เป้าหมายและปรัชญา (ฮิกมะฮ์) ของชีวิตทางโลก ในวจนะของอิมามฮาดี (อ.)
Powered by OrdaSoft!
No result.

เป้าหมายและปรัชญา (ฮิกมะฮ์) ของชีวิตทางโลก ในวจนะของอิมามฮาดี (อ.)

การรู้จักตนเอง สภาพแวดล้อมและจุดหมายสุดท้ายของการดำเนินชีวิต คือหนึ่งในสิ่งที่มนุษย์มีความกังวลมากที่สุด มุมมองหรือโลกทัศน์ที่มีต่อประเด็นเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของการดำเนินชีวิตของมนุษย์แต่ละคน คนที่มีความศรัทธาต่อพระเจ้าและเชื่อมั่นว่าพระองค์คือผู้สร้างสรรพสิ่ง เขาจะเข้าใจได้อย่างถูกต้องว่า มีเป้าหมายและปรัชญา (ฮิกมะฮ์) ที่สูงส่งได้ถูกกำหนดไว้ในการสร้างนี้

    เนื่องจากการที่มนุษย์มีที่มีความเชื่อมั่นว่า โลกแห่งการดำรงอยู่นี้มีเป้าหมาย ดังนั้นเขาจะไม่มองว่าชีวิตของตนเองว่างเปล่าและไร้เป้าหมายใดๆ เขาจะมีมุมมองเฉพาะต่อโลก เป็นมุมมองแบบผู้ที่ศรัทธามั่นในพระเจ้า และเขาจะไม่หลงลืมจากฮิกมะฮ์ (ปรัชญา) ของพระเจ้าในโลกนี้

     มนุษย์ยิ่งมีความศรัทธาและความเชื่อมั่นในพระเจ้ามากเท่าใด มุมมองของเขาที่มีต่อชีวิตทางโลกนี้ก็จะมีความเที่ยงแท้และถูกต้องมากเพียงนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้ที่มีความศรัทธา (อีหม่าน) มากที่สุดและสมบูรณ์ที่สุดนั้นคือบรรดามะอ์ซูม (อ.) เนื่องจากเราอยู่ในช่วงของการรำลึกถึงวันครบรอบปีการเป็นชะฮีดของท่านอิมามอะลี อันนะกี ในเนื้อหาต่อไปนี้เราจะมาพิจารณาถึงวจนะต่างๆ ของอิมาม (อ.) ท่านนี้ เกี่ยวกับการรู้จักโลก ในบางวจนะของท่านอิมามฮาดี (อ.) ท่านได้อธิบายถึงโลกนี้ว่าเป็นเหมือนสถานที่ทำการค้า โดยกล่าวว่า :

الدُّنیا سوقٌ، رَبِحَ فیها قَومٌ وخَسِرَ آخَرونَ

"โลกนี้คือตลาดที่ชนกลุ่มหนึ่งได้รับผลกำไรในมัน และชนอีกกลุ่มหนึ่งได้รับความขาดทุน" (1)

      มนุษย์ทุกคนที่ถือกำเนิดขึ้นมา ในความเป็นจริงแล้วเขาได้ย่างก้าวเข้าสู่ตลาดหนึ่งแล้ว ดังนั้นจำเป็นต้องอุตสาห์พยายามที่จะแสวงหาผลกำไรจากการดำเนินชีวิตให้ได้มากที่สุด การมองโลกด้วยมุมมองนี้จะเป็นสื่อทำให้มนุษย์ถือว่าตนเองมีเป้าหมายและมุ่งมั่นพยายามที่จะนำหน้าบุคคลอื่นๆ แน่นอนยิ่งว่าพ่อค้าทุกคนนั้นปรารถนาที่จะได้รับผลกำไรให้ได้มากที่สุด และจะต้องไม่ล้าหลังบุคคนอื่นๆ ทุกคนรู้ดีว่าการดำเนินชีวิตของมนุษย์ในโลกนี้นั้นมีความจำเป็นต่อกรณีต่างๆ อันเป็นเฉพาะ และมนุษย์เพื่อที่จะได้รับมาซึ่งสิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องอุตสาห์พยายาม ในวจนะอีกบทหนึ่งท่านอิมามอะลี อัลฮาดี (อ.) พร้อมกับการชี้ถึงประเด็นข้างต้นท่าน ซึ่งได้ชี้ถึงสิ่งที่มีความจำเป็นสำหรับชีวิตในปรโลกไว้ดังนี้ว่า :

اَلنّاسُ فِی الدُّنْیا بِالاَمْوالِ وَ فِی الآْخِرَةِ بِالاَعْمالِ

"มนุษย์มีชีวิตอยู่ในโลกนี้โดยอาศัยทรัพย์สิน และจะมีชีวิตอยู่ในปรโลกโดยอาศัยการกระทำความดี (อะอ์มาล)" (2)

     หมายความว่าการมีทรัพย์สินเงินทองและปัจจัยจำเป็นต่างๆ ทางด้านวัตถุเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับชีวิตทางโลกนี้ และการมีอะมั้ลซอและห์ (การกระทำที่เป็นสิ่งดีงาม) ต่างๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นสำหรับชีวิตในปรโลกเช่นเดียวกัน และทำนองเดียวกับที่มนุษย์เราจะคิดหาทางขจัดความต้องการต่างๆ ในชีวิตทางโลกนี้ของเขา ก็จำเป็นที่เขาจะต้องครุ่นคิดในการสนองตอบความต้องการต่างๆ สำหรับชีวิตในปรโลกของตนด้วยเช่นเดียวกัน และควรจะใช้โอกาสของชีวิตในโลกนี้เพื่อตระเตรียมเสบียงที่ดีงามสำหรับชีวิตปรโลกของตัวเองด้วย แต่ทว่าสิ่งใดที่มีความสำคัญกว่า ความพยายามเพื่อโลกนี้หรือว่าความพยายามเพื่อปรโลก?

