ศีรษะของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ในโบสถ์คริสต์แห่งหนึ่ง
Powered by OrdaSoft!
No result.
ศีรษะของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ในโบสถ์คริสต์แห่งหนึ่ง

ทหารของยะซีดซึ่งกำลังนำศีรษะของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ไปยังเมืองชาม (ดามัสกัส) นั้น ทุกที่ที่พวกเขาหยุดพัก พวกเขาจะนำศีรษะของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ออกมาจากหีบและจะเสียบไว้บนปลายหอก พวกเขาจะเฝ้ายามและคอยระวังศีรษะนั้นตั้งแต่ค่ำจนถึงเช้า และเมื่อถึงเวลาเช้า พวกเขาก็จะวางศีรษะลงไว้ในหีบอีกครั้ง จากนั้นจะออกเดินทางต่อ

    ในค่ำคืนหนึ่งระหว่างการเดินทาง พวกเขาได้หยุดพักเคียงข้างโบสถ์คริสต์แห่งหนึ่ง และก็เช่นเดียวกับทุกครั้งพวกเขาได้เอาศีรษะของท่านอิมาม (อ.) เสียบไว้บนปลายหอกและพิงหอกไว้กับกำแพงโบสถ์ กลางดึกบาทหลวงได้เห็นนูร (รัศมี) สาดส่องจากหอกขึ้นไปสู่ท้องฟ้า บาทหลวงได้ชะโงกศีรษะจากด้านบนของโบสถ์ไปยังพวกเขา และถามว่า

    "พวกท่านเป็นใครกัน?" พวกเขากล่าวว่า "พวกเราเป็นทหารของอิบนุซิยาด" บาทหลวงกล่าวว่า "นี่เป็นศีรษะของใครกัน?" พวกเขากล่าวว่า "ศีรษะของฮุเซน บุตรของอะลี บินอบีฏอลิบ บุตรของฟาฏิมะฮ์ บุตรีของท่านศาสดา” เขากล่าวว่า "ศาสดาของพวกท่านหรือ?" พวกเขากล่าวว่า "ใช่" เขากล่าวว่า "พวกท่านช่างเป็นคนชั่วร้ายเสียนี่กระไร! ถ้าหากพระเยซู (อีซา) มีบุตร พวกเราจะเถิดทูนเขาไว้เป็นแก้วตาดวงใจของเรา"

    จากนั้นเขาก็กล่าวว่า "ฉันมีเงินอยู่หนึ่งหมื่นดิรฮัม พวกท่านจงรับมันไว้และมอบศีรษะนี้ให้อยู่ในการดูแลของฉันจนถึงยามเช้าเถิด" พวกเขาได้กล่าวในระหว่างกันเองว่า “สิ่งนี้ไม่เป็นอันตรายใดๆ ต่อเรา" พวกเขาจึงมอบศีรษะให้บาทหลวงผู้นั้น และบาทหลวงก็ได้มอบเงินให้แก่พวกเขา

    บาทหลวงได้ทำความสะอาดและปะพรมน้ำหอมให้กับศีรษะของท่านอิมามฮุเซน (อ.) เขาได้นั่งลงและวางศีรษะนั้นลงบนเข่าและร้องไห้จนถึงเช้า เมื่อถึงเวลาเช้า เขาได้กล่าวกับศีรษะนั้นว่า :

 اشهد ان لا اله الا الله و ان جدك محمداً رسول الله

"ท่านจงเป็นสักขีพยานเถิดว่า ข้าพเจ้าของปฏิญาณว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ และมุฮัมมัด ตาของท่านคือ ศาสนทูตของอัลลอฮ์ และข้าพเจ้ารักท่านและเป็นบ่าวรับใช้ของท่าน"

    หลังจากนั้นเขาได้ละทิ้งโบสถ์และสิ่งที่มีอยู่ในนั้นทั้งหมด และได้มอบตนเป็นผู้รับใช้ของอะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) ในบันทึกทางประวัติศาสตร์ได้กล่าวว่า เช้าตรู่บรรดาทหารได้เอาศีรษะกลับคืนมาจากบาทหลวงและออกเดินทางต่อไป และเมื่อใกล้ถึงดามัสกัส พวกเขาได้กล่าวต่อกันว่า "เราจำเป็นต้องแบ่งเงินดิรฮัมกันตรงนี้ มิเช่นนั้นแล้วหากยะซีดเห็นมัน เขาจะยึดเอาไปจากพวกเราแน่นอน" เมื่อพวกเขาเปิดถุงเงิน พวกเขาก็พบว่าเหรียญดิรฮัมทั้งหมดนั้นได้กลายเป็นดินเผา โดยที่ด้านหนึ่งของมันมีโองการที่ 42 ของอัลกุรอานบทอิบรอฮีม ถูกเขียนอยู่บนมันว่า :

 وَلَا تَحْسَبَنَّ اللَّهَ غَافِلًا عَمَّا يَعْمَلُ الظَّالِمُونَ

“และเจ้าอย่าได้คิดว่าอัลลอฮ์จะทรงละเลยต่อสิ่งที่พวกอธรรมได้ประพฤติไว้”

    และอีกด้านหนึ่งมีโองการที่ 227 ของบทอัชชุอะรออ์ ถูกเขียนไว้ว่า :

 وَسَيَعْلَمُ الَّذِينَ ظَلَمُوا أَيَّ مُنقَلَبٍ يَنقَلِبُونَ

"และบรรดาผู้อธรรมจะได้รู้ว่า พวกเขาจะกลับกลับคืนไปสู่สถานที่ใด"

    พวกเขาจึงโยนเหรียญเหล่านั้นลงในแม่น้ำ "บัรดี"


อ้างอิงจากหนังสือ : นะฟะซุลมะฮ์มูม หน้าที่ 235


บทความ : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 656 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

20922054
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
17625
47468
17625
20515463
406591
2496676
20922054

อ 08 ก.ย. 2024 :: 09:45:57