ในในความเชื่อของคริสเตียนไซออนิสต์ การก่อตั้งรัฐยิวในปาเลสไตน์จะนำไปสู่การปรากฏตัว (เสด็จกลับมา) ของพระเยซูคริสต์ กษัตริย์ชาห์แห่งอิหร่านก็เป็นหนึ่งในตัวแทนของพวกไซออนิสต์ บุคคลแรกที่ต่อต้านแนวคิดนี้อย่างเปิดเผยคือท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฎ.) ในสุนทรพจน์หลายครั้ง ท่านได้เรียกร้องว่า อย่าปล่อยให้อเมริกาและอิสราเอล (ซึ่งสนับสนุนแนวคิดคริสเตียนไซออนิสต์) แทรกแซงในปัญหาต่างๆ ของอิหร่าน
ต้นกำเนิดของแนวคิดคริสเตียนไซออนิสต์ย้อนกลับไปก่อนการก่อตั้งรัฐอิสราเอล และแม้กระทั่งก่อนการเกิดขึ้นของลัทธิยิวไซออนิสต์ โดยการแปลพระคัมภีร์เป็นภาษาต่างๆ และเปิดให้สมาชิกทุกคนของสังคมเข้าถึงได้ บางคนพร้อมกับการศึกษา วิจัยและการอธิบายที่ได้กระทำนั้น ได้มุ่งความสนใจไปที่เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับยุคสุดท้าย (อาคิรุซซะมาน) และสัญญาณต่างๆ ของมัน และพยายามที่จะทำให้สัญญาณเหล่านั้นเกิดขึ้นจริงเพื่อเร่งการเสด็จกลับมาอีกครั้งของพระเยซูคริสต์ แนวคิดที่ว่าการก่อตั้งรัฐยิวในปาเลสไตน์จะเป็นสัญญาณของการกลับมาของพระเยซูคริสต์นั้น ได้รับการเสนอครั้งแรกโดยผู้นำโปรเตสแตนต์สองคนในศตวรรษที่ 17 (1)
คริสเตียนไซออนิสต์เชื่อในเจ็ดขั้นตอนที่จะเกิดขึ้นในยุคสุดท้ายตามลำดับต่อไปนี้ :
1. การกลับมาของชาวยิวยังปาเลสไตน์
2. การสถาปนารัฐยิวในปาเลสไตน์
3. การเทศนา (ตักเตือน) แก่วงศ์วานอิสราเอลและผู้คนทั่วโลกผ่านทางข่าวประเสริฐ (อินญีล)
4. ช่วงเวลาแห่งความปีติยินดีหรือความอิ่มเอิบ นั่นคือ การได้ขึ้นสวรรค์สำหรับทุกคนที่เชื่อในคริสตจักร
5. ช่วงเวลาเจ็ดปีแห่งการปกครองของดัจญาลหรือผู้ต่อต้านพระคริสต์ (แอนตี้ไครสต์) และความทุกข์ยากของชาวยิวและคนกลุ่มอื่นๆ
6. การเกิดขึ้นของสงครามอามาราเก็ดดอนหรือสงครามใหญ่ที่ครอบคลุม ซึ่งทั้งโลกจะถูกทำลาย (แน่นอนว่าในช่วงเวลาของสงครามครั้งนี้ พระเยซูคริสต์จะทรงพาคริสเตียนทั้งหมดขึ้นสู่ท้องฟากฟ้าและจากที่นั่นพวกเขาก็มองดูโลก)
7. ความพ่ายแพ้ของกองทัพดัจญาล (แอนตี้ไครสต์) และการสถาปนาการปกครองของพระเยซูคริสต์ โดยมีอัลกุดส์ (เยรูซาเล็ม) เป็นเมืองหลวง ในช่วงเวลานี้ชาวยิวจะศรัทธาในพระเยซูคริสต์ (2)
สาเหตุหนึ่งของความขัดแย้งอันยาวนานระหว่างท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฎ.) และกษัตริย์ชาห์ คือประเด็นปาเลสไตน์ อิสราเอล ชาวยิวทางการเมือง (ชาวยิวไซออนิสต์) และประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับมัน (3) ความจริงของคำกล่าวนี้จะเป็นที่ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยการทบทวนดูคำพูดต่างๆ และจุดยืนของท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฎ.) ในช่วงปีแรกๆ ของขบวนการอิสลามของชาวอิหร่าน แต่เนื่องจากความยืดยาวของหลักฐานต่างๆ เราจะขอนำเสนอถ้อยคำเพียงบางส่วนของท่าน ตัวอย่างเช่น ในสุนทรพจน์ครั้งหนึ่งของท่าน ท่านกล่าวว่า : "หากกษัตริย์ชาห์ไม่ทรงเป็นพันธมิตรกับชาวยิวไซออนิสต์ ทำไมพระองค์จึงไม่อนุญาตให้เราพูดต่อต้านแนวคิดไซออนิสต์เกี่ยวกับการสถาปนารัฐยิว