อิหร่านยิงขีปนาวุธพิสัยไกลและโดรนเมื่อค่ำวันเสาร์ (13 เม.ย) มุ่งเป้าไปที่สถานที่ทางทหารในพื้นที่ที่ถูกยึดครอง เพื่อตอบโต้การโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่สถานกงสุลอิหร่านในซีเรียเมื่อเร็วๆ นี้ ในโลกโซเชียลมีเดียต่างพากันให้ความสนใจเกี่ยวกับการโจมตีตอบโต้ทางทหารของอิหร่าน
เจ้าหน้าที่ทหารอิสราเอลซึ่งมองข้ามภัยคุกคามที่เกิดขึ้นจากอิหร่านก่อนการโจมตี และสื่อของอิสราเอลที่พยายามมากเกินไปในการปลอบประโลมผู้ตั้งถิ่นฐานที่ตื่นตระหนกต่างตกตะลึงต่างรู้สึกอับอาย
ตามคำบอกเล่าของผู้เชี่ยวชาญทางการทหาร เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่โดรนและขีปนาวุธหลายร้อยลำเจาะทะลุชั้นป้องกันหลายชั้นและร่อนลงในดินแดนที่ถูกยึดครอง ส่งผลให้เกิดคลื่นกระแทก
ในโลกโซเชียลมีเดียต่างพากันฮือฮาเกี่ยวกับการโจมตีตอบโต้ทางทหารของอิหร่าน โดยชาวเน็ตต่างยกย่องสาธารณรัฐอิสลามแห่งนี้ที่ดำเนินการพูดคุยและรักษาสัญญาด้วย 'ปฏิบัติการตามสัญญาที่แท้จริง'
อะมาล ซาอัด อาจารย์ด้านการเมืองที่มหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์ ในโพสต์บนแพลตฟอร์มทวิต X กล่าวว่า ความสามารถของกองทัพอิหร่านในการต่อสู้กับดินแดนที่ถูกยึดครองแสดงให้เห็นถึง “การโจมตีทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญ” สำหรับระบอบการปกครองที่ยึดครองการแบ่งแยกเชื้อชาติ
ซาอัด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่อง “อักษะแห่งการต่อต้าน" (Axis of Resistance) เขียนไว้ว่า “แม้ว่าการโจมตีด้วยโดรนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์จะไม่ส่งผลให้เกิดการทำลายล้างครั้งใหญ่และการบาดเจ็บล้มตายทางทหารในระดับสูง ความสามารถของอิหร่านในการนำสงครามมาสู่อิสราเอล และสร้างความเสียหายต่อชีวิตประจำวันในระดับนี้ ถือเป็นการโจมตีทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญต่ออิสราเอล”
แดนนี ไฮฟอง นักวิเคราะห์ภูมิรัฐศาสตร์ในสหรัฐฯ กล่าวว่า "เกมจบลงแล้วสำหรับการไม่ต้องรับโทษของอิสราเอล"
ไฮฟองเขียน โดยอ้างถึงการระเบิดครั้งแรกของโดรนที่อิหร่านยิงไปยังปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง ว่า “อิหร่านได้ส่งโดรนที่เชื่องช้าหลายสิบลำเข้าโจมตีอิสราเอลด้วย โดรนขั้นสูงและขีปนาวุธร่อนในอนาคต”
“อิสราเอลจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการโจมตีสถานทูตอิหร่านในดามัสกัส ไม่ต้องพูดถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา” จบเกมเพื่อการไม่ต้องรับโทษของอิสราเอล”
เรซา นาสรี นักกฎหมายและนักวิเคราะห์นโยบายต่างประเทศ ตอบโต้ทวีตของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ริชิ ซูนัก ซึ่งเขาประณามการดำเนินการตอบโต้ของอิหร่าน โดยกล่าวว่า อิหร่านเป็นเพียงการใช้สิทธิในการป้องกันตัวเองเท่านั้น
นาสรีเขียน“นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรที่ไม่ได้รับเลือก ประณามอิหร่านที่ใช้สิทธิในการป้องกันตัวเองตามกฎหมายภายใต้กฎบัตรสหประชาชาติ แต่ไม่เคยประณามการโจมตีอย่างผิดกฎหมายของอิสราเอลต่อสถานทูตอิหร่านในซีเรีย และเขาไม่ได้ขยับนิ้วในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาเพื่อป้องกันการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ พลเรือน 35,000 คนในฉนวนกาซา”
อเล็กซ์ ชัมซี นักเขียนและนักวิจัยที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา มีข้อเตือนใจอย่างทันท่วงทีว่ารัฐบาลอิสราเอลเป็นต้นเหตุที่เริ่มรุกรานอิหร่าน และกระตุ้นให้อิหร่านตอบโต้
อเล็กซ์ ชัมซี โพสต์ว่า “ขอย้ำเตือนว่า อิสราเอลทิ้งระเบิดสถานทูตอิหร่านในซีเรียเมื่อวันที่ 1 เมษายน การโจมตีดังกล่าวถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย ขณะนี้อิหร่านกำลัง *ตอบโต้* ต่อการโจมตีของอิสราเอล”
Ashok Kumar นักเขียนและนักเคลื่อนไหวในโพสต์บนแพลตฟอร์ม X กล่าวว่า ในที่สุดท้องฟ้าในฉนวนกาซาก็ไม่มีเครื่องบินแล้ว
Ashok Kumar ทวีตว่า “นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ที่ตอนนี้ไม่มีเครื่องบินบินผ่านฉนวนกาซาแล้ว อันเป็นผลจากการโจมตีของอิหร่านต่ออิสราเอล และการประกาศยึดครองน่านฟ้า จะมีการหยุดยิงไม่ว่าพวกเขาจะชอบหรือไม่ก็ตาม”
อิบราฮิม มูซา ศาสตราจารย์ด้านแนวคิดอิสลามในสหรัฐฯ ตำหนิสื่อตะวันตกที่บิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการตอบโต้ของอิหร่านต่อระบอบการปกครองของอิสราเอล
มูซาเขียนว่า “สื่อของเราระบุว่าอิสราเอล “ถูกโจมตี” โดยอิหร่าน อิหร่าน “ตอบโต้” ต่อการโจมตีสถานกงสุลของตนในกรุงดามัสกัสโดยอิสราเอล โดยไม่ได้รับการยั่วยุ สื่อสหรัฐฯ บิดเบือน”
ชาร์มิเน นาร์วานี นักข่าวและคอลัมนิสต์เดอะเครเดิล อ้างถึงรายงานของช่อง 12 ของอิสราเอล ที่ยืนยันว่า มีขีปนาวุธ 7 ลูกโจมตีฐานทัพอากาศรามอนในเขตเนเกฟที่ถูกยึดครอง
เธอเขียนว่า “นี่คือฐานทัพอากาศที่อิสราเอลใช้ทิ้งระเบิดโจมตีภารกิจทางการทูตของอิหร่านในเมืองดามัสกัส IRGC กล่าวเมื่อคืนนี้ว่า อิสราเอลได้กำหนดเป้าหมายเฉพาะโครงสร้างทางทหารของอิสราเอลในการโจมตี กล่าวคือ “เป้าหมายทางทหารที่ถูกต้องตามกฎหมาย”
ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี
Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่