ความรู้เท่าทันต่อยุคสมัย ความผิดพลาดจะไม่จู่โจมมาสู่เขา
Powered by OrdaSoft!
No result.
ความรู้เท่าทันต่อยุคสมัย ความผิดพลาดจะไม่จู่โจมมาสู่เขา

การดำเนินชีวิตให้อยู่รอดและปลอดภัยจากการจู่โจมและการรุกรานทางด้านวัฒนธรรมและความคิดจากฝ่ายศัตรูในปัจจุบันจึงจำเป็นต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจและความมีไหวพริบเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบรรดาเยาวชนหนุ่มสาว การมีความรู้และความเข้าใจต่อยุคสมัยและสภาพความเป็นไปของมันเท่านั้นที่ทำให้เราสามารถดำรงตนให้อยู่รอดปลอดภัยจากความเบี่ยงเบนทางด้านศีลธรรม การเบี่ยงเบนทางแนวความคิด และปลอดภัยจากปัจจัยต่างๆ ที่จะทำให้จิตวิญญาณของเราเกิดความป่วยไข้ได้  

    ยุคปัจจุบันซึ่งเราทุกคนเชื่อว่ามันคือยุค “อาคิรุซซะมาน” (ยุคสุดท้ายของโลก) เป็นยุคที่เต็มไปด้วยวิกฤตการณ์อันเลวร้ายต่างๆ ความเสื่อมทรามทางด้านศีลธรรมปรากฏให้เห็นเต็มหน้าแผ่นดิน สงครามต่างๆ ที่ศัตรูของอิสลามกำลังใช้เพื่อเผชิญหน้ากับบรรดามุสลิมนั้น ปัจจุบันไม่ใช่แค่เพียงสงครามทางด้านอาวุธเพียงเท่านั้น แต่ยังมีอีกสงครามหนึ่งซึ่งเรียกว่า “สงครามทางด้านวัฒนธรรม” และ “สงครามทางด้านแนวคิด” มันคือการรุกรานและเป็นการทำลายล้างทางด้านวัฒนธรรมและศีลธรรม ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งเลวร้าย และสร้างความหายนะให้กับมนุษยชาติโดยเฉพาะประชาชาติมุสลิมมากยิ่งกว่าสงครามทางด้านอาวุธ

    การดำเนินชีวิตให้อยู่รอดและปลอดภัยจากการจู่โจมและการรุกรานทางด้านวัฒนธรรมและความคิดจากฝ่ายศัตรูในปัจจุบันจึงจำเป็นต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจและความมีไหวพริบเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบรรดาเยาวชนหนุ่มสาว การมีความรู้และความเข้าใจต่อยุคสมัยและสภาพความเป็นไปของมันเท่านั้นที่ทำให้เราสามารถดำรงตนให้อยู่รอดปลอดภัยจากความเบี่ยงเบนทางด้านศีลธรรม การเบี่ยงเบนทางแนวความคิด และปลอดภัยจากปัจจัยต่างๆ ที่จะทำให้จิตวิญญาณของเราเกิดความป่วยไข้ได้

    ท่านอะมีรุลมุอ์มีนีน (อ.) ได้กล่าวกับท่านอิมามฮะซัน มุจญ์ตะบา (อ.) ผู้เป็นบุตรชายว่า :

 یا بنی اِنّه لابُدّ لِلْعاقِل اَنْ ینظرُ فی شانِه فَلْیحفِظُ لِسانه ولْیعرِف اهل زمانِه

“โอ้ลูกรักของพ่อ จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีสติปัญญา ที่เขาจะต้องพิจารณาใคร่ครวญในกิจการของตนเอง โดยที่เขาจะต้องระวังรักษาลิ้น (วาจาคำพูด) ของตน และจะต้องรู้จักบรรดาผู้ที่อยู่ในยุคสมัยของตนเอง” (1)

    ท่านอิมามญะฟัร ซอดิก (อ.) ได้กล่าวว่า :

اَلْعَالِمُ بِزَمَانِهِ لاَ تَهْجُمُ عَلَيْهِ اَللَّوَابِسُ

“ผู้ที่มีความรู้เท่าทันต่อยุคสมัยของตนเองนั้น ความผิดพลาด (และความลึกลับซับซ้อน) ทั้งหลายจะไม่จู่โจมมาสู่เขา” (2)

    ท่านอิมามมูซา กาซิม (อ.) ได้กล่าวไว้เช่นกันว่า :

وَجَدْتُ عِلْمَ النَّاسِ فِي أَرْبَعٍ : أَوَّلُهَا : أَنْ تَعْرِفَ رَبَّكَ وَ الثَّانِيَةُ : أَنْ تَعْرِفَ مَا صَنَعَ بِكَ وَ الثَّالِثَةُ : أَنْ تَعْرِفَ مَا أَرَادَ مِنْكَ وَ الرَّابِعَةُ : أَنْ تَعْرِفَ مَا يُخْرِجُكَ مِنْ دِينِكَ

“ฉันได้พบว่าความรู้ของมนุษย์นั้นอยู่ในสี่ประการ คือ (1) การที่ท่านจะรู้จักองค์พระผู้อภิบาลของท่าน (2) การที่ท่านจะรู้ว่าพระองค์ได้ปฏิบัติสิ่งใดต่อท่าน (3) การที่ท่านจะรู้ว่าพระองค์ประสงค์สิ่งใดจากท่าน และ (4) การที่ท่านจะรู้ว่าอะไรที่จะทำให้ท่านออกห่างจากศาสนาของท่าน” (3)

