นิตยสารอิเล็กทรอนิกส์ The Truth เปิดเผยรายละเอียดที่น่าตกใจเกี่ยวกับความโหดร้ายที่ก่อขึ้นโดยกองกำลังสนับสนุนเร็ว (RSF) ในประเทศซูดาน ซึ่งประกอบไปด้วยการสังหารหมู่ การกวาดล้างชาติพันธุ์อย่างเป็นระบบ และการใช้อาวุธเคมีที่ถูกห้ามในระดับนานาชาติกับพลเรือนในเอลฟาเชอร์
ในนิตยสาร The Truth (Al-Hakika) ฉบับที่ 30 เน้นย้ำถึงสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายในเมืองเอลฟาเชอร์ เมืองหลวงของดาร์ฟูร์เหนือ ซึ่ง กองกำลังสนับสนุนเร็ว (RSF) ได้เพิ่มการโจมตีโดยใช้ปืนใหญ่ โดรน และก๊าซพิษ
รายงานดังกล่าวระบุรายละเอียดว่า กองกำลังติดอาวุธ (RSF) ได้ปิดล้อมเมือง ตัดขาดการเข้าถึงอาหารและยา และโจมตีตลาด สถานพยาบาล และศูนย์พักพิงของผู้พลัดถิ่นอย่างไม่เลือกหน้า
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2568 กองกำลังสนับสนุนเร็ว (Rapid Support Forces) ได้สังหารพลเรือนมากกว่า 60 ราย หลังจากทิ้งระเบิดใส่ศูนย์พักพิงสำหรับผู้พลัดถิ่นในเมืองเอลฟาเชอร์ ทางตอนเหนือของดาร์ฟูร์ กองกำลังก่อการร้ายกลุ่มนี้ได้ระดมยิงพลเรือนเป้าหมายอย่างต่อเนื่องด้วยปืนใหญ่และโดรน ทำลายตลาด แหล่งน้ำ และสถานพยาบาล หลังจากปิดล้อมเมืองเอลฟาเชอร์อย่างเข้มงวดยิ่งขึ้น
คณะมนตรีอธิปไตยเปลี่ยนผ่านของซูดานและกระทรวงการต่างประเทศของซูดานประณามความเงียบของนานาชาติเกี่ยวกับอาชญากรรมที่ก่อขึ้นโดยกองกำลังสนับสนุนรวดเร็ว ซึ่งพวกเขาอธิบายว่าเป็น "อาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ" ต่อพลเรือนในเอลฟาเชอร์และเมืองอื่น ๆ อีกหลายแห่งในซูดาน
กองกำลังติดอาวุธนี้ได้ก่อเหตุสังหารหมู่อย่างเป็นระบบโดยอิงตามความเชื่อทางชนเผ่าและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ โดยมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานและบริการต่าง ๆ รวมถึงค่ายสำหรับผู้พลัดถิ่นภายในประเทศและที่พักพิง ซึ่งถือเป็นการฝ่าฝืนมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอย่างโจ่งแจ้งและละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างชัดเจน
ในขณะเดียวกัน สหประชาชาติเพียงแต่ประณามการโจมตีและอาชญากรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหล่านี้โดยไม่ใช้มาตรการที่เป็นรูปธรรมใด ๆ ต่อกลุ่มก่อการร้ายและผู้สนับสนุนกลุ่มนี้
ท่ามกลางความเงียบอันน่าอับอายของนานาชาติ กองกำลังสนับสนุนด่วนยังคงเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติภารกิจด้านอาชญากรรม โดยใช้โดรน อาวุธ และก๊าซเคมีพิษที่ถูกห้ามในระดับนานาชาติ ส่งผลให้พลเรือนหลายพันคนที่ติดอยู่ในเอลฟาเชอร์ เมืองหลวงของดาร์ฟูร์เหนือ และรัฐอื่นๆ อีกหลายรัฐต้องตกอยู่ในอันตราย
The Truth ในฉบับที่ 30 นำเสนอตัวเลขที่น่าตกใจเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในเอลฟาเชอร์ ดาร์ฟูร์เหนือ และเปิดเผยถึงอาชญากรรมที่เลวร้ายที่สุดของกองกำลังสนับสนุนเร็ว (RSF) ต่อมนุษยชาติต่อผู้ที่ถูกปิดล้อมโดยใช้กำลังในเอลฟาเชอร์ หลังจากที่พวกเขาขัดขวางการเข้าถึงอาหารและยา และเพิ่มการโจมตีเมืองด้วยโดรน ปืนใหญ่ และก๊าซเคมีต้องห้ามในระดับนานาชาติ
The Truth ได้เปิดเผยสถิติใหม่ล่าสุด โดยระบุถึงความรุนแรงทางเพศที่ก่อขึ้นโดยกองกำลังติดอาวุธในดาร์ฟูร์เหนือ รวมถึงการสังหารและบังคับเกณฑ์เด็กโดยทหารรับจ้างชาวโคลอมเบียที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
The Truth ยังนำเสนอคำให้การที่ร้ายแรงที่สุดจากทหารรับจ้างโคลอมเบียที่ต่อสู้กับกองกำลังสนับสนุนรวดเร็ว โดยให้รายละเอียดว่าพวกเขาถูกนำตัวมาที่ดาร์ฟูร์ได้อย่างไร และพวกเขากำลังทำอะไรอยู่
นอกจากนี้ The Truth ยังเปิดเผยถึงความพยายามของกองกำลังติดอาวุธในการขัดขวางการส่งตัวประชาชนหลายพันคนกลับบ้านในรัฐคาร์ทูม ผ่านการกำหนดเป้าหมายที่สนามบินคาร์ทูมอย่างเป็นระบบ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญทางประวัติศาสตร์ในการฟื้นฟูอธิปไตยทางอากาศ และการประกาศเปิดสนามบินอีกครั้งหลังจากปิดไปนาน 921 วัน
ที่มา : สำนักข่าว ตัสนีม
Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่