ปฏิกิริยาอันน่าประทับใจของมารดาชะฮีดซอและห์ อัล-อารูรี หลังจากได้รับข่าวการพลีชีพของลูกชาย + วีดีโอ
ปฏิกิริยาอันน่าประทับใจของมารดาชะฮีดซอและห์ อัล-อารูรี หลังจากได้รับข่าวการพลีชีพของลูกชาย + วีดีโอ

มารดาของชะฮีดซอและห์ อัล-อารูรี รองหัวหน้าสำนักงานขบวนการต่อต้านของอิสลามปาเลสไตน์ในกรุงเบรุต กล่าวตอบสนองต่อข่าวการพลีชีพของลูกชายของเธอ ขออัลลออ์ พระผู้เป็นเจ้าทรงเมตตากับเขา อย่าเสียใจและอย่าเศร้าโศกเลย ขอแสดงความยินดีกับการเสียชีวิตของเขา

     ตามรายงานนี้ ในวิดีโอที่เผยแพร่ มารดาของชะฮีดผู้พลีชีพรายนี้ หลังจากได้รับข่าวการลอบสังหารเป็นชะฮีด (มรณสักขี) ของลูกชายเธอ โดยระบอบไซออนิสต์ด้วยวิธีการที่รุนแรงและมีประสิทธิภาพ เธอตั้งข้อสังเกตว่า : หากว่าซอและห์ ลูกชายเขาเสียชีวิตแล้ว ขออัลลออ์ พระผู้เป็นเจ้าทรงเมตตากับเขา อย่าเสียใจและอย่าเศร้าโศกเลย ขอแสดงความยินดีกับการเสียชีวิตของเขา เขาเป็นคนเหมือนชาวกาซา เขาเคยบอกว่า เพื่อน ๆ ของเขาตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงเขา เขารักความตายมาก และขอบคุณพระผู้เจ้า ที่เขาทำได้สำเร็จแล้ว

    เมื่อคืนที่ผ่านมา (2 ม.ค) ระบอบการปกครองของไซออนิสต์ได้โจมตีสำนักงานของกลุ่มฮามาสในอัล-มุชราฟิยาห์ ซึ่งตั้งอยู่ชานเมืองทางตอนใต้ของเบรุต ด้วยการโจมตีด้วยโดรน หลังเหตุก่อการร้ายครั้งนี้ อิสมาอิล ฮานียะห์ หัวหน้าสำนักงานการเมืองของขบวนการฮามาส ได้ประกาศการเสียชีวิตเป็นชะฮีด ของซอและห์ อัล-อารูรี รองหัวหน้าสำนักการเมืองฮามาสและสหายผู้พลีชีพอีกหลายคนได้รับบาดเจ็บ

    ภายหลังเหตุการณ์ก่อการร้ายของระบอบไซออนิสต์ในการลอบสังหารชะฮีด ของซอและห์ อัล-อารูรี รองหัวหน้าสำนักงานขบวนการต่อต้านอิสลามปาเลสไตน์ในกรุงเบรุต ขบวนการฮามาสได้แจ้งให้ผู้ไกล่เกลี่ยทราบว่า การเจรจาทั้งหมดเกี่ยวกับการปล่อยตัวนักโทษในฉนวนกาซานั้น ระงับไว้จนกว่าจะมีประกาศต่อไป

    ในขณะเดียวกัน ขบวนการฮิซบอลเลาะห์ของเลบานอน เพื่อตอบโต้การลอบสังหารรองหัวหน้าสำนักงานการเมืองของกลุ่มฮามาส ประกาศเน้นย้ำว่า อาชญากรรมของการลอบสังหารผู้พลีชีพชาวปาเลสไตน์รายนี้จะไม่ได้รับคำตอบ

    ฮิซบอลเลาะห์ชี้ให้เห็นว่า พวกเขาถือว่าการลอบสังหารอัล-อารูรี และสหายผู้พลีชีพของเขาในเบรุต เป็นการโจมตีที่อันตรายต่อเลบานอนและอธิปไตยของประเทศนี้ และเน้นย้ำว่าการลอบสังหารครั้งนี้ มีข้อความทางการเมืองและความมั่นคง และการพัฒนาที่เป็นอันตรายในเส้นทางของ สงครามต่อต้านศัตรู


ที่มา : สำนักข่าวอัลอาลัม

Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่