    ถ้าหากเรามีความรู้ในหลักคำสอนของอิสลามอย่างแท้จริง และมีความเข้าใจที่ถูกต้องต่อยุคสมัยและสภาวะเงื่อนไขต่างๆ ที่เรากำลังดำเนินชีวิตอยู่ แน่นอนยิ่งว่าเราจะปลอดภัยจากการรุกรานทางด้านวัฒนธรรม ศีลธรรมและแนวคิดจากบรรดาศัตรูได้ การรับเอาวิชาการและเทคโนโลยีต่างๆ จากศัตรูนั้นไม่มีข้อห้ามแต่อย่างใด เพราะวิชาความรู้ทั้งมวลนั้นมาจากพระผู้เป็นเจ้า ผู้ที่คู่ควรต่อความรู้เหล่านั้นมากที่สุดก็คือผู้ศรัทธา(มุอ์มิน)

    ท่านอิมามอะลี (อ.) ได้กล่าวว่า :

 الْعِلْمُ ضَالَّةُ الْمُؤْمِنِ

“ความรู้นั้นคือสิ่งที่พลัดหลงไปจากผู้ศรัทธา” (4)

    แต่มุสลิมเราไม่มีสิทธิที่จะไปลอกเลียนแบบวิถีชีวิต แนวคิด และไม่มีสิทธิทีจะรับเอาวัฒนธรรมต่างๆ ของศัตรูอิสลามมาเป็นของตน หรือปฏิบัติตนเหมือนกับบรรดาผู้ปฏิเสธ

    ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) ได้กล่าวว่า อัลลอฮ์ (ซบ.) ได้ทรงตรัสว่า :

 لا تلبسوا لباس اعدائی ولا تطعموا مطاعم اعدائی و لا تسلکوا مسالک اعدائی فتکونوا اعدائی کما هم اعدائی

“พวกเจ้าจงอย่างแต่งกายด้วยอาภรณ์ของบรรดาศัตรูของข้า และจงอย่าบริโภคอาหารของบรรดาศัตรูของข้า และจงอย่าดำเนินไปตามแนวทางของบรรดาศัตรูของข้า มิเช่นนั้นแล้วพวกเจ้าก็จะเป็นศัตรูกับข้า เหมือนดังที่พวกเขาเป็นศัตรูต่อข้า” (5)

    วันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราในฐานะที่เป็นมุสลิมผู้ศรัทธามั่นต่ออัลลอฮ์ (ซบ.) จะต้องประกาศตนเป็นผู้บริสุทธิ์จากการลอกเลียนแบบวิถีการดำเนินชีวิตและการรับเอาวัฒนธรรมของศัตรูอิสลามทุกรูปแบบมาเป็นของตนเอง

    วันนี้ในเทศกาลฮัจญ์ ประเด็นที่สำคัญยิ่งประการหนึ่งที่มุสลิมทุกคนจะต้องให้ความสำคัญนั่นคือ ประเด็นของการประกาศตนเป็นผู้บริสุทธิ์จากศัตรู (บะรออะฮ์ มินัลมุชริกีน) ที่ท่านอิมามอะลี (อ.) ได้กระทำไว้เป็นแบบอย่าง ตามพระบัญญัติของอัลลอฮ์ (ซบ.) ที่มีมายังท่านศาสนทูต (ซ็อลฯ) แต่ถูกหลงลืมมาตลอดระยะเวลาของประวัติศาสตร์ แต่มาถูกฟื้นฟูขึ้นอีกครั้งหนึ่งหลังการปฏิวัติอิสลามโดยท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) แม้วันนี้เราจะไม่ได้อยู่ในเทศกาลฮัจญ์ แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตามเราจะต้องประกาศจุดยืนของเราอย่างชัดเจนในเรื่องนี้ เรามีวิถีการดำเนินชีวิตเป็นของเราเอง เรามีวัฒนธรรมและหลักการปฏิบัติเป็นของเราเอง และเรามีโลกทัศน์เป็นของตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและสมบูรณ์แบบที่สุด ดังนั้นจงอย่าหลงไปตามกระแสที่บรรดาศัตรูของเราได้วางกับดักไว้ มิเช่นนั้นแล้วเราจะกลายเป็นศัตรูของอัลลอฮ์ (ซบ.) และจะพบกับความอัปยศในชีวิตของเรา


แหล่งที่มา :

(1) อัลอามาลี, เชฏูซี, หน้าที่ 146

(2) บิฮารุ้ลอันวาร, อัลลามะฮ์มัญ์ลิซี, เล่มที่ 68, หน้าที่ 307

(3) บิฮารุ้ลอันวาร, อัลลามะฮ์มัญ์ลิซี, เล่มที่ 75, หน้าที่ 328

(4) ญามิอุ บะยานิลอิลมิ วะฟัฎลิฮ์, อิบนิ อับดุลบิรร์, เล่มที่ 1, หน้าที่ 424

(5) วะซาอิลุชชีอะฮ์, อัลฮุรรุลอามิลี, เล่มที่ 4, หน้าที่ 385


บทความโดย : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

Copyright © 2017 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้อิสลามสำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 1098 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

10117830
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
70866
67809
138675
9524455
1969364
2060970
10117830

จ 29 เม.ย. 2024 :: 23:32:08