เจ้าหน้าที่ IRGC : ความโกรธแค้นทั่วโลกต่ออิสราเอล ชัยชนะของปฏิบัติการพายุอัลอักซอ
เจ้าหน้าที่ IRGC : ความโกรธแค้นทั่วโลกต่ออิสราเอล ชัยชนะของปฏิบัติการพายุอัลอักซอ

หัวหน้าศูนย์อินติฟาดะฮ์ (การลุกฮือ) และกุดส์แห่งสภาประสานงานการเผยแพร่ศาสนาอิสลามของอิหร่านกล่าวว่า การเกลียดชังระบอบไซออนิสต์ไปทั่วโลกถือเป็นความสำเร็จที่โดดเด่นประการหนึ่งของปฏิบัติการพายุอัลอักซอ

    พลจัตวา ราเมซาน ชารีฟ กล่าวในการประชุมเนื่องในโอกาสพิธีรำลึกปฏิบัติการพายุอัลอักซอว่า ปฏิบัติการพายุอัลอักซอแสดงให้เห็นว่า ชาวปาเลสไตน์มีความแน่วแน่ในการยึดดินแดนของตนคืน

    เขากล่าวเน้นย้ำว่า ผลที่ตามมาของปฏิบัติการพายุอัลอักซอทำให้กลุ่มไซออนิสต์จำนวนมากต้องละทิ้งดินแดนที่ยึดครอง และในปัจจุบัน การสนับสนุนต่อประเด็นปาเลสไตน์ก็เพิ่มมากขึ้นในระดับนานาชาติ

    พลจัตวา ชารีฟกล่าวต่อไปว่า อัตราการกลับคืนสู่บ้านเกิดของผู้พลัดถิ่นชาวปาเลสไตน์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกัน จำนวนของกลุ่มไซออนิสต์ที่ออกจากดินแดนที่ถูกยึดครองโดยไม่มีเจตนาจะกลับก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

    ชารีฟกล่าวว่า “ในปัจจุบัน อัตราการกลับคืนสู่ดินแดนของผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์กำลังเพิ่มขึ้น และในเวลาเดียวกัน ตัวเลขการอพยพโดยไม่มีเจตนาจะกลับมายังดินแดนยึดครองของกลุ่มไซออนิสต์ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน”

    ตามที่เขากล่าว โดยอ้างอิงตัวเลขอย่างเป็นทางการที่เผยแพร่โดยระบอบไซออนิสต์เอง พบว่าชาวไซออนิสต์เกือบ 2 ล้านคน ได้อพยพออกจากดินแดนที่ถูกยึดครองนับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการพายุอัลอักซอในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2566 และคนจำนวนมากของพวกเขาไม่มีความตั้งใจที่จะกลับเข้ามาอีก

    เขาอธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์ในดินแดนที่ถูกยึดครองว่า เป็นผลดีต่อชาวปาเลสไตน์ โดยกล่าวว่า “จากการตรวจสอบสถิติพบว่า สถานการณ์กำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีต่อประเทศปาเลสไตน์ที่ถูกกดขี่ เช่นเดียวกัน คลื่นการสนับสนุนจากสาธารณชนทั่วโลกที่มีต่อปาเลสไตน์ก็รุนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับก่อนปฏิบัติการพายุอัลอักซอ ซึ่งเพิ่มพูนความหวังสำหรับอนาคตและชัยชนะของชาวปาเลสไตน์”

    พลจัตวา ชารีฟเตือนว่า การเคลื่อนไหวที่เป็นศัตรูต่าง ๆ ของระบอบไซออนิสต์ต่ออิหร่านหรือชาติอิหร่านจะได้รับการตอบโต้ด้วย "ความรุนแรงและบดขยี้" ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงอำนาจและความสามารถของอิหร่านในช่วงสงคราม 12 วันที่ถูกกำหนดไว้

    เขาย้ำว่า อิหร่านได้ยืนหยัดต่อต้านกลุ่มไซออนิสต์และอเมริกา โดยกล่าวว่า การเผชิญหน้ากัน 12 วันนั้นให้บทเรียน ชารีฟกล่าวถึงระบบการรุกและการป้องกันของอเมริกาที่วางไว้ภายใต้แรงกดดันอันหนักหน่วงของระบอบไซออนิสต์ว่า “เราได้ทำให้กลุ่มไซออนิสต์อ่อนน้อมถ่อมตนลงภายใต้แรงกดดันอันหนักหน่วงนั้น”

    ในเวลาเดียวกัน ชารีฟยังระบุถึงการสนับสนุนขบวนการต่อต้านว่า เป็นหน้าที่ของมนุษย์ ศาสนาอิสลาม และทางกฎหมาย

    เขากล่าวเสริมด้วยว่า เงื่อนไขต่าง ๆ ไม่เอื้ออำนวยให้ผู้ก่อตั้งและผู้สนับสนุนระบอบการปกครองอิสราเอลปกป้อง "กลุ่มอาชญากร" นี้อีกต่อไป โดยประณามกลุ่มไซออนิสต์ที่กระทำการนอกเหนือบรรทัดฐานทั้งหมด และเตือนว่า ขณะนี้พวกเขากำลังพยายามที่จะโจมตีกาตาร์ซ้ำอีกครั้งโดยการโจมตีอียิปต์


ที่มา : สำนักข่าว mehrnews

Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 282 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

27603975
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
4581
10193
46915
27469174
57012
403390
27603975

พฤ 06 พ.ย. 2025 :: 14:34:53