    แน่นอนยิ่งว่าเราสามารถเปลี่ยนการงานต่างๆ ทางโลกทั้งหมดให้เป็นอะมั้ลซอและห์ (การงานที่ดีงาม) ได้ด้วยเจตนา (เหนียต) เพื่อพระผู้เป็นเจ้า และเราจะส่งมันล่วงหน้าไปในฐานะเสบียงสำหรับชีวิตในปรโลก แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่จะคงทนถาวรกว่าและจะสนองตอบและขจัดความต้องการต่างๆ ของมนุษย์ได้ยาวนานมากว่า ย่อมเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากกว่า ท่านอิมามฮาดี (อ.) ด้วยการพิจารณาถึงประเด็นนี้ ท่านได้เน้นย้ำให้เรารำลึกถึงช่วงเวลาแรกหลังความตาย ซึ่งเป็นสภาพที่ในช่วงเวลาดังกล่าวไม่มีใครที่จะให้การช่วยเหลือแก่เขาได้ ท่านได้กล่าวว่า :

اُذکُرْ مَصرَعَكَ بینَ یَدَی أهلِكَ؛ ولا طَبیبَ یَمنَعُكَ، ولا حَبیبَ یَنفَعُكَ

"จงรำลึกถึงช่วงเวลาแห่งความตายของท่าน ณ เบื้องหน้าครอบครัวของท่าน โดยที่ไม่มีหมอคนใดจะยับยั้งท่าน (จากความตาย) ได้ และไม่มีเพื่อนคนใดจะยังคุณประโยชน์ต่อท่านได้" (3)

    เมื่อมนุษย์รำลึกถึงช่วงเวลาเช่นนี้เขาก็จะเห็นถึงความสำคัญของการทำงานและความพยายามเพื่อชีวิตในปรโลก และจะเตรียมพร้อมตนสำหรับช่วงเวลาดังกล่าวและจะใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์ต่างๆ ของโลกนี้เพื่อปรโลกของตน มนุษย์ที่ตระหนักถึงความยากไร้และความต้องการแห่งปรโลกของตนนั้น เขาจะแสดงใบหน้าแห่งความอดทนของตนในการเผชิญหน้ากับปัญหาอุปสรรคต่างๆ โดยมุ่งหวังความพึงพอพระทัยจากพระผู้เป็นเจ้า และจะย่างก้าวเข้าสู่สนามของปัญหาต่างๆ เยี่ยงวีรบุรุษได้มากกว่าคนอื่น ๆ ท่านอิมามฮาดี (อ.) ยังได้กล่าวในเรื่องนี้อีกว่า :

إنَّ اللهَ جَعَلَ الدُّنیا دارَ بَلوی وَ الآخِرَةَ دارَ عُقبی وَ جَعَلَ بَلوَی الدُّنیَا لِثَوابَ الآخِرَةِ سَبَباً، وَ ثَوابَ الآخِرَةِ مِن بَلوَی الدُّنیا عِوَضاً

"แท้จริงอัลลอฮ์ได้ทรงกำหนดให้โลกนี้เป็นสถานที่แห่งการทดสอบ และทรงกำหนดให้ปรโลกเป็นสถานที่แห่งการตอบแทน และพระองค์ทรงกำหนดให้ความทุกข์ยากของโลกนี้เป็นสื่อสำหรับผลรางวัลแห่งปรโลก และผลรางวัลแห่งปรโลกนั้นคือสิ่งทดแทนจากความทุกข์ยากแห่งโลกนี้" (4)

     โดยความคิดเช่นนี้นั่นเองที่จะทำให้ผู้ศรัทธา (มุอ์มิน) มีความสามารถอย่างสูงที่จะเผชิญหน้ากับความทุกข์ยากต่างๆ และจะอดทนต่อความยากลำบากในโลกนี้เพื่อที่จะทำให้ตนมีค่าในปรโลก


เชิงอรรถ :

(1) ตุหะฟุลอุกูล, หน้าที่ 483 ; บิฮารุ้ลอันวาร, เล่มที่ 78, หน้าที่ 366, ฮะดีษที่ 6

(2) บิฮารุ้ลอันวาร เล่มที่ 78, หน้าที่ 368, ฮะดีษที่ 3

(3) บิฮารุ้ลอันวาร, เล่มที่ 78, หน้าที่ 370, ฮะดีษที่ 64

(4) ตุหะฟุลอุกูล  หน้าที่ 772


บทความ : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

Copyright © 2018 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 739 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

24780404
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
30312
52431
207786
24215661
1046069
1618812
24780404

พฤ 21 พ.ย. 2024 :: 17:12:01