เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของอิหร่านกล่าวว่า สาธารณรัฐอิสลามอิหร่านอยู่ใน “ระดับความพร้อมทางทหารสูงสุด” และเตือนว่าการกระทำรุกรานใด ๆ จากสหรัฐฯ หรืออิสราเอลจะถูกตอบโต้อย่างรวดเร็วแบบไม่คาดคิด
เจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อกล่าวกับ Press TV ว่า “ขณะนี้อิหร่านอยู่ในระดับความพร้อมรบสูงสุด และหากสหรัฐฯ หรือระบอบไซออนิสต์พยายามก่อเหตุรุกราน พวกเขาจะถูกจับได้โดยไม่ทันตั้งตัว”
เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงลดความสำคัญของการย้ายตำแหน่งทางทหารของสหรัฐฯ ในภูมิภาคดังกล่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยเรียกว่าเป็นการตอบโต้เชิงป้องกันต่อคำเตือนของอิหร่านที่ว่า อิหร่านจะโจมตีผลประโยชน์และฐานทัพในภูมิภาคของอิหร่านในกรณีที่เกิดการรุกรานในประเทศ
เขากล่าวว่า “สิ่งที่ชาวอเมริกันกำลังทำ ไม่ได้เป็นการส่งสารคุกคามอิหร่าน แต่เป็นการตอบโต้ต่อภัยคุกคามของอิหร่านต่อผลประโยชน์ของพวกเขา”
คำพูดดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐฯ เริ่มอพยพบุคลากรบางส่วนออกจากภูมิภาคเอเชียตะวันตก เมื่อวันพุธ (11 มิ.ย.) กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินออกจากสถานทูตในกรุงแบกแดด และแนะนำให้ผู้ติดตามทหารออกจากฐานทัพในบาห์เรน คูเวต และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์โดยสมัครใจ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ยืนยันการย้ายครั้งนี้ โดยกล่าวว่า “พวกเขาถูกย้ายออกไปเพราะอาจเป็นสถานที่อันตราย เราได้แจ้งให้ย้ายออกไปแล้ว และเราจะดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ อ้างถึงความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นในภูมิภาคและข่าวกรองที่บ่งชี้ว่า อิสราเอลอาจกำลังเตรียมโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน กระตุ้นให้เกิดความกลัวว่าอิหร่านจะตอบโต้ต่อทรัพย์สินของอเมริกาในภูมิภาค
เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของอิหร่านกล่าวว่า เอกสารลับที่อิสราเอลรวบรวมได้เมื่อไม่นานมานี้ "ทำให้อิหร่านมีอำนาจด้านข่าวกรองเหนือกว่าแหล่งข้อมูลเป้าหมายของสหรัฐฯ และระบอบไซออนิสต์อย่างมาก"
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อิสมาอิล คาติบ รัฐมนตรีข่าวกรองแห่งอิหร่านได้ยืนยันว่า เอกสารต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงเอกสารเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ลับของอิสราเอล และบันทึกแผนและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านนิวเคลียร์ของอิสราเอล ได้รับการถ่ายโอนภายใต้ความลับสุดยอดไปยังอิหร่าน และจะถูกเผยแพร่ในเร็ว ๆ นี้
เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยังได้ชี้ให้เห็นถึงความก้าวหน้าล่าสุดในศักยภาพทางทหารของอิหร่าน รวมถึงการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลแบบหัวรบสองตันที่ประสบความสำเร็จ ตามที่พลจัตวา อาซีสนาซีร์ซาเดห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมประกาศ
เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวกล่าวว่า “ขณะนี้อิหร่านมีความสามารถในการโจมตีศัตรูแบบกะทันหันด้วยการโจมตีก่อนอย่างรุนแรงก่อนที่ศัตรูจะเคลื่อนไหวใด ๆ”
เขากล่าวเสริมว่า ข้อความที่ขัดแย้งกันที่ออกมาจากวอชิงตันบ่งชี้ว่า พวกเขาไม่มี "การริเริ่มเชิงปฏิบัติในสนามรบ" และด้วยเหตุนี้จึงหันไปใช้สงครามจิตวิทยา
ในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ คณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน (SNSC) ระบุว่าประเทศจะโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ลับของอิสราเอล หากระบอบการปกครองเทลอาวีฟดำเนินการรุกรานสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน
SNSC กล่าวว่า ปฏิบัติการข่าวกรองที่ซับซ้อนนั้นเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่กว้างขึ้นของอิหร่านและเป็นปฏิบัติการลับเพื่อต่อต้านการโฆษณาชวนเชื่อของศัตรู
การโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านโดยอิสราเอลอาจทำให้การเจรจาระหว่างอิหร่านและสหรัฐฯ ต้องสะดุดลง และต้องหาข้อตกลงมาทดแทนข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ได้ถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงนี้ฝ่ายเดียวในช่วงวาระแรกที่เขาดำรงตำแหน่ง
ทรัมป์ขู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะ “ทิ้งระเบิด” อิหร่าน หากเตหะรานไม่บรรลุข้อตกลงใหม่เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตาม ทรัมป์กล่าวเมื่อไม่นานนี้ว่า เขาได้ปัดแผนการโจมตีอิหร่านของอิสราเอลเมื่อหลายเดือนก่อน และกล่าวว่า เขาต้องการให้โอกาสทางการทูต
อิสมาอิล บาเกอี โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า การเจรจาทางอ้อมรอบต่อไปกับสหรัฐฯ มีกำหนดจัดขึ้นที่กรุงมัสกัต เมืองหลวงของโอมานในวันอาทิตย์
ตั้งแต่เดือนเมษายน เตหะรานและวอชิงตันได้จัดการเจรจาทางอ้อมเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านมาแล้ว 5 รอบ
ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี
Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่