ปรัชญาการละหมาดในอิสลาม การละหมาดและการสรรเสริญอัลลอฮ์ (ซบ.) พระผู้เป็นเจ้า คือการสื่อสารระหว่างมนุษย์และพระเจ้า ระหว่างสิ่งถูกสร้างกับพระผู้สร้างที่ใกล้ชิดที่สุด การละหมาดมอบความอบอุ่นและความสงบเยือกเย็นให้แก่หัวใจที่ถูกทำให้อ่อนล้ากระวนกระวายและปั่นป่วน
โดยสัญชาติญาณทางธรรมชาติแล้วมนุษย์ทุกคนมีความต้องการความสงบสุขและความสะดวกสบาย และหนึ่งในสิ่งที่จะทำให้บรรลุในเรื่องนี้คือคุณลักษณะทางด้านจริยธรรมอันได้แก่ความพอเพียง (กอนาอะฮ์) ความรู้สึกพอเพียงในสิ่งที่ตนเองได้รับนั้น จะทำให้เขาสัมผัสกับความหวานชื่นของความพึงพอใจ และจะไม่รู้สึกถึงความโลภหลง
ในคำสอนต่างๆ ของศาสนาอิสลามนั้น การแสวงหาความรู้ถูกเน้นย้ำไว้อย่างมากมาย และถูกกำชับแก่มนุษย์ว่า “จงแสวงหาความรู้นับจากเปลนอนจนกระทั่งถึงหลุมฝังศพ” และในหลายวาระเช่นกันที่ได้กำชับสั่งเสียให้ศึกษาเรียนรู้ความรู้ต่างๆ ที่จำเป็นและมีประโยชน์
หลังจากหนึ่งเดือนของความอุตสาห์พยายาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับพระผู้เป็นเจ้า และกระทำความดีต่างๆ นั้น วันอีดิลฟิฏรี่ เป็นเสมือนวันซึ่งรางวัลและผลตอบแทนของแต่ละคนจะถูกมอบให้แก่เขาตามขอบเขตที่เขาได้อุตสาห์พยายาม...
ไม่มีสิ่งใดที่จะเป็นเหมือนดั่งตักวา (ความยำเกรงและความสำรวมตนต่อพระผู้เป็นเจ้า) ที่จะนำพามนุษย์ให้ไปถึงยังเป้าหมายและสิ่งที่มุ่งมาตรปรารถนาได้ ภายใต้ร่มเงาของตักวา (ความยำเกรงและความสำรวมตนต่อพระผู้เป็นเจ้า) นี่คือสิ่งที่มนุษย์สามารถบรรลุสู่จุดสูงสุดของความมีเกียรติ ความภาคภูมิใจในตนเองและความสำเร็จที่แท้จริงในชีวิต
มี 657 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์