เหตุการณ์วันที่ 13 มุฮัรรอม | สุนทรพจน์ของท่านหญิงซัยนับ (อ.) และการเป็นชะฮีดของอับดุลลอฮ์ บินอะฟีฟ
เหตุการณ์วันที่ 13 มุฮัรรอม | สุนทรพจน์ของท่านหญิงซัยนับ (อ.) และการเป็นชะฮีดของอับดุลลอฮ์ บินอะฟีฟ

ในวันที่ 13 เดือนมุฮัรรอม ปีฮิจเราะห์ศักราชที่ 61 เมืองกูฟะฮ์ได้เห็นเหตุการณ์ร้ายแรงและสำคัญหลายอย่างในวังของอุบัยดิลลาฮ์ อิบนิซิยาด ในวันนั้น ท่านหญิงซัยนับ (อ.) ได้เปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของอิบนุซิยาดให้ทุกคนได้เห็น และบอกเล่าข้อเท็จจริงต่างๆ ที่สำคัญเกี่ยวกับเหตุการณ์อาชูรอในท่ามกลางฝูงชน จากนั้นกองคาราวานของท่านหญิงก็ถูกควบคุมตัวไว้ในคุกของเมืองกูฟะฮ์

    ท่านหญิงซัยนับ (อ.) กล่าวในการอธิบายถึงเหตุการณ์อาชูรอว่า : "ฉันไม่เห็นสิ่งใดนอกจากความสวยงาม”

    ในวันที่ 13 เดือนมุฮัรรอม ปีฮิจเราะห์ศักราชที่ 61 เมืองกูฟะฮ์ได้เห็นเหตุการณ์ร้ายแรงและสำคัญหลายอย่างในวังของอุบัยดิลลาฮ์ อิบนิซิยาด ในวันนั้น ท่านหญิงซัยนับ (อ.) ได้เปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของอิบนุซิยาดให้ทุกคนได้เห็น และบอกเล่าข้อเท็จจริงต่างๆ ที่สำคัญเกี่ยวกับเหตุการณ์อาชูรอในท่ามกลางฝูงชน จากนั้นกองคาราวานของท่านหญิงก็ถูกควบคุมตัวไว้ในคุกของเมืองกูฟะฮ์ แต่ในสถานการณ์เช่นนั้นบรรดาสหายที่สัจจริงของท่านซัยยิดุชชุฮะดาอ์ (อ.) ไม่ได้นั่งนิ่งเฉย ตัวอย่างเช่น อับดุลลอฮ์ บิน อะฟีฟ ซึ่งกลายเป็นคนตาบอดเมื่อหลายปีก่อนระหว่างการสู้รบในสงครามซิฟฟิน และสูญเสียโอกาสที่จะร่วมทางกับท่านอิมามฮุเซน (อ.) ในวันอาชูรอ เขาได้ยืนขึ้นต่อต้านอิบนิซิยาดและเรียกด้วยฉายานามที่เลวร้ายที่สุดของเขาว่า "ลูกชายของมัรญานะฮ์" จนกระทั่งทำให้เขาต้องเป็นชะฮีดโดยน้ำมือของคนโฉดชั่วผู้นี้ และด้วยเหตุนี้เองเขาได้ทำให้ชื่อของตนถูกบันทึกอยู่ในหมู่ผู้เป็นชะฮีดในทางของท่านอิมามฮุเซน (อ.)

เชลยแห่งกัรบาลาในมัจลิสของอิบนุมัรญานะฮ์

    ในวันที่ 12 ของเดือนมุฮัรรอม เชลยศึกแห่งกัรบาลาพร้อมด้วยศีรษะของบรรดาชะฮีดได้ถูกพาเวียนไปตามตรอกซอยต่างๆ ของเมืองกูฟะฮ์ อุบัยดิลลาฮ์ อิบนิซิยาด ซึ่งด้วยเหตุผลที่แม่ของเขาเป็นหญิงชั่วและประพฤติตนเสื่อมทราม เขาจึงเป็นที่รู้จักกันดีในนาม “อิบนุมัรญานะฮ์” (ลูกชายของมัรญานะฮ์) ในวันที่ 13 เขาได้ออกคำสั่งให้นำครอบครัวของอะฮ์ลุลบัยติ์ (อ.) ซึ่งถูกควบคุมตัวเป็นเชลยมาจากกัรบาลาเข้าไปยังวังของเขา จากนั้นเขาสั่งให้นำศีรษะของท่านซัยยิดุชชุฮะดาอ์ (อ.) มาวางลงต่อหน้าบุคคลเหล่านั้นเพื่อเป็นสื่อที่เขาจะได้แสดงอำนาจบาตรใหญ่ของตน

