ฮามาส ซึ่งเป็นขบวนการต่อต้านของชาวปาเลสไตน์ ได้ออกมาประณามการบุกรุกครั้งล่าสุดในบริเวณมัสยิดอัลอักซอ โดยนายอิตามาร์ เบน-กวีร์ รัฐมนตรีฝ่ายขวาจัดของอิสราเอล โดยกล่าวว่า การบุกรุกดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อปลุกปั่นให้เกิด “สงครามศาสนา” ต่อสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
กลุ่มฮามาสกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันพุธ (11 มิ.ย.) ว่า “การบุกรุกเข้าไปในมัสยิดอัลอักซออันศักดิ์สิทธิ์ของนายอิตามาร์ เบน-กวีร์ หรือที่เรียกกันว่ารัฐมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ และการดำเนินการเยี่ยมชมบริเวณมัสยิดดังกล่าวในลักษณะยั่วยุนั้น ถือเป็นการท้าทายและการละเลยความรู้สึกของชาวมุสลิมอย่างชัดเจน รวมถึงการไม่คำนึงถึงความศักดิ์สิทธิ์และสถานะของมัสยิดอัลอักซอในโลกอิสลาม”
ขบวนการดังกล่าวเน้นย้ำว่า การละเมิดที่เกิดขึ้น “ซ้ำแล้วซ้ำเล่า” นี้ เป็นการยืนยันถึงความเย่อหยิ่งของรัฐบาลหัวรุนแรงนี้ และความดื้อรั้นในการยุยงให้เกิดสงครามศาสนา
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า “เราขอเตือนเรื่องการบุกรุกที่เพิ่มมากขึ้นโดยผู้ตั้งถิ่นฐานและการประกอบพิธีกรรมทัลมุดของพวกเขาภายในเขตอัลอักซอ”
ฮามาสให้คำมั่นว่า ชาวปาเลสไตน์จะยังคงปกป้องมัสยิดอัลอักซอและเผชิญหน้ากับแผนการของอิสราเอลที่จะทำลายล้างชาวยิวและแบ่งแยกอัลอักซอ
กลุ่มดังกล่าวยังเรียกร้องให้เสรีชนในประเทศมุสลิมและอาหรับยืนหยัดสนับสนุนอัลอักซอ ท่ามกลางการบุกรุกที่เพิ่มมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน เบน-กวีร์และกลุ่มผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอลได้บุกเข้าไปในบริเวณมัสยิดอัลอักซอในเขตอัลกุดส์ตะวันออก (เยรูซาเล็ม) ที่ถูกยึดครอง และทำพิธีกรรมทางศาสนาในลานภายใน
เบน-กวิร์ บุกเข้าไปในบริเวณสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นอันดับสามสำหรับชาวมุสลิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า นับตั้งแต่เข้าร่วมคณะรัฐมนตรีของอิสราเอลในปีพ.ศ. 2565
ภายใต้ข้อตกลงที่ลงนามระหว่างอิสราเอลและรัฐบาลจอร์แดนภายหลังการยึดครองอัลกุดส์ของรัฐบาลในปี 1967 ห้ามมิให้ผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่มัสยิดศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ แต่การห้ามดังกล่าวเป็นเพียงวลีเท่านั้น และในทางปฏิบัติ สถานการณ์กลับไม่เอื้อต่อมุสลิม
การกระทำยั่วยุครั้งล่าสุดของอิสราเอลเกิดขึ้นในขณะที่ระบอบการปกครองยังคงเดินหน้าเครื่องจักรสงครามนองเลือดในฉนวนกาซา ซึ่งสังหารชาวปาเลสไตน์ไปมากกว่า 55,000 ราย
ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี
Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่