ส่วนหนึ่งจากคำพูดของอิมามโคมัยนี ที่มีต่อมวลมุสลิมและผู้ถูกกดขี่ของโลก
Powered by OrdaSoft!
No result.

ส่วนหนึ่งจากคำพูดของอิมามโคมัยนี ที่มีต่อมวลมุสลิมและผู้ถูกกดขี่ของโลก

เนื่องในโอกาสการรำลึกถึงวันครบรอบการอสัญกรรมของท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) ผู้วางรากฐานการปฏิวัติอิสลามและผู้ปลุกประชาชาติมุสลิมและบรรดาผู้อ่อนแอผู้ถูกกดขี่ (มุสตัฎอะฟีน) ของโลกให้ตื่นขึ้น และหันกลับมาสู่อัตลักษณ์ของตนเองและคำสอนของพระผู้เป็นเจ้า จึงขอนำสุนทโรวาทบางส่วนของท่านที่เกี่ยวกับการตื่นตัวของอิสลามมานำเสนอไว้ในที่นี้

    “ขณะนี้มุสลิมกำลังก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 15 ของฮิจญ์เราะฮ์ศักราช และอิหร่านก็กำลังเข้าสู่ช่วงครบรอบการปฏิวัติและการฮิจญ์เราะฮ์ (การอพยพ) เรากำลังเฉลิมฉลองวิลาดัต (การถือกำเนิด) อันจำเริญ การฮิจญ์เราะฮ์อันยิ่งใหญ่ และการปฏิวัติอิสลาม เราขอกล่าวแสดงความปีติยินดี แต่การเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่กว่าจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อบรรดาผู้ถูกกดขี่สามารถพิชิตเหนือบรรดามหาอำนาจผู้กดขี่ และทำให้พวกเขาเข้าสู่มุมอับตลอดไป

     และด้วยกับความเป็นเอกภาพของมวลมุสลิม (วะห์ดะฮ์) ภายใต้ร่มธงแห่งเตาฮีด (การยอมรับในความเป็นหนึ่งเดียวของพระผู้เป็นเจ้า) จะสามารถตัดมือของบรรดาผู้กดขี่ให้หลุดพ้นจากประเทศของพวกเขาได้ พี่น้องชาวอาหรับ พี่น้องชาวเลบานอนและปาเลสไตน์จะต้องตระหนักว่า ความโชคร้ายทั้งมวลที่พวกเขามีอยู่ ล้วนเกิดจากอิสราเอลและอเมริกาทั้งสิ้น ความทุกข์ยากทั้งมวลที่พวกเขาได้รับ ล้วนเกิดจากความขัดแย้งแตกแยกในระหว่างบรรดาผู้นำของประเทศอิสลามทั้งสิ้น จำเป็นที่พวกเขาจะต้องรวมพลังเป็นหนึ่งเดียวกัน และด้วยพลังแห่งความศรัทธานั้น พวกเขาจะต้องถอนรากถอนโคน "อิสราเอล" รากเหง้าของความชั่วร้ายในภูมิภาคออกไปให้จงได้...

    โอ้ ประชาชาติทั้งหลาย! พึงรู้เถิดว่า พวกท่านทั้งหมดคือผู้ถูกกดขี่ ท่านทั้งหลายจงยืนหยัดขึ้นเถิด และจงเรียกร้องเอาสิทธิของตนเองกลับคืนมา และจงอย่าหวาดกลัวการข่มขู่ของบรรดามหาอำนาจทั้งหลาย เพราะพระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่กับพวกท่าน และแผ่นดินนี้เป็นมรดกของพวกท่าน และคำมั่นสัญญาของพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสูงส่งย่อมไม่ถูกบิดพลิ้ว ข้าพเจ้าขอวิงวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสูงส่ง โปรดประทานชัยชนะให้แก่บรรดาผู้ถูกลิดรอนสิทธิ์ และโปรดประทานความเป็นเอกภาพให้แก่บรรดาผู้ที่อยู่กับสัจธรรมด้วยเถิด…

    โอ้ บรรดาผู้ถูกกดขี่ของโลก ไม่ว่าพวกท่านจะเป็นชนชั้นใดและอยู่ในประเทศใดก็ตาม จงตื่นขึ้นเถิด และอย่าได้หวาดกลัวใดๆ ต่อเสียงอึกกระทึกคึกโครมและคำข่มขู่ของอเมริกา และพวกใช้อำนาจบาตรใหญ่ที่สมองกลวงทั้งหลาย จงทำให้โลกนี้คับแคบสำหรับพวกเขาเถิด และจงเรียกร้องเอาสิทธิของตนกลับคืนมาจากพวกเขาด้วยกับกำปั้นเถิด…