    เมื่อเชลยแห่งกัรบาลาซึ่งนำโดยท่านอิมามซัจญาด (อ.) และท่านหญิงซัยนับ กุบรอ (อ.) ได้เข้าไปในวังของอุบัยดิลลาฮ์ในสภาพที่มือของพวกเขาเหล่านั้นถูกมัดด้วยเชือก พวกเขาก็ได้เห็นศีรษะอันบริสุทธิ์ของท่านอิมามฮุเซน (อ.) วางอยู่ในถาดเบื้องหน้าอิบนุมัรญานะฮ์

    บรรดาเจ้าหน้าที่ของอุบัยดิลลาฮ์ อิบนิซิยาด ได้นำผู้มีเกียรติเหล่านั้นมาหยุดยืนอยู่ต่อหน้าชายที่ชั่วร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ และเห็นพฤติกรรมที่หยาบช้าของลูกชายของมัรญานะฮ์ ในวันนั้นลูกชายของมัรญานะฮ์ ได้แสดงความอุกอาจต่อครอบครัวของท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) และต่อศีรษะของท่านซัยยิดดุชชุฮะดาอ์ (อ.) แต่เขาต้องเผชิญกับถ้อยคำอันเฉียบขาดและรุนแรงของท่านหญิงซัยนับ (อ.)

ฉันไม่เห็นสิ่งใดนอกจากความสวยงาม

    ท่านหญิงซัยนับ (อ.) เข้าไปสู่ที่ประชุมของอุบัยดิลลาฮ์ อิบนิซิยาด ในท่ามกลางเหล่าสตรี และเมื่อท่านนั่งลง บรรดาสตรีและเด็กๆ ก็มาห้อมล้อมอยู่รอบตัวท่าน ท่านหญิงซัยนับ (อ.) ก็เช่นเดียวกับท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ อัซซะฮ์รอ (อ.) มารดาผู้เป็นที่รักของท่าน ที่ระวังรักษาฮิญาบและการหลีกเลี่ยงจากสายตาของคนแปลกหน้า ท่านหญิงซัยนับ (อ.) ได้ผินใบหน้าของตนออกจากสายตาที่สกปรกของอิบนิซิยาด

    อิบนิซิยาดซึ่งสังเกตเห็นการหลบใบหน้าของท่านหญิงซัยนับ (อ.) แต่เขาไม่รู้จักท่าน เขาจึงถามว่า : "สตรีผู้นี้ที่ขยับตัวออกไปและสตรีอื่นๆ มาห้อมล้อมนางนั้นคือใครกันหรือ?" ท่านหญิงซัยนับ (อ.) ไม่ได้ตอบคำถามของเขา อบูอุบัยดะฮ์จึงถามซ้ำอีกครั้ง และหญิงรับใช้คนหนึ่งของเขาซึ่งรู้จักท่านในนาม “อะกีละฮ์ อาหรับ” (สตรีผู้ปราชญ์เปรื่องแห่งอาหรับ) และครูผู้สอนคัมภีร์อัลกุรอานของเหล่าสตรี นางจึงตอบว่า : "เธอคือซัยนับ (อ.) บุตรสาวของท่านศาสดาแห่งอิสลาม (ซ็อลฯ)"

    อิบนิซิยาด จึงกล่าวกับท่านหญิงซัยนับ (อ.) อย่างหยาบคายว่า : "มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์ผู้ซึ่งสังหารและทำให้ครอบครัวของเจ้าต่ำต้อยไร้เกียรติ และแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่พวกเจ้าพูดนั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าการโกหก!" ท่านหญิงซัยนับ (อ.) ได้กล่าวตอบโต้เขาในทันใดว่า : "มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์ผู้ทรงให้เกียรติแก่เราด้วยสื่อศาสดาของพระองค์ ซึ่งมาจากครอบครัวของเราและได้ชำระเราให้สะอาดบริสุทธิ์จากมลทิน นอกจากผู้ละเมิดแล้วไม่มีใครต่ำต้อยไร้เกียรติ และไม่มีใครโกหกนอกจากคนทำชั่ว และผู้ทำความชั่วนั้นไม่ใช่เรา แต่เป็นคนอื่น (หมายถึงเจ้าและบรรดาผู้ปฏิบัติตามเจ้า) และการสรรเสริญเป็นของพระผู้เป็นเจ้าเพียงผู้เดียวเท่านั้น"

    อุบัยดิลลาอฮ์กล่าวว่า : "เจ้าเห็นแล้วใช่ไหมว่าพระผู้เป็นเจ้าได้ทำกับครอบครัวของเจ้าอย่างไร!" ท่านหญิงซัยนับ (อ.) กล่าวตอบอย่างสวยงามและด้วยความกล้าหาญว่า :

