เหตุการณ์กัรบาลาเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการปนเประหว่างสัจธรรมกับความเท็จ
Powered by OrdaSoft!
No result.
เหตุการณ์กัรบาลาเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการปนเประหว่างสัจธรรมกับความเท็จ

ในเหตุการณ์กัรบาลา ศัตรูของอิสลามได้ผสมปนเปสัจธรรมและความเท็จเข้าด้วยกันในลักษณะที่ทำให้การแยกแยะสัจธรรมเป็นเรื่องยากมากสำหรับประชาชน และท้ายที่สุดก็ทำให้ผู้คน 30,000 คนมารวมตัวกันต่อต้านท่านอิมามฮุเซน (อ.) ในกัรบาลา และหลงคิดไปว่าความเท็จนั้นคือสัจธรรม ...

    มุสลิมที่แท้จริงนั้นคือผู้ที่เข้าใจสัจธรรมได้อย่างสมบูรณ์และจะแยกแยะความจริงออกจากความเท็จ กลยุทธ์ที่ใหญ่ที่สุดประการหนึ่งของบรรดาศัตรูของอิสลามก็คือการสร้างเส้นแบ่งที่ละเอียดอ่อนระหว่างสัจธรรมและความหลงผิดโดยการสร้างความคลุมเครือ (ชุบฮะฮ์) ให้เกิดขึ้น และทำให้ยากต่อการแยกแยะสัจธรรม ดังที่ท่านอิมามอะลี (อ.) กล่าวว่า :

                                  إنّما سُمِّيَتِ الشُّبهَةُ شُبهَةً لأنّها تُشبِهُ الحَقّ 

          "แท้จริงความคลุมเครือ ที่ถูกเรียกว่าความคลุมเครือนั้น ก็เนื่องจากว่ามันคล้ายกับสัจธรรม" (1)

    สิ่งที่ทำให้การแยกแยะสัจธรรมเป็นเรื่องยากก็คือการผสมปนเปมันเข้ากับความเท็จ ท่านอิมามอะลี (อ.) กล่าวในหะดีษอีกบทหนึ่งว่า :

أَمَا إِنَّهُ لَيْسَ بَيْنَ الْحَقِّ وَالْبَاطِلِ إِلاَّ أَرْبