วิกฤตไวรัสโคโรนา เผยถึงการไร้ความสามารถและความป่าเถื่อนของตะวันตก

วิกฤตไวรัสโคโรนา เผยถึงการไร้ความสามารถและความป่าเถื่อนของตะวันตก

ในการวิเคราะห์ของสื่อเลบานอนได้เปรียบเทียบพฤติกรรมของอิหร่านและบรรดารัฐบาลตะวันตกในช่วงการระบาดของไวรัสโคโรนา โดยเขียนว่า ไวรัสนี้ได้แสดงให้เห็นความว่างเปล่าของอารยธรรม วัฒนธรรม ศีลธรรมและความก้าวหน้าของสังคมตะวันตกได้ดีกว่าสิ่งอื่นใดทั้งหมด

     สำนักข่าวฟาร์สรายงาน : การระบาดของไวรัสโคโรนาได้เปิดประตูไปสู่การพูดคุยของบรรดานักวิชาการเกี่ยวกับค่านิยมและหลักการต่างๆ ด้านมนุษยธรรมอีกครั้ง ส่วนหนึ่งจากประเด็นเหล่านี้คือการเปรียบเทียบของท่านอายะตุลลอฮ์คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามที่ได้นำเสนอไว้ในเรื่องระหว่างพฤติกรรมของบรรดารัฐบาลของตะวันตกและประเทศอิสลามทั้งหลาย

     ในคำพูดล่าสุดท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึงการปล้นสะดมความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม, การเลือกปฏิบัติในการรักษาผู้ป่วย, วัฒนธรรมแบบวัตถุนิยมและการให้ความสำคัญต่อตัวเองของตะวันตก ซึ่งเปรียบเทียบกับวัฒนธรรมและพฤติกรรมของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน พร้อมกับยกย่องชื่นชมพฤติกรรมของประชาชนและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของพวกเขา

ตะวันตก จากการกล่าวอ้างถึงความก้าวหน้าจนถึงการเสื่อมศีลธรรม

     ดร. อะลี มาตาร์ (Ali Matar) นักวิเคราะห์ชาวเลบานอนได้ตีพิมพ์บทบันทึกลงในเว็บไซต์ข่าว "Al-Ahed" ของเลบานอน โดบได้เปรียบเทียบทั้งสองสังคมนี้ว่า : แม้บรรดาประเทศตะวันตกจะกล่าวอ้างความเจริญก้าวหน้า แต่การระบาดของโควิด-19 ในประเทศเหล่านี้ทำให้บรรดาผู้นำของประเทศตะวันตกต้องเผชิญกับการทดสอบอย่างหนัก เนื่องจากพวกเขากล่าวอ้างในเรื่องความรู้และคุณค่าต่างๆ ด้านมนุษยธรรม แต่ก็ต้องล้มเหลวในการทดสอบแรกของตน

      มาตาร์กล่าวต่อว่า : ตามคำพูดของผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม มนุษยชาติยังไปไม่ถึงขั้นของปลอดภัยและมีความสุข และตอนนี้ผู้คนหลายพันล้านกำลังเผชิญกับความวิตกกังวลและความสับสน ประเด็นนี้เห็นได้ชัดเจนมากกว่าในกลุ่มประเทศเสรีนิยม ซึ่งกล่าวอ้างการผูกขาดความเจริญก้าวหน้าไว้สำหรับตัวเองและแบ่งประเทศต่างๆ บนพื้นฐานผลประโยชน์ของตนเอง เป็นประเทศที่พัฒณาแล้วและกำลังพัฒนา การโฆษณาชวนเชื่อของตะวันตกดังกล่าวนี้ ทำให้ประชาชนของประเทศที่กำลังพัฒนารู้สึกถึงความต่ำต้อย เนื่องจากสื่อตะวันตกพยายามโฆษณาชวนเชื่อว่า อิสลามไม่สามารถชี้นำประเทศใดๆ ได้

      ในบทบันทึกนี้ได้กล่าวเสริมว่า : การระบาดของโคโรนาได้แสดงให้เห็นถึงวิกฤตต่างๆ ทางด้านสังคมและศีลธรรมของตะวันตก ท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) ได้กล่าวไว้ในหนังสือ "รัฐอิสลาม" ของท่านว่า แม้ว่าชาวตะวันตกจะไปถึงดาวอังคารและกาแลคซีอื่นๆ แต่พวกเขาก็จะไม่สามารถบรรลุสู่ความดีงามต่างๆ ทางด้านศีลธรรมและแก้ปัญหาสังคมของพวกเขาได้ เนื่องจากการแก้ปัญหาสังคมและความทุกข์ยากของพวกเขานั้นจำเป็นต้องอาศัยแนวทางต่างๆ ทางด้านความศรัทธาและจริยธรรม อำนาจทางวัตถุนิยม ความมั่งคั่งและการพิชิตธรรมชาติและอวกาศไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้อง เนื่องจากแนวทาง (ที่ถูกต้อง) นั้นคือ ความศรัทธา จริยธรรมและความเชื่อแห่งอิสลาม

การโฆษณาชวนเชื่อของตะวันตก เพื่อชี้นำว่าประเทศอิสลามไร้ความสามารถ

     ในบทบันทึกนี้เขียนต่อไปอีกว่า : บรรดาประเทศตะวันตกพยายามที่จะนำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการแยกศาสนาออกจากการเมืองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประเด็นที่ว่าอิสลามไม่สามารถบริหารจัดการสังคมได้ ท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) ได้เน้นย้ำในเรื่องนี้ว่า พวกเขาพยายามโฆษณาชวนเชื่อว่า อิสลามไม่ใช่ศาสนาที่มีเนื้อหาครอบคลุม มันไม่ใช่ศาสนา (แนวทาง) แห่งการดำเนินชีวิต ไม่มีกฎหมายสำหรับสังคม ... บรรดานักล่าอาณานิคมพยายามปลูกฝังให้เราให้เชื่อว่า อิสลามไม่ใช่รัฐบาล และไม่ถูกนับว่าเป็นระบอบปกครอง เป็นที่ชัดเจนว่าการโฆษณาชวนเชื่อนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการจากบรรดานักล่าอาณานิคม เพื่อทำให้ชาวมุสลิมออกห่างจากการเมืองและการปกครอง

     มาตาร์ ได้เขียนว่า : จากเหตุผลดังกล่าว นักล่าอาณานิคมจึงมีแผนการหลากหลายเพื่อที่จะครอบงำบรรดาประเทศอิสลาม ดังนั้นพวกเขาจึงทำการโฆษณาชวนเชื่อต่อต้าน "วิลายะตุลฟะกีฮ์" (อำนาจการปกครองของนักวิชาการศาสนา) เนื่องจากแนวคิดนี้เป็นอุปสรรคในการยับยั้งไม่ให้พวกเขาบรรลุเป้าหมายต่างๆ ของตน ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามก็ได้กล่าวย้ำเช่นกันว่า ศาสนาอิสลามนั้นมีเรื่องของการเมือง ความรู้และประเด็นต่างๆ ทางด้านสังคมอยู่ในตัวเอง ศาสนาคือสิ่งที่จะบริหารจัดการดำเนินชีวิตของมนุษย์ในทุกด้าน สถานการณ์ที่น่าสังเวชในยุโรปนี้เป็นผลมาจากการแยกวิทยาศาสตร์ออกจากศาสนา

อิสลาม คือแนวทางแห่งการดำเนินชีวิต

     มาตาร์ได้เขียนต่อไปอีกว่า : เป็นที่ชัดเจนว่า สิ่งที่วันนี้ได้นำเรามาถึงสภาพการณ์เช่นนี้ คือการออกห่างของการเมืองจากศีลธรรมและการแยกมันออกจากมิติต่างๆ ทางด้านจิตวิญญาณและคุณธรรม ดังนั้นศาสนาและการเมืองจึงไม่อาจแยกออกจากกันได้ หากไม่มีศาสนา การเมืองก็จะเบี่ยงเบนออกไปจากบทบัญญัติแห่งฟากฟ้า การเมืองของเราก็คือศาสนาของเรา และศาสนาของเราก็คือการเมืองของเรานั่นเอง

     การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของหน้าที่รับผิดชอบของประเทศทั้งหลายที่มีต่อประชาชนของตน ประเด็นนี้เราจะเห็นได้ในสาธารณรัฐอิสลามที่เริ่มต้นควบคุมการระบาดของเชื้อโคโรนาได้ ซึ่งตรงกันข้ามกับสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ยังไม่ประสบความสำเร็จที่จะทำเช่นสิ่งนี้ได้

     ในตอนท้ายของรายงานนี้ได้ย้ำว่า หากอิสลามถูกนำมาใช้อย่างถูกต้องในประเทศอิสลาม เหมือนดั่งที่ได้ถูกนำมาใช้ในอิหร่านหลังการปฏิวัติแล้ว มันจะสามารถชี้นำการดำเนินชีวิตได้อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีผู้นำอย่างเช่นท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) และอายะตุลลอฮ์คอเมเนอี ที่จะแสดงบทบาทการเป็นผู้ปกครองอิสลามและชี้นำประชาชนบนพื้นฐานของความรู้ ความยุติธรรมและความเป็นผู้นำที่ชาญฉลาด ประเด็นนี้เราจะเห็นได้ในการจัดการกับวิกฤตทั้งหมดที่เกิดขึ้นในอิหร่าน อย่างไรก็ตามอิหร่านภายใต้การชี้นำของบรรดาผู้นำ สามารถเอาชนะวิกฤตเหล่านี้ได้ แม้จะมีสงครามและการคว่ำบาตรที่อธรรมทั้งหมด ที่ถูกกำหนดโดยสหรัฐฯ แต่สหรัฐอเมริกาซึ่งตลอดเส้นทางการเมืองของตน แม้แต่ในการเผชิญกับวิกฤตโคโรนานั้น ไม่ได้แสดงพฤติกรรมอื่นใดออกมาจากตัวเอง นอกจากความลำพองตนและความป่าเถื่อน


ที่มา : สำนักข่าวฟาร์ส

แปลและเรียบเรียงโดย : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

Copyright © 2018 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 383 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

26836652
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
8008
8113
46330
26741995
211274
243345
26836652

พฤ 28 ส.ค. 2025 :: 20:51:44