กระทรวงต่างประเทศซาอุดีอาระเบียเตือนถึง "ผลเลวร้าย" จากแผนการของอิสราเอลที่จะขยายการตั้งถิ่นฐานที่ผิดกฎหมายในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง
ในแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ (29 มิ.ย.) กระทรวงกระทรวงต่างประเทศซาอุดีอาระเบียได้วิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของระบอบการปกครองอิสราเอลในการสร้างฐานที่มั่นใหม่ 5 แห่ง ในเขตเวสต์แบงก์ให้ถูกต้องตามกฎหมาย
คำแถลงระบุเสริมว่า ซาอุดีอาระเบียต่อต้าน “การละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศของอิสราเอลและมติความชอบธรรมระหว่างประเทศที่กำลังดำเนินอยู่”
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า “การละเมิดเหล่านี้บั่นทอนโอกาสในการสร้างสันติภาพและกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้ง และทำให้ความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาคและระหว่างประเทศไม่มั่นคง”
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีกระทรวงการคลังอิสราเอล ซึ่งเป็นกลุ่มหัวรุนแรง ได้ประกาศว่า คณะรัฐมนตรีด้านความมั่นคงได้อนุมัติให้มีการตั้งฐานที่มั่น 1 แห่ง ต่อ 1 ประเทศที่ยอมรับปาเลสไตน์เป็นรัฐฝ่ายเดียวเมื่อเดือนที่แล้ว
เมื่อเดือนที่แล้ว สเปน ไอร์แลนด์ และนอร์เวย์ให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการ โดยร่วมกับประเทศสมาชิกของสหประชาชาติมากกว่า 140 ประเทศที่ยอมรับสถานะรัฐของตนตลอดสี่ทศวรรษที่ผ่านมา
สโลวีเนียและมอลตายังระบุด้วยว่า พวกเขาวางแผนที่จะให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการ
ด่านตั้งถิ่นฐานทั้งห้าแห่งได้แก่ เอเวียตาร์, กีวาต อาซาฟ, สเด อิฟราอิม, เฮเลตซ์ และ อาโดเรม
องค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) ออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ ประณามแผนการขยายการตั้งถิ่นฐานใหม่ของอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์
ระบุว่า การกระทำและการตัดสินใจทั้งหมดที่อิสราเอลดำเนินการในฐานะมหาอำนาจยึดครองเพื่อสืบสานระบอบอาณานิคมในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง ถือเป็นโมฆะตามกฎหมายระหว่างประเทศและข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 2334 (2016)
ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี
Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่