อิมามฮะซัน อัสกะรีย์ (อ.) เป็นอิมาม (ผู้นำ) ท่านที่ 11 ของสายธารอะฮ์ลุลบัยติ์ (อ.) ท่านถือกำเนิดในวันที่ 8 รอบีอุซซานี ฮ.ศ. 232 ท่านเป็นอิมามที่มีอายุที่แสนสั้น ท่านใช้ชีวิตทั้งหมด (28 ปี) อยู่ในค่ายทหารในเมืองซามัรรออ์ พร้อมกับท่านอิมามฮาดีย์ (อ.) บิดาของท่าน ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวดของระบอบปกครองเผด็จการของราชวงศ์อับบาซียะฮ์ หลังจากการเป็นชะฮีดของบิดาของท่าน สภาพดังกล่าวก็ยังคงดำเนินอยู่ และหลายครั้งที่ท่านถูกคุมขังอยู่ในคุกโดยบรรดาผู้กดขี่แห่งยุคสมัยของท่าน ระยะเวลาในการเป็นอิมามของท่านนั้นเพียงแค่ 6 ปี
ท่านอิมามฮะซัน อัสกะรีย์ (อ.) ก็เช่นเดียวกับบรรพบุรุษของท่านที่เพียบพร้อมไปด้วยคุณธรรมความดีทั้งมวล และเป็นผู้ที่บริสุทธิ์จากลักษณะที่เลวร้ายทั้งมวล คุณธรรมและความดีงามต่างๆ ของท่านนั้นไม่เพียงแต่หมู่มิตรและผู้ปฏิบัติตามท่านเท่านั้นที่กล่าวขานถึง ทว่าแม้แต่บรรดาศัตรูที่ร้ายกาจและมีความเกลียดชังท่านก็ยังต้องเอ่ยปากชื่นชมและยกย่องสรรเสริญท่าน เพื่อที่จะชี้ให้เห็นถึงความจริงข้อนี้ จะกล่าวถึงตัวอย่างหนึ่งไว้ ณ ที่นี้
ท่านอิมาม (อ.) คือภาพสะท้อนของคุณธรรมและความดีงาม
อะห์มัด บินอับดุลลอฮ์ บินคอกอน ซึ่งพ่อของเขาเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญในรัฐบาลของราชวงศ์อับบาซียะฮ์ เป็นหนึ่งในคณะเสนาบดี เป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่ต่อต้านและมีความเป็นศัตรูต่อบรรดาอิมามแห่งอะฮ์ลุลบัยติ์ (อ.) เขารับผิดชอบหน้าที่ในการจัดเก็บและดูแลเกี่ยวกับภาษีอากรต่างๆ ในเมืองกุม เขากล่าวว่า
ما رأيتُ و لا عرفتُ بسرّمنرأى، رجلاً من العلوية مثل الحسن بن على فى هديه و سكونه و عفافه و نبله و كرمه
“ฉันไม่เคยเห็นและไม่เคยรู้จักใครที่อยู่ในแนวทางของอะลีที่อยู่ในเมืองซามัรรออ์นี้ ที่จะเหมือนกับฮะซัน บินอะลี ในด้านความสุขุม ความสงบเสงี่ยม การระมัดระวังตนจากสิ่งต้องห้าม การให้ และความเอื้ออารีของเขา”
วันหนึ่งอบูมุฮัมมัด (อิมามฮะซัน อัสกะรีย์) ได้มาพบ อับดุลลอฮ์ บินคอกอน บิดาของฉัน ฉันมองไปยังเขาและได้เห็นคุณลักษณะของความยิ่งใหญ่ ความมีเกียรติและความสง่างามจากใบหน้าของเขา บิดาของฉันออกมาต้อนรับเขาด้วยการให้เกียรติอย่างมาก ฉันรู้สึกไม่พอใจและโกรธต่อการแสดงออกดังกล่าวของบิดาของฉัน ฉันจึงถามถึงเหตุผลของการแสดงความให้เกียรติดังกล่าว และขอให้ท่านบอกให้ฉันรับรู้ว่าบุคคลผู้นี้เป็นใครกัน บิดาของฉันกล่าวว่า
“เขาเป็นผู้นำของชาวชีอะฮ์ และเป็นบุคคลสำคัญแห่งครอบครัวบนีฮาชิม เขาเป็นผู้คู่ควรต่อฐานะความเป็นผู้นำของประชาชาติ (อุมมะฮ์) เนื่องจากมีคุณลักษณะที่งดงามต่างๆ อย่างเช่น คุณธรรม ความบริสุทธิ์ ความสุขุมเยือกเย็น การระวังตนจากความชั่ว ความสมถะ การไม่ยึดติดกับชีวิตทางโลก ความเคร่งครัดในอิบาดะฮ์ ความมีมารยาทที่งดงามและความยำเกรงต่อพระผู้เป็นเจ้า”
การส่งเสริมการรับใช้บริการสังคมและเพื่อนมนุษย์
อบูฮาชิม กล่าวว่า : วันหนึ่งฉันอยู่กับท่านอิมามฮะซัน อัสกะรี (อ.) ท่านได้กล่าวว่า
ان في الجنة بابا يقال له المعروف ، لا يدخله الا اهل المعروف
“ในสวรรค์นั้น มีประตูหนึ่งที่ถูกเรียกว่า “มะอ์รูฟ” จะไม่มีใครผ่านเข้าไปทางมันได้ นอกจากอะฮ์ลุลมะอ์รูฟ (ผู้ที่ทำคุณงามความดีต่อสังคมและรับใช้บริการเพื่อนมนุษย์)”
ทันทีที่ฉันได้ยินคำพูดนี้จากท่านอิมาม (อ.) ฉันได้ขอบคุณต่อพระผู้เป็นเจ้าและรู้สึกปีติยินดีอย่างมาก เนื่องจากหนึ่งในการกระทำในชีวิตประจำวันของฉันคือการให้บริการต่อประชาชนและตอบสนองความต้องการต่างๆ ของผู้ที่ประสบความทุกข์ยาก เมื่อสิ่งที่ฉันคิดอยู่ในใจของฉันจบลง ท่านอิมามได้มองมายังฉันและกล่าวว่า
نعم فدم علي ما انت عليه ، فان اهل المعروف في الدنياهم اهل المعروف في الاخرة ، جعلك الله منهم يا اباهاشم ورحمك
“ใช่แล้ว! ดังนั้นเจ้าจงปฏิบัติในสิ่งที่เจ้ากระทำต่อไปเถิด เพราะแท้จริงคนที่ทำคุณงามความดีในโลกนี้นั้น พวกเขาจะเป็นมีสถานะอันสูงส่ง (เข้าสู่ประตูมะอ์รูฟ) ในปรโลก โอ้อบูฮาชิมเอ่ย! ขออัลลอฮ์ทรงบันดาลให้เจ้าเป็นส่วนหนึ่งจากพวกเขา และทรงเมตตาแก่เจ้า”
(อัลมะนากิบ, อิบนุชะฮ์รอชูบ, เล่มที่ 4, หน้าที่ 464)
(ส่วนหนึ่งจากคุฏบะฮ์นมาซวันศุกร์ ณ มัสยิดซอฮิบุซซะมาน (อ.) คลอง 13 จ.ปทุมธานี)
บทความโดย : เชคมูฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ
Copyright © 2018 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่