ชาวยิวไซออนิสต์บอกว่ารัฐบาลเป็นของเรา ระบอบกษัตริย์และรัฐบาลใหม่จะต้องได้รับการสถาปนา... พวกเขาได้แทรกซึมเข้าไปในรัฐบาล (อิหร่าน) แล้ว พวกท่านจงกลัวพวกเขาเถิด ข้าพเจ้าเกรงว่า วันหนึ่งที่พวกท่านจะลืมตาขึ้นมาโดยที่พวกเขาได้ทำลายล้างการดำรงอยู่ของพวกท่านไปเสียแล้ว ข้าพเจ้ากลัวสิ่งนี้ พวกท่านจงทำลายพวกมันด้วยตัวเองเถิด หากพวกท่านไม่ทำ ก็จงปล่อยให้เราทำลายพวกมันเถิด” (4)
กิลเลส เคเปล (Gilles Kepel) กล่าวว่า : "หลังจากชาวยิว องค์ประกอบสำคัญอีกประการหนึ่งในทฤษฎีคริสเตียนไซออนิสต์ คือ การสถาปนารัฐยิวโดยอาศัยผู้อพยพชาวยิวไปยังดินแดนแห่งพันธสัญญา เพราะตามความเชื่อของพวกเขา พระเจ้าได้ทรงประทานดินแดนปาเลสไตน์แก่ชาวยิว และชาวปาเลสไตน์ไม่มีสิทธิ์ในดินแดนนั้น นอกจากนี้ การไม่สนับสนุนอิสราเอลจะส่งผลให้เกิดการลงโทษของพระเจ้า และจะทำให้พระคริสต์โกรธ พระคริสต์ทรงเป็นผู้สนับสนุนอิสราเอลและทรงแทรกแซงกิจการในตะวันออกกลางอยู่เสมอเพื่อประโยชน์ของรัฐบาลอิสราเอล! (5)
ดังนั้น การพูดถึงอิสราเอลของท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฎ.) จึงเป็นการพูดถึงองค์ประกอบทางความเชื่อที่สำคัญที่สุดของคริสเตียนไซออนิสต์ ท่านกล่าวในสุนทรพจน์ของท่านในช่วงเย็นของวันอาชูรอ ปี 1342 (ปีสุยคติของเปอร์เซีย) ว่า : "พวกเหล่านี้ต่อต้านอิสลาม อิสราเอลไม่ต้องการให้มีนักวิชาการในประเทศนี้ อิสราเอลไม่ต้องการให้มีอัลกุรอานอยู่ในประเทศนี้ อิสราเอลไม่ต้องการให้มีนักวิชาการศาสนาและข้อบัญญัติ (อะห์กาม) ของอิสลามอยู่ในประเทศนี้ อิสราเอลทำลายโรงเรียนสอนศาสนาด้วยมือของบรรดาสมุนทมิฬของตน พวกเขาต้องการยึดครองเศรษฐกิจของพวกท่าน พวกเขาต้องการทำลายการเกษตรและการค้าของพวกท่าน พวกเขาต้องการยึดครองความมั่งคั่งของประเทศนี้ ด้วยมือสมุนของพวกเขา และพวกเขาจะทำลายสิ่งเหล่านี้ที่เป็นอุปสรรคกีดขวาง อัลกุรอาน คืออุปสรรคกีดขวาง จำเป็นต้องถูกทำลาย นักวิชาการศาสนาคืออุปสรรคกีดขวาง จำเป็นต้องถูกกำจัด โรงเรียน (มัดรอซะฮ์) ฟัยซียะฮ์ คืออุปสรรคกีดขวาง จำเป็นต้องถูกทำลาย นักศึกษาวิชาการศาสนาอาจเป็นอุปสรรคขวางทางในอนาคต พวกเขาจะต้องถูกผลักลงจากดาดฟ้า ศีรษะและมือของพวกเขาจะต้องแตกหัก เพื่อที่อิสราเอลจะได้บรรลุผลประโยชน์ของตน รัฐบาลของเราดูหมิ่นเหยียดหยามเราด้วยการเชื่อฟังอิสราเอล (6) ท่านยังได้กล่าวในอีกที่หนึ่งว่า : "อะไรคือความเชื่อมโยงระหว่างกษัตริย์ชาห์กับอิสราเอลที่องค์กรความมั่นคงได้กล่าวว่า อย่าพูดถึงอิสราเอล อย่าพูดถึงกษัตริย์ชาห์ด้วย ความสอดคล้องกันของทั้งสองคืออะไร? กษัตริย์ชาห์คือชาวอิสราเอลอย่างนั้นหรือ? ในความเห็นขององค์กรความมั่นคง กษัตริย์เป็นชาวยิวกระนั้นหรือ?" (7)