    โอ้ มวลมุสลิมเอ๋ย! ไม่ว่าพวกท่านจะมีเชื้อชาติใด และปฏิบัติตามมัซฮับ (นิกาย) ใดก็ตาม จงละทิ้งความเป็นปฏิปักษ์ภายในบ้านของพวกท่าน และจงเชื่อฟังคำสั่งของคัมภีร์อัลกุรอานและพระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงยิ่งใหญ่เถิด

وَ اعْتَصِمُوا بِحَبْلِ اللَّهِ جِمیعاً وَ لا تَفَرَّقُوا

“และพวกเจ้าจงยึดสายเชือกของอัลลอฮ์โดยพร้อมเพรียงกัน และจงอย่าแตกแยกกัน” (บทอาลิอิมรอน โองการที่ 103)

     พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสูงส่ง ทรงกำหนดเกียรติยศศักดิ์ศรีไว้สำหรับพระองค์เอง สำหรับศาสนทูตผู้ทรงเกียรติของพระองค์ และสำหรับบรรดาผู้ศรัทธาไว้แล้ว ดังนั้นพวกท่านจงลุกขึ้นและปฏิวัติระบอบการปกครองที่กดขี่ทั้งหลาย ที่นำเอาสถานะการดำรงอยู่ของพวกท่านไปมอบให้อยู่ในอำนาจของบรรดาศัตรูของอิสลาม และจงปลดปล่อยประเทศของพวกท่านให้หลุดพ้นจากมือของบรรดาผู้ทรยศ ผู้มีใบหน้ามืดดำเหล่านี้เถิด พระผู้เป็นเจ้านั้นทรงอยู่กับพวกท่าน…

เราจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่กับทุกประเทศที่ตกอยู่ภายใต้การครอบงำ เพื่อให้ได้รับเสรีภาพและอิสรภาพ และเราขอกล่าวกับพวกเขาอย่างชัดเจนว่า สิทธินั้นสามารถเอากลับคืนมาได้แน่นอน พวกท่านทั้งหลายจงยืนขึ้นเถิด และจงขจัดบรรดามหาอำนาจออกไปจากประวัติศาสตร์แห่งยุคสมัย ข้าพเจ้าได้กล่าวไปหลายครั้งแล้ว และตอนนี้ข้าพเจ้าจะขอเตือนว่า หากตะวันออกยังทนแบกรับการกดขี่ และแอฟริกายังไม่พึ่งพาตนเองแล้ว พวกเขาก็จะตกอยู่ในความทุกข์ยากเช่นนี้ตลอดไป พวกท่านทั้งหลายจงยืนขึ้นบนลำแข้งของตนเองเถิด และจงขับไล่ตะวันตกให้ออกไปจากสนาม จากมุมของโรงพยาบาลนี้…

     ข้าพเจ้าขอแจ้งเตือนภัยไปยังแอฟริกาและโลกตะวันออกที่ตกอยู่ภายใต้การครอบงำ และบรรดาประเทศที่ตกอยู่ภายใต้การกดขี่ว่า พวกท่านทั้งหลายจงผนึกกำลังกันให้เป็นหนึ่งเดียว และจงตัดมือของอเมริกาผู้เป็นอาชญากรออกไปจากดินแดนของพวกท่าน มือของอเมริกาและประเทศมหาอำนาจอื่นๆ ได้จมอยู่ในกองเลือดของบรรดาเยาวชนของเรา ของประชาชนผู้ถูกกดขี่อื่นๆ และบรรดานักต่อสู้ของโลก จนถึงข้อศอก เราจะต่อสู้กับพวกเขาอย่างเต็มกำลังจนเลือดหยดสุดท้ายของเรา เพราะเราคือบุรุษนักต่อสู้ เราจะส่งออกการปฏิวัติของเราไปทั่วทุกมุมโลก ทั้งนี้เนื่องจากการปฏิวัติของเราคือการปฏิวัติแบบอิสลาม ตราบที่เสียงกู่ร้องคำว่า “لا اله الا اللَّه و محمد رسول اللَّه” (ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ และมุฮัมมัดคือศาสนทูตของอัลลอฮ์) ยังไม่ดังกึกก้องไปทั่วทั้งโลกแล้ว การต่อสู้ก็จะยังคงอยู่ และตราบที่การต่อสู้กับบรรดามหาอำนาจยังคงมีอยู่ในทั่วทุกมุมโลกแล้ว เราก็จะยังคงอยู่ เราจะให้การปกป้องประชาชนผู้ไร้ที่พักพิงแห่งเลบานอนและปาเลสไตน์ ในการเผชิญหน้ากับอิสราเอล…