مَا رَأَيْتُ إِلَّا جَمِيلًا ، هَؤُلَاءِ قَوْمٌ كَتَبَ اللَّهُ عَلَيْهِمُ الْقَتْلَ فَبَرَزُوا إِلَى مَضَاجِعِهِمْ ، وَ سَيَجْمَعُ اللَّهُ بَيْنَكَ وَ بَيْنَهُمْ فَتُحَاجُّ وَ تُخَاصَمُ ، فَانْظُرْ لِمَنِ الْفَلْجُ  يَوْمَئِذٍ ، ثَكِلَتْكَ أُمُّكَ يَا ابْنَ مَرْجَانَةَ

"ฉันไม่เห็นสิ่งใดนอกจากความสวยงาม พวกเขาเหล่านั้นเป็นผู้ที่อัลลอฮ์ได้ทรงกำหนดการถูกสังหารไว้แก่พวกเขาแล้ว และพวกเขาก็เชื่อฟังและรีบรุดไปยังหลุมฝังศพของพวกเขา และในไม่ช้า อัลลอฮ์จะทรงทำให้เจ้าและพวกเขาฟื้นคืนชีพขึ้นมาพร้อมกัน (ในวันกิยามะฮ์) และเจ้าจะถูกโต้แย้งและถูกร้องเรียน (ต่อหน้าพระพักตร์ของพระองค์) แล้วในวันนั้นมาดูกันเถิดว่าชัยชนะจะเป็นของใคร ขอให้แม่ของเจ้านั่งไว้ทุกข์ต่อเจ้าเถอะ โอ้ลูกของ มัรญานะฮ์!"

    อุบัยดิลลาฮ์รู้สึกหวั่นกลัวเมื่อได้ยินฉายานามและการพาดพิงเขาไปยังแม่ผู้เป็นหญิงชั่วของตน เขาต้องการที่จะฆ่าท่านหญิงซัยนับ (อ.) แต่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของเขาห้ามไม่ให้เขาทำเช่นนั้น ดังนั้นเขาจึงกล่าวด้วยความเดือดดาลและโกรธจัดว่า : "อัลลอฮ์ทรงเยียวยาจิตใจของฉันด้วยการสังหารฮุเซนพี่ชายผู้ก่อกบฏของเจ้าและครอบครัวที่ละเมิดฝ่าฝืนของเขา" ท่านหญิงซัยนับ (อ.) กล่าวว่า : "ขอสาบานด้วยชีวิตของฉัน เจ้าได้ฆ่าผู้อาวุโสของฉัน ตัดกิ่งก้านของฉัน และถอนรากถอนโคน (ครอบครัว) ของฉัน ถ้านี่คือการเยียวยาของเจ้า เจ้าก็ได้รับการเยียวยาแล้ว"

    อิบนิซิยาด ซึ่งไม่สามารถที่จะหาคำตอบโต้ใดๆ ต่อคำพูดที่กินใจและกล้าหาญของท่านหญิงซัยนับ (อ.) เขาได้แสดงความกลักขละอีกครั้งด้วยท่าทางที่โกรธจัดต่อหน้าครอบครัวของท่านอิมามอะลี (อ. ) และกล่าวว่า : “หญิงผู้นี้ก็เป็นเจ้าโวหารเหมือนกับอะลีพ่อของนาง และขอสาบานด้วยชีวิตของฉัน พ่อของเจ้าก็เป็นคนเจ้าโวหารและเป็นนักกวี" ท่านหญิงซัยนับ (อ.) กล่าวว่า : "โอ้ อิบนิซิยาด! เกี่ยวอะไรกันกับผู้หญิงและคนเจ้าโวหาร"

เชลยแห่งกัรบาลาถูกคุมขังในคุกของเมืองกูฟะฮ์

    อิบนุมัรญานะฮ์หลังจากพูดตะกุกตะกักต่อหน้าท่านหญิงซัยนับ (อ.) และเห็นว่าม่านแห่งอาชญากรรมและความอุกอาจที่ใหญ่หลวงของเขากำลังจะถูกเปิด เขาจึงส่งผู้มีเกียรติเหล่านั้นไปเข้าคุก ด้วยวิธีนี้ บรรดาเชลยแห่งกัรบาลาจึงถูกคุมขังในคุกของเมืองกูฟะฮ์เป็นเวลาประมาณเจ็ดวันเจ็ดคืน

