โดยแท้จริงแล้วตะวันตกมีเป้าหมายอะไรจากการสร้างกระแสความเกลียดกลัวอิสลาม (Islamophobia) ให้เกิดขึ้นในโลก? กระแสความเกลียดกลัวอิสลามที่กำลังดำเนินอยู่ในโลกขณะนี้เป็นภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงต่อชาวมุสลิมหรือว่าเป็นโอกาส?
การพิจารณาถึงประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติจะทำให้รับรู้ถึงความจริงที่ว่า นับจากยุคสมัยของท่านศาสดาอาดัม (อ.) จวบจนถึงของท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) ซึ่งเป็นศาสดาท่านสุดท้าย และนับจากยุคแห่งการแต่งตั้งศาสดาท่านสุดท้ายจวบจนถึงการปรากฏกาย (ซุฮูร) ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) ผู้ที่มนุษยชาติกำลังรอคอยการมาของท่านนั้น การสร้างฟิตนะฮ์ (วิกฤตความชั่วร้าย) ต่างๆ ของพลพรรคของซาตาน (ชัยฏอน) เพื่อที่จะทำลายสาส์น (หมายถึงศาสนาอิสลาม) และภารกิจระดับโลกของท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) และแนวทางของอะฮ์ลุลบัยติ์ (อ.) ก็ได้เริ่มต้นขึ้น และจวบจนถึงขณะนี้ การสร้างฟิตนะฮ์ (วิกฤตความชั่วร้าย) เหล่านี้ก็ยังคงดำเนินอยู่ ในทุกโอกาสและทุกช่วงเวลาของประวัติศาสตร์ ฟิตนะฮ์เหล่านี้จะเพิ่มความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น โดยบรรดาสมุนรับใช้ของซาตาน (ชัยฏอน) โดยเฉพาะอย่างยิ่งลัทธิไซออนิสต์สากล ซึ่งมีความอาฆาตพยาบาทและความเกลียดชังอิสลามอยู่ในหัวใจ เราจะได้เห็นสิ่งเหล่านี้ปรากฏรูปโฉมใหม่ๆ ขึ้นในโลกปัจจุบันไม่เว้นแต่ละวัน
ความจริงก็คือ บรรดาศัตรูของอิสลาม หมายถึงบรรดาผู้นำทางการเมืองที่ต่อต้านอิสลามนั้น ในช่วงเวลาหนึ่งพวกเขาได้สร้างกลุ่ม “ตอลิบาน” และ “อัลกออิดะฮ์” ขึ้นมา แล้วต่อมาโดยอาศัยข้ออ้างในการต่อสู้กับตอลิบานและอัลกออิดะฮ์ พวกเขาได้กระทำการเข่นฆ่าห้ำหั่นชีวิตของชาวมุสลิมและชาวชีอะฮ์ และปัจจุบันนี้พวกเขาก็ได้สร้างกลุ่มก่อการร้าย “ดาอิช” (ISIS) ขึ้นมาและได้เข่นฆ่าทำลายชีวิตของชาวมุสลิม และด้วยข้ออ้างการปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้ พวกเขาได้แสดงพฤติกรรมและธาตุแท้ของลัทธิจักรวรรดินิยม นักล่าอาณานิคมและการการขับเคลื่อนกำลังพลต่างๆ ของตนเข้ามาในประเทศอิสลามทั้งหลาย โดยมีเป้าหมายที่จะพิชิตและครอบงำประเทศเหล่านี้ และขณะนี้ก็เช่นกัน โดยอาศัยแผนสมคบคิดที่หลอกลวงเกี่ยวกับเหตุการณ์ลอบสังหารพนักงานของนิตยสาร “ชาร์ลี เอ็บโด” และข้ออ้างเรื่องเสรีภาพในการแสดงออกในฝรั่งเศส พวกเขาก็ได้ทำลายล้างชีวิตของชาวมุสลิม [1]
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ พวกเขายังได้กล่าวกับชาวมุสลิมด้วยว่า “ถ้าหากพวกท่านไม่ต้องการที่จะถูกนับอยู่ในรายชื่อของผู้ก่อการร้ายแล้ว จำเป็นที่พวกท่านจะต้องละวางจากความเชื่อต่างๆ ของตน มิฉะนั้นด้วยเหตุผล (ข้ออ้าง) ของเสรีภาพและการปกป้องสิทธิของคนส่วนใหญ่ พวกท่านจะต้องถูกทำลายล้าง!” ทว่าในความเป็นจริงแล้วตะวันตกมีเป้าหมายอะไรจากการปลุกกระแสความเกลียดกลัวอิสลาม (Islamophobia) บางทีด้วยการวิเคราะห์ตรวจสอบเพียงเล็กน้อย ก็สามารถชี้ให้เห็นถึงเป้าหมายต่างๆ ที่สำคัญของตะวันตกในการสร้างกระแสความเกลียดกลัวต่ออิสลาม (Islamophobia) ในหมู่ประเทศในยุโรปในช่วงล่าสุดนี้ได้ ดูเหมือนว่าตะวันตกกำลังหาทางที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายสำคัญสองประการของตนในกระแสดังกล่าวนี้ นั่นคือ