ซัลแมน โชวาล (Zalman Shoval) อดีตเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหรัฐอเมริกา เชื่อว่า สาเหตุของความเป็นศัตรูของคริสเตียนไซออนิสต์ต่ออิสลามก็คือ เป้าหมายของกลุ่มรากฐานนิยมอิสลาม (Islamic Fundamentalism) คือการทำลายความเชื่อและขนบธรรมเนียมของชาวยิว-คริสเตียน และพวกเขายังเป็นสัญลักษณ์ของดัจญาลด้วย หรือผู้ต่อต้านพระคริสต์ (แอนตี้ไครสต์) ด้วยเหตุนี้ ในปี 2002 เจอร์รี่ ฟัลเวลล์ (Jerry Laymon Falwell Sr.) เรียกศาสดาแห่งอิสลามว่าเป็นผู้ก่อการร้าย! นอกจากนี้ เขายังได้กล่าวด้วยการเยาะเย้ย ถากถางและชี้ถึงพระจันทร์เสี้ยว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชาวมุสลิมด้วยว่า ชาวมุสลิมบูชาเทพเจ้าแห่งดวงจันทร์ ในขณะที่ชาวคริสเตียนไซออนิสต์บูชาพระเจ้าแห่งการสร้างสรรค์ จอห์น แอชครอฟต์ (John Ashcroft) รัฐมนตรียุติธรรมในสมัยรัฐบาลของบุช จูเนียร์ เรียกอิสลามว่าเป็นศาสนาแห่งความตาย เนื่องจากพระเจ้าของพระคริสต์ทรงสังเวยลูกของพระองค์เพื่อชีวิต แต่พระเจ้าของชาวมุสลิมสั่งให้พวกเขาสังเวยลูกๆ ของตนเพื่อศาสนา นิตยสารโมเซอร์ (Moser Magazine) ซึ่งอยู่ในเครือของสำนักงานวัฒนธรรมสหรัฐฯ แนะนำว่า ควรมีคัมภีร์เล่มอื่นมาแทนที่อัลกุรอาน เพราะอัลกุรอานเป็นบ่อเกิดของความชั่วร้ายและก่อให้เกิดผู้ก่อการร้าย (8)
ขบวนการเคลื่อนไหวต่อสู้ของท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฎ.) นับตั้งแต่เริ่มต้นได้ต่อต้านการทำให้สังคมกลายเป็นโลกียนิยม (Secularism) การแสวงหาสงครามอย่างบ้าคลั่ง และการเป็นปฏิปักษ์ต่ออัลกุรอานและอิสลาม ซึ่งมันได้ก่อตัวขึ้นเพื่อต่อต้านแนวคิดที่ไม่ใช่ศาสนาเหล่านี้ เกิดความเข้มแข็งและได้รับชัยชนะ และหลังจากนั้นก็นำศาสนาเข้าสู่เวทีการเมือง และต่อต้านการแสวงหาสงครามที่กดขี่ของมหาอำนาจทั้งหลาย ท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฎ.) เชื่อมโยงยิว อเมริกาและอิสราเอลเข้าด้วยกัน และแนะนำพวกเขาเป็นองค์ประกอบเดียว โดยกล่าวว่า : "นับจากนี้ไป ชาวยิว ชาวคริสต์และศัตรูของอิสลามและมุสลิม จะต้องเข้ามาแทรกแซงในทรัพย์สินและจิตวิญญาณของชาวมุสลิม ตรรกะของรัฐบาลชุดนี้และสมาชิกบางคนของมันคือการทำลายอิสลาม" (9)
แหล่งที่มา :
(1). บทความ “คริสเตียนไซออนิสต์”, นัซเซอร์ ซอฮิบ ค็อลก์, นิตยสารเมาอูด, ฉบับที่ 41, หน้า 14
(2). คริสเตียนไซออนิสต์ ต้นกำเนิดและการปรากฏขึ้นของมัน, นัซเซอร์ ซอฮิบ ค็อลก์, นิตยสารเมาอูด, ฉบับที่ 40, หน้า 32
(3). บทนำเกี่ยวกับทฤษฎีการเมืองของอิมามโคมัยนี, ศูนย์เอกสารหลักฐานของการปฏิวัติอิสลาม, หน้า 337
(4). ซอฮีเฟเย่ อิมาม, รวบรวมสุนทรพจน์ของท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฎ.), เล่ม 1, หน้า 390
(5). เจตจำนงของพระเจ้า : ชาวยิว คริสเตียน และมุสลิมบนเส้นทางที่จะพิชิตโลกอีกครั้ง, กิลเลส เคเปล (Gilles Kepel) แปลโดย อับบาส ออกอฮี, สำนักพิมพ์ฟัรฮังก์อิสลามี, เตหะราน, 1370
(6). ซอฮีเฟเย่ อิมาม, เล่ม 1, หน้า 244
(7). ซอฮีเฟเย่ อิมาม, เล่ม 1, หน้า 248
(8). คริสเตียนไซออนิสต์ ต้นกำเนิดและการปรากฏขึ้นของมัน, นัซเซอร์ ซอฮิบ ค็อลก์, นิตยสารเมาอูด, ฉบับที่ 40
(9). ซอฮีเฟเย่ อิมาม, เล่ม 1, หน้า 198
บทความ : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ
Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่