     ยิ่งไปกว่านั้น ประชาชาติของเราคือประชาชาติอิสลาม และบรรดาผู้ถูกกดขี่ของโลกมีความภาคภูมิใจต่อการที่ศัตรูของพวกเขา ซึ่งก็คือศัตรูของพระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ศัตรูของคัมภีร์อัลกุรอานและของอิสลาม พวกเขาเป็นสัตว์ร้ายที่จะไม่ละมือจากการก่ออาชญากรรมและการทรยศหักหลังทุกรูปแบบ เพื่อที่จะไปให้ถึงยังเป้าหมายอันชั่วร้ายของตน และเพื่อจะไปถึงยังตำแหน่งผู้นำและความโลภอันต่ำทรามของตน พวกเขาไม่รู้จักมิตรและศัตรู และในส่วนยอดของพวกเขาคืออเมริกาผู้ก่อการร้ายโดยสันดาน เป็นรัฐบาลซึ่งได้ก่อไฟทั่วทุกมุมโลก และพันธมิตรของเขาคือลัทธิไซออนิสต์สากล เพื่อจะไปให้ถึงความโลภหลงของตน พวกเขาได้ประกอบอาชญากรรมทั้งหลายที่แม้แต่ปากกาก็ละอายจากการที่จะเขียนถึงมัน และปากก็รู้สึกละอายจากการพูดถึงมัน ความเพ้อฝันที่โฉดเขลาของพวกเขาในเรื่องของ "มหานครอิสราเอล" ได้ชักนำพวกเขาไปสู่อาชญากรรมทุกรูปแบบ…

     เราและประชาชนผู้ถูกกดขี่ของโลกมีความภาคภูมิใจ ที่สื่อสารมวลชนและบริษัทตัวแทนโฆษณาต่างๆ ทั่วโลกได้ตั้งข้อกล่าวหาแก่เราและบรรดาผู้ถูกกดขี่ทั้งมวลของโลก ว่าได้กระทำการทรยศและก่ออาชญากรรมทุกอย่างตามที่เหล่ามหาอำนาจผู้เป็นอาชญากรได้ออกคำสั่ง จะมีความภาคภูมิใจใดอีกเล่าที่จะมีเกียรติยิ่งและสูงส่งยิ่งไปกว่า การที่อเมริกากล่าวอ้างคำพูดต่างๆ ทั้งหมดของเขา ด้วยกับปัจจัยทางสงครามทั้งลายของเขา และรัฐบาลทั้งหลายที่ก้มหัวรับใช้ของเขา การมีความมั่งคั่งอยู่ในมืออย่างไม่มีวันหมดสิ้นของประชาชนผู้ถูกกดขี่ และด้วยกับสื่อทั้งหมดที่มีอยู่ในมือ แต่ทว่าพวกเขากลับต้องมาหมดท่าและอับอายขายหน้ากับประชาชนผู้กล้าหาญแห่งอิหร่าน หมดท่ากับประเทศของอิมามบะกียะตุลลอฮ์ (วิญญาณของเราขอพลีเพื่อการมาของท่าน) จนกระทั่งไม่รู้ว่าจะพึงอาศัยใครได้อีก และไม่ว่าจะหันหน้าไปหาใครก็จะได้ยินแต่เสียงปฏิเสธ! และนั่นไม่ใช่อื่นใดนอกจากเป็นความช่วยเหลือจากโลกอันเร้นลับของพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสูงส่ง ที่ได้ทรงปลุกประชาชาติทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชาติอิสลามให้ตื่นขึ้น และได้ชี้นำพวกเขาออกจากความมืดมนแห่งการกดขี่ของกษัตริย์ผู้อธรรมไปสู่แสงสว่างแห่งอิสลาม

    ข้าพเจ้าขอแนะนำสั่งเสียให้ประชาชาติอิสลามทั้งหลาย จงยืดถือแบบอย่างจากรัฐบาลของสาธารณรัฐอิสลาม และจากประชาชนนักต่อสู้แห่งอิหร่าน และจงทำให้รัฐบาลผู้อธรรมทั้งหลายนั่งลงในที่ของตน ในกรณีที่พวกเขาไม่ยอมก้มหัวให้กับความต้องการของประชาชน ซึ่งนั่นก็เป็นความต้องการของชาวอิหร่านด้วยเช่นกัน บ่อเกิดแห่งความโชคร้ายของมุสลิมก็คือรัฐบาลที่ขึ้นกับตะวันออกและตะวันตก และข้าพเจ้าขอสั่งเสียด้วยการตอกย้ำว่า ท่านทั้งหลายจงอย่าฟังเสียงปี่เสียงแตรแห่งการโฆษณาชวนเชื่อของบรรดาผู้ต่อต้านอิสลามและสาธารณรัฐอิสลาม เพราะทั้งหมดเหล่านั้นต่างพยายามที่จะขับอิสลามออกนอกเวที ซึ่งจะทำให้ผลประโยชน์ต่างๆ ของมหาอำนาจได้รับการตอบสนอง” (พินัยกรรมของอิมามโคมัยนี ร.ฮ.)


บทความ : เชคมุฮัมมัดนาอีม  ประดับญาติ

Copyright © 2018 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 999 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

10300995
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
23098
84077
321840
9524455
107175
2045354
10300995

พฤ 02 พ.ค. 2024 :: 06:50:34