ข่าวการเป็นชะฮีดของอิมามฮุเซน (อ.) ถูกแพร่ออกไปยังดามัสกัสและมะดีนะฮ์     

    ในปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่ 61 ดินแดนต่างๆ ของอิสลามได้ตกอยู่ภายใต้อำนาจการปกครองของยะซีด บินมุอาวิยะฮ์ บุคคลที่ชั่วร้ายที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ อุบัยดิลลาฮ์ อิบนุซิยาดซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองเมืองกูฟะฮ์โดยยะซีดและได้ปฏิบัติภารกิจของตนอย่างเสร็จสิ้นสมบูรณ์ในการสังหารท่านอิมามฮุเซน (อ.) และจับกุมครอบครัวของท่านเป็นเชลย ในวันที่ 13 ของเดือนมุฮัรรอมเขาได้ส่งจดหมายไปยังดามัสกัสและมะดีนะฮ์ ด้วยเหตุนี้เองที่ในวันนั้น ข่าวการเป็นชะฮีดของท่านอบาอับดิลลาฮ์ อัลฮุซัยน์ (อ.) ได้รับการเผยแพร่ออกไปในดินแดนเหล่านั้น

การเป็นชะฮีดของอับดุลลอฮ์ บินอะฟีฟ  

    สหายคนหนึ่งของท่านอิมามอะลี (อ.) ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองกูฟะฮ์ คืออับดุลลอฮ์ บินอะฟีฟ เขาคือผู้หนึ่งซึ่งเข้าร่วมสงครามญะมั้ลและสงครามซิฟฟีนในกองทัพของท่านอิมามอะลี (อ.) ในการปกป้องสัจธรรมและศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าและได้สูญเสียดวงตาทั้งสองข้างของตนไปในสงคราม ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงไม่สามารถเข้าร่วมต่อสู้กับศัตรูของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ในวันอาชูรอได้

    ในวันที่ 13 ของเดือนมุฮัรรอม อับดุลลอฮ์ บินอะฟีฟ ได้เห็นว่าอิบนุมัรญานะฮ์ได้ปฏิบัติต่อครอบครัวของท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) ด้วยความอุกอาจอย่างไร เมื่อเขาได้ยินคำพูดหยาบช้าของอิบนุซิยาด เขาจึงลุกขึ้นและตะโกนด้วยเสียงดังว่า : "หุบปากเสียเถิด โอ้ลูกชายของมัรญานะฮ์! คนที่โกหกนั้นคือเจ้าและพ่อของเจ้าที่ให้ตำแหน่งนี้แก่เจ้า โอ้ศัตรูของอัลลอฮ์! เจ้าฆ่าลูกหลานของศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) แล้วเจ้ายังจะมาพูดเช่นนี้ต่อหน้าผู้ศรัทธาอีกหรือ?”

    บรรดาเจ้าหน้าที่ของอิบนุซิยาดต้องการที่จะจับกุมเขา แต่ด้วยความช่วยเหลือจากครอบครัวและเผ่าของเขา ทำให้เขาได้รับคความปลอดภัย และได้กลับบ้านไป แต่แล้วเจ้าหน้าที่ชุดเดิมก็มาปิดล้อมบ้านของเขา แม้ว่าอับดุลลอฮ์ บินอะฟีฟจะตาบอด แต่เขาและลูกสาวของเขาก็แสดงความกล้าหาญอย่างมากมายต่อบรรดาเจ้าหน้าที่ของอิบนุซิยาด แต่ท้ายสุดเขาก็ถูกจับกุม จากนั้นก็ถูกสังหารจนเป็นชะฮีดด้วยน้ำมือของผู้ที่ชั่วร้ายที่สุด คือ อุบัยดิลลาฮ์ อิบนุ ซิยาด และได้กลายเป็นหนึ่งในบรรดาชะฮีดแห่งอาชูรอ


แหล่งอ้างอิง :

- นะฟะซุลมะฮ์มูม, เชคอับบาส กุมมี

- อัล ลุฮูฟ, ซัยยิดอิบนิฏอวูซ

- มักตะลุลฮุซัยน์ (อ.), บะห์รุลอุลูม

- มักตะลุลฮุซัยน์ (อ.), คอรัซมี

- อะอ์ยานุชชีอะฮ์, ซัยยิดมุห์ซิน อามีน

- นูรุลอัยน์ ฟี มัชฮะดิลฮุซัยน์ (อ.), อิสฟะรออีนี อิบรอฮีม บินมุฮัมมัด

- ออยิเนะฮ์ ดัร กัรบาลาสต์, มุฮัมมัดริฎอ ซังกะรี


บทความ : เชคมุฮัมมัดนะอีม ประดับญาติ

Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 397 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

25144393
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
8585
37028
8585
24887231
330096
1079962
25144393

อ 22 ธ.ค. 2024 :: 08:15:14