรบของสหรัฐอเมริกาอย่างหนักโดยไม่มีการเผชิญหน้าและปฏิบัติการโดยตรง ในขณะที่ก่อนหน้านี้ เยเมนสามารถดำเนินการต่างๆ ของตนในการโจมตีระบอบไซออนิสต์และวางเฉยต่อสหรัฐอเมริกา แต่การโจมตีมหาอำนาจทางเรือโดยตรงก็เป็นทางเลือกของเยเมน
ผลลัพธ์ก็ชัดเจน การโจมตีเยเมนของสหรัฐอเมริกาเป็นส่วนหนึ่งของการบีบบังคับความเป็นจริงที่มีอยู่ แต่ลักษณะของการโจมตีแสดงให้เห็นว่าสหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาตอบโต้เยเมนโดยสมบูรณ์ มิใช่เป็นแค่เพียงการส่งข้อความ เป็นการโจมตีจุดต่างๆ ที่ซาอุดิอาระเบียได้เคยกระทำด้วยเทคโนโลยีแบบเดียวกับตะวันตกเมื่อ 8 ปีที่แล้ว และได้โจมตีจุดเหล่านั้นหลายสิบครั้ง แต่ก็ไม่ได้ผลลัพธ์อะไร เป็นเพียงการแสดงโชว์ต่อเวทีโลกเท่านั้น
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ปฏิบัติการต่อไปของชาวเยเมนจะเป็นการตอบโต้สหรัฐอเมริกา สิ่งที่สำคัญคือการที่สหรัฐอเมริกาไม่สามารถโจมตีเยเมนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญกว่านั้น คือ การที่สหรัฐอเมริกาไม่สามารถเข้าสู่สงครามครั้งใหญ่ ซึ่งจะเป็นผลในการสร้างความปลอดภัยสำหรับไซออนิสต์ได้ เหตุการณ์อันทรงคุณค่าที่จะเร่งกระบวนการถอนตัวของอเมริกาออกจากภูมิภาคและส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสถานะระหว่างประเทศของตนในการรักษาสถานการณ์ของทะเลทั้งหลาย
สถานการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ ได้ยกระดับขีดจำกัดของตัวเองขึ้นสูงแล้ว และในอีกด้านหนึ่ง อาจจะได้เห็น การปฏิเสธอิสราเอลเป็นทางเลือกที่จริงจังของตนในไม่ช้านี้ ในระหว่างนี้ ประเด็น "แคมเปนการลอบสังหาร (แกนนำ)" ที่เริ่มต้นโดยสหรัฐอเมริกาและไซออนิสต์เพื่อต่อต้านแนวรบของฝ่ายต่อต้านขณะนี้ยังคงดำเนินอยู่ และจำเป็นที่ (ฝ่ายต่อต้าน) จะต้องการตอบโต้ร่วมกันและอย่างเข้มแข็ง
การตอบโต้ที่อยู่เหนือขีดที่จำเป็นในการหยุดแคมเปนการลอบสังหาร และบังคับให้ฝ่ายตรงข้ามถอยกลับลงมาจากเส้นทางนั้น แต่จะต้องต่ำกว่าขีดที่จะนำไปสู่การเริ่มต้นสงครามด้วย การวางแผนและการดำเนินการโจมตีร่วมกันและเฉพาะเจาะจงดังกล่าวนี้ เป็นเรื่องยากมากแต่ก็เป็นไปได้ สหรัฐอเมริกาได้แสดงให้เห็นว่า ได้ยกระดับขีดจำกัดของตนสำหรับสงครามระดับภูมิภาคในลักษณะที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ที่มา : สำนักข่าวมัชริก
Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่