เหตุระเบิดรถบัสหลายแห่งทำให้เกิดความหวาดกลัวในเมืองบัตยัม ใกล้กับเมืองเทลอาวีฟ ส่งผลให้ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอลเกิดความหวาดกลัว และทำให้การจราจรในเมืองหยุดชะงัก
ตำรวจอิสราเอลกล่าวว่า เกิดเหตุระเบิดบนรถบัสหลายคันในเมืองบัตยัมเมื่อเย็นวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
รถบัสเปล่าอย่างน้อย 3 คัน ถูกเผาหลังจากวัตถุระเบิดถูกวางอยู่บนรถ โดยรายงานว่าวัตถุระเบิดแต่ละชิ้นมีน้ำหนัก 5 กิโลกรัม
พบวัตถุระเบิดที่ไม่ทำงานอีก 2 ชิ้นบนรถบัสคันหนึ่ง โดยสื่ออิสราเอลอ้างว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะระเบิดในช่วงเช้าวันรุ่งขึ้น
พบอุปกรณ์ต้องสงสัยเป็นระเบิดอีกชิ้นที่สถานีรถไฟฟ้าในเทลอาวีฟ
รัฐบาลอิสราเอลได้สั่งระงับการจราจรของรถประจำทางและรถไฟ โดยเรียกร้องให้คนขับรถประจำทางทุกคนหยุดขับรถไปทั่วพื้นที่ที่ถูกยึดครอง และเข้ารับการตรวจสอบอย่างครอบคลุม
ตำรวจกล่าวในแถลงการณ์ว่า “ได้รับรายงานหลายฉบับเกี่ยวกับการระเบิดที่เกี่ยวข้องกับรถบัสหลายคันในสถานที่ต่าง ๆ ในเมืองบัตยัม”
แถลงการณ์ระบุว่า “ขณะนี้หน่วยเก็บกู้ระเบิดของตำรวจกำลังตรวจหาวัตถุต้องสงสัยเพิ่มเติม เราขอเรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงบริเวณดังกล่าวและเฝ้าระวังวัตถุต้องสงสัย”
เจ้าหน้าที่อิสราเอลกล่าวว่า มีข้อสงสัยว่าการโจมตีด้วยระเบิดรถบัสมีความเชื่อมโยงกับเมืองทุลคาเรมในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง
สื่ออิสราเอลรายงานว่า วัตถุระเบิดที่ระเบิดบนรถบัสแต่ละคันมีน้ำหนัก 5 กิโลกรัม และมีหนึ่งในนั้นเขียนว่า "แก้แค้นให้แก่ ค่ายพักพิงทุลคาเรม"
ระเบิดครั้งที่ 2 เกิดขึ้นที่ลานจอดรถห่างจากจุดเกิดเหตุครั้งแรกประมาณ 400 เมตร ส่วนระเบิดครั้งที่ 3 เกิดขึ้นห่างจากจุดเกิดเหตุสองจุดก่อนหน้านี้ประมาณ 4 กิโลเมตร
สื่ออิสราเอลรายงานว่า วัตถุระเบิดที่พบทางใต้ของเมืองเทลอาวีฟ มีแผนที่จะระเบิดพร้อมกันในเช้าวันพรุ่งนี้
สื่ออิสราเอลรายงานว่า อุปกรณ์ระเบิดทั้ง 5 ชิ้น มีจุดประสงค์เพื่อจุดชนวนระเบิดพร้อมกัน แต่ระเบิดได้เพียง 3 ชิ้น เท่านั้น
โทรทัศน์ช่อง 12 ของอิสราเอลรายงานว่า เหตุระเบิดครั้งนี้เป็น "การโจมตีของผู้ก่อการร้ายเชิงยุทธศาสตร์"
หนังสือพิมพ์ The Times of Israel อ้างคำพูดของนาย Haim Sargarof หัวหน้าตำรวจเขตเทลอาวีฟ ที่ระบุว่า อุปกรณ์ดังกล่าวมีลักษณะเหมือนกันทุกประการ และสามารถตั้งเวลาได้ และดูเหมือนจะเป็นของชั่วคราว
หน่วยงานขนส่งสาธารณะได้รับคำสั่งให้หยุดและตรวจสอบรถประจำทาง รถไฟ และรถไฟฟ้าระบบรางทุกสาย
ที่มา : สำนักข่าว mehrnews
Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่