เป้าหมายประการแรก : การสร้างกระแสความเกลียดกลัวอิสลาม (Islamophobia) จะทำให้เกิดผลกระทบที่เลวร้ายต่อการดำเนินชีวิตของชาวมุสลิมในตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาสตรีชาวมุสลิมเนื่องจากการแต่งกายแบบอิสลามและการสวมฮิญาบของพวกเธอ ดังนั้นจากกระแส (ความเกลียดกลัวอิสลาม) ดังกล่าวนี้จะทำให้บรรดาสตรีมุสลิมในประเทศต่างๆ ของตะวันตกถูกบังคับให้นั่งอยู่กับบ้าน ละวางจากการทำงานและละทิ้งจากการแสวงหาความรู้ในมหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งประเด็นดังกล่าวนี้เองจะเป็นสาเหตุในการกดดันทางด้านเศรษฐกิจต่อครอบครัวของชาวมุสลิมในตะวันตก หรือเป็นไปได้ว่าเพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ตกงานหรือสูญเสียอาชีพของตนไปและไม่ต้องทนทุกข์กับปัญหาต่างๆ ทางด้านเศรษฐกิจ จะทำให้พวกเขายอมเปลี่ยนพฤติกรรม วิธีชีวิตและการแต่งกายของตนเอง ซึ่งนั่นก็อาจจะก่อให้เกิดปัญหาและความขัดแย้งภายในครอบครัวของชาวมุสลิมติดตามมาเช่นกัน และในที่สุดแล้วก็จะเหมือนกับครอบครัวทั้งหลายของชาวตะวันตกที่พบกับการล่มสลายและตกอยู่ในอันตราย
เป้าหมายประการที่สอง : เป็นไปได้ว่าจากกระแสความเกลียดกลัวอิสลาม (Islamophobia) ที่เกิดขึ้นในหมู่ประเทศตะวันตกนั้น ตะวันตกต้องการบีบบังคับครอบครัวของชาวมุสลิมที่มีศรัทธามั่นและเคร่งครัดในศาสนาให้อพยพออกจากประเทศต่างๆ ในยุโรปและตะวันตก เนื่องจากพวกเขารู้ดีว่าการที่ครอบครัวของมุสลิมปรากฏตัวอยู่ในหมู่ประเทศตะวันตกนั้นจะเป็นสื่อในการแนะนำอิสลามที่แท้จริงให้ประชาชนชาวตะวันตกได้รู้จัก และท้ายที่สุดแล้วจะนำไปสู่แนวโน้มการศรัทธาต่อศาสนาอิสลามของชาวตะวันตกมากยิ่งขึ้น กระแสความเกลียดกลัวอิสลาม (Islamophobia) ที่กำลังดำเนินอยู่ในโลกขณะนี้เป็นภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงต่อชาวมุสลิมหรือว่าเป็นโอกาส?!
แม้ว่ากระแสความเกลียดกลัวอิสลาม (Islamophobia) จะเป็นความขมขื่นและความทุกข์ยากสำหรับชาวมุสลิมทุกคน แต่ก็นับได้ว่าเป็นโอกาสใหม่สำหรับการสร้างความสามัคคีและความเป็นเอกภาพ (วะฮ์ดะฮ์) ในหมู่ชาวมุสลิมทั้งมวลของโลก ในการเผชิญหน้ากับลัทธิจักรวรรดินิยมสากลและบรรดาสมุนรับใช้ของมัน และเช่นเดียวกันนี้จะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการแนะนำอิสลามที่แท้จริงแก่ชาวโลก โดยที่ชาวมุสลิมจะสามารถใช้ประโยชน์ขั้นสูงสุดจากโอกาสที่ได้เกิดขึ้นนี้ ดังเช่นที่ท่านอายะตุลลอฮ์คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามได้กระทำไว้เป็นแบบอย่าง และทำให้กระแสการหันมาศรัทธาต่ออิสลามเพิ่มรวดเร็วมากยิ่งขึ้นในกลุ่มประเทศตะวันตก จะเห็นได้จากกรณีที่สาส์นของท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติที่ส่งถึงบรรดาเยาวชนของตะวันตก ได้แจ้งข่าวดีถึงขอบฟ้าใหม่สำหรับเยาวชนชาวตะวันตกที่มีความกระหายต่ออิสลามอันบริสุทธิ์และการไล่ล่าหาความจริงต่างๆ เกี่ยวกับศาสนาอิสลามและการปฏิวัติอิสลาม
ด้วยเหตุนี้เอง หลังจากการดูหมิ่นต่อศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) ที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศสและการให้ความกระจ่างที่เกิดขึ้นภายหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะนี้ยอดขายคัมภีร์อัลกุรอานในยุโรปได้เพิ่มขึ้นอย่างน่าพิศวง [2]
เชิงอรรถ :
[1] ล่าสุดบรรดาผู้นำทางการเมืองของตะวันตกได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ ในการจัดให้มีการเดินขบวนใหญ่ขึ้นในกรุงปารีสเพื่อต่อต้านอิสลาม โดยอาศัยชื่อของเสรีภาพและประชาธิปไตยในการโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านอิสลาม เพื่อเป้าหมายที่ต้องการจะสกัดกั้นการขยายตัวของอิสลามที่แท้จริง
[2] http://www.farsnews.com/newstext.php?nn=13931103000431
แปล/เรียบเรียง : ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม
Copyright © 2017 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้อิสลามสำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่