เหยื่อสงครามเคมีของอิหร่าน เป็นหลักฐานที่พิสูจน์ข้ออ้างสิทธิสิทธิมนุษยชนของชาติตะวันตกเป็นเรื่องไร้สาระ
เหยื่อสงครามเคมีของอิหร่าน เป็นหลักฐานที่พิสูจน์ข้ออ้างสิทธิสิทธิมนุษยชนของชาติตะวันตกเป็นเรื่องไร้สาระ

นักการทูตระดับสูงของอิหร่านออกมาโจมตีรัฐบาลตะวันตกที่ใช้มาตรการสองมาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชน โดยกล่าวว่า เหยื่อสงครามเคมีของสาธารณรัฐอิสลามเป็นหลักฐานที่ไม่อาจปฏิเสธได้ของความหน้าซื่อใจคดที่อยู่เบื้องหลังเรื่องเล่าเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในโลกตะวันตก

    กอเซ็ม การิบาดี รองรัฐมนตรีต่างประเทศฝ่ายกฎหมายและกิจการระหว่างประเทศ กล่าวว่า การที่ชาติตะวันตกไม่สนับสนุนและไม่ให้ความเคารพต่อสิทธิมนุษยชนนั้นเห็นได้ชัดเจนเป็นพิเศษเมื่อคำนึงถึงการสมรู้ร่วมคิดของประเทศชาติตะวันตกในการใช้อาวุธเคมีของซัดดัม ฮุสเซน อดีตผู้นำเผด็จการอิรัก ระหว่างที่ทำสงครามกับอิหร่านในกรุงแบกแดดเมื่อปีพ.ศ. 2523-2531

    วันศุกร์ (11 เม.ย.) การิบาบาดีกล่าวในโพสต์ทางโซเชียลมีเดีย “วันนี้ ผมได้ไปเยี่ยมเยียนกลุ่มวีรบุรุษของชาติ ซึ่งเป็นทหารผ่านศึกสงครามเคมีที่มีความอดทน ที่โรงพยาบาลซาซาน [ในเมืองหลวงเตหะราน]”

    “การเห็นความถึงเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานของพวกเขาทำให้ผมรู้สึกเศร้าใจ และการได้เห็นจิตวิญญาณแห่งความอดทนและความเพียรพยายามของพวกเขา รวมไปถึงของครอบครัวของพวกเขา ทำให้ผมอิจฉาพวกเขา”

    เขาบรรยายถึงทหารผ่านศึกเหล่านี้ว่าเป็น “ตัวแทนที่มีชีวิต” ของธรรมชาติที่ว่างเปล่าของการเรียกร้องสิทธิมนุษยชนของชาติตะวันตก โดยยกตัวอย่างประเทศต่าง ๆ เช่น เยอรมนีที่มีบทบาททางประวัติศาสตร์ในการเปิดใช้ศักยภาพอาวุธเคมีของอิรักภายใต้การปกครองของซัดดัม

ความสมรู้ร่วมคิดของชาวเยอรมัน 

    เจ้าหน้าที่อิหร่านอ้างถึงการมีส่วนร่วมของบริษัทเยอรมันในการจัดหาสารตั้งต้นและความรู้ทางเทคนิคให้กับระบอบการปกครองของซัดดัม ซึ่งทำการโจมตีด้วยสารเคมีต่อทหารและพลเรือนอิหร่านซ้ำแล้วซ้ำเล่าในระหว่างสงคราม

    การิบาดี กล่าวว่า “การผ่านไปของกาลเวลาไม่ได้ทำให้ความรับผิดชอบของเยอรมนีที่มีต่อความร่วมมือในการก่ออาชญากรรมสงคราม โดยระบอบการปกครองของซัดดัมลดน้อยลง”

    การิบาดี ยังชี้ให้เห็นถึงการที่สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านได้เสนออย่างเป็นทางการให้จัดตั้งกลไกการค้นหาข้อเท็จจริงแบบทวิภาคีกับเยอรมนีเพื่อตรวจสอบบทบาทของเบอร์ลินในการพัฒนาคลังอาวุธเคมีของอิรัก

    ตามที่นักการทูตกล่าวว่า ความคิดริเริ่มนี้มีรากฐานมาจากหลักการสิทธิมนุษยชนพื้นฐาน 2 ประการ ได้แก่ “ความจริงและความยุติธรรม”

    อิหร่านยังคงต้องทนทุกข์กับผลที่ตามมาจากสงครามเคมีที่ดำเนินการโดยระบอบบาอ์ธของซัดดัม ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างหนักจากประเทศตะวันตกหลายประเทศในระหว่างสงคราม

    พลเรือนและทหารอิหร่านหลายพันคนสัมผัสกับแก๊สมัสตาร์ดและสารอันตรายอื่น ๆ ในการโจมตีที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนและผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระบุว่า เป็นอาชญากรรมสงคราม

    สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านเรียกร้องหลายครั้งให้ประชาคมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะรัฐบาลตะวันตก ยอมรับบทบาทของตนในการเสริมอาวุธให้กับระบอบการปกครองของซัดดัม และให้การชดเชยและความช่วยเหลือทางการแพทย์แก่เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย

    นอกจากนี้ เตหะรานยังปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อท่าทีเชิงสัญลักษณ์ของรัฐผู้กระทำความผิดที่แสดงออกถึงความรับผิดชอบอย่างชัดเจนต่อความโหดร้ายดังกล่าว โดยระบุว่า ท่าทีดังกล่าวยังไม่สามารถตอบสนองต่อความรับผิดชอบที่เหยื่อต้องเผชิญได้


ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี

Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 94 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

25910260
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
434
8832
34283
25840582
98076
136052
25910260

ส 19 เม.ย. 2025 :: 02:25:41