ผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามย้ำว่าการละเลยและการไม่ปฏิบัติตามอัลกุรอานจะก่อให้เกิดช่องโหว่ พร้อมกับกล่าวว่า : ช่างน่าเศร้าใจที่วันนี้บรรดาประเทศมุสลิมด้วยผลของการไม่ปฏิบัติตามอัลกุรอานจึงได้ประสบกับความล้าหลังและการครอบงำของพวกปฏิเสธ
ผู้เข้าร่วมการแข่งขันอัลกุรอานนานาชาติครั้งที่ 35 ได้เข้าพบกับผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามในเช้าวันนี้ (วันพฤหัสบดี 26 เมษายน 2561) ในพิธีนี้บรรดาคณาจารย์และบรรดาผู้ชนะการแข่งได้ร่วมกันอันเชิญคัมภีร์อัลกุรอาน ทำให้บรรยากาศของฮุซัยนียะฮ์อิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) หอมอบอวนไปด้วยพจนารถแห่งพระเจ้า
ในพิธีนี้ ท่านอายะตุลลอฮ์คอเมเนอีถือว่าแนวทางดียวที่จะทำให้อุมมะฮ์ (ประชาชาติ) อิสลามก้าวหน้าและเจริญรุ่งเรืองได้คือการปฏิบัติตามคัมภีร์อัลกุรอานและกล่าวว่า : การปฏิบัติตามคัมภีร์อัลกุรอานในความเป็นจริงแล้วก็คือการยึดมั่นต่อสายเชือกของอัลลอฮ์ และจะเป็นสื่อทำให้ชาวมุสลิมไม่ประสบกับความตกต่ำ ความเบี่ยงเบนและความต่ำต้อยไร้เกียรติทั้งในการดำเนินชีวิตส่วนบุคคล ทางสังคมและการเมือง
ท่านได้ย้ำว่าการละเลยและการไม่ปฏิบัติตามอัลกุรอานจะก่อให้เกิดช่องโหว่ พร้อมกับกล่าวว่า : ช่างน่าเศร้าใจที่วันนี้บรรดาประเทศมุสลิมด้วยผลของการไม่ปฏิบัติตามอัลกุรอานจึงได้ประสบกับความล้าหลังและการครอบงำของพวกปฏิเสธ
ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามยังได้กล่าวอีกว่า : บรรดาประเทศอิสลามเนื่องจากไม่ยึดมั่นต่ออัลกุรอานจึงประสบกับ "โรคความไร้เกียรติ" และการที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาได้กล่าวด้วยวาจาหยาบคายอย่างที่สุดว่า "หากไม่มีเรา ประเทศอาหรับบางประเทศก็ไม่สามารถที่จะดำรงอยู่ได้ด้วยระยะเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์" นั้น ก็เป็นผลมาจากโรคนี้
ท่านอายะตุลลอฮ์คอเมเนอีชี้ถึงโองการต่างๆ ของอัลกุรอาน พร้อมกับกล่าวว่า : อัลกุรอานบอกกับเราว่า ผู้ศรัทธา (มุอ์มิน) จำเป็นต้องยืนหยัดเผชิญหน้ากับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาและบรรดาจอมอหังการของโลก ประหนึ่งกำแพงที่มั่นคงแข็งแกร่ง มิฉะนั้นแล้วพวกเขาจะประสบกับความต่ำต้อยไร้เกียรติ ความเสื่อมเสีย การนองเลือดและความล้าหลัง
ท่านกล่าวเสริมว่า : นอกจากนี้อัลกุรอานยังบอกเราอีกว่า บรรดาผู้ศรัทธาจำเป็นต้องมี "ความสามัคคี" และ "ความสัมพันธ์ในความเป็นมิตรและความเป็นผู้คุ้มครองซึ่งกันและกัน" และจะต้องไม่มีความสัมพันธ์และการเชื่อมโยงอยู่กับแนวรบของพวกปฏิเสธศรัทธา แต่น่าเศร้าใจที่ในวันนี้เราได้เห็นบางประเทศอิสลามมีส่วนผูกสัมพันธ์กับระบอบไซออนิสต์ และผลของการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของอัลกุรอานนี้ ก็คือสงครามและอาชญากรรมต่างๆ ในภูมิภาคขณะนี้
ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามกล่าวว่า : "ท่านทั้งหลายจงดูสภาพของประชาชนเยเมนว่าพวกเขาประสบกับความทุกข์ยากอย่างไร ขนาดงานแต่งงานของพวกเขาได้กลายเป็นความทุกข์โศก หรือสภาพของประชาชนอัฟกานิสถาน ปากีสถานและซีเรีย ปัญหาทั้งหมดนี้ก็เนื่องมาจาก "วิลายะฮ์" (ความเป็นมิตรและผู้คุ้มครอง) ในระหว่างบรรดาผู้ศรัทธาด้วยกันได้ถูกหลงลืมและการเน้นย้ำต่างๆ ของอัลกุรอานไม่ได้ถูกนำมาปฏิบัติ
ท่านอายะตุลลอฮ์คอเมเนอีย้ำถึงประเด็นที่ว่าด้วยการปฏิบัติตามอัลกุรอานจะนำมาซึ่งเกียรติศักดิ์ศรี พร้อมกับเสริมว่า : "เป็นเวลาสี่สิบปีแล้วที่สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านได้ยืนหยัดเผชิญหน้ากับการระรานต่างๆ ของมหาอำนาจ และตาของบรรดาศัตรูจงบอดเถิดที่ต้องการทำลายระบอบนี้ ความก้าวหน้า ความสามารถและอำนาจของระบอบนี้ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ท่านถือว่าการท่องจำและการอ่านคัมภีร์อัลกุรอานเป็นบทนำของความเข้าใจและการปฏิบัติตามอัลกุรอาน และกำชับแนะนำเยาวชนให้ยึดถือมุมมองเช่นนี้ต่ออัลกุรอาน พร้อมกับกล่าวว่า : "หากการอ่านและท่องจำอัลกุรอานเป็นบทนำไปสู่การปฏิบัติตามแล้ว แน่นอนยิ่งวันพรุ่งนี้ของโลกของอิสลามก็จะดีกว่าวันนี้ และสหรัฐอเมริกาจะไม่สามารถที่จะกำหนดเส้นสำหรับประเทศทั้งหลายและข่มขู่ประชาชาติอิสลามได้อีกเลย
กดดูรูปภาพ
ที่มา : khamenei.ir
ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม
Copyright © 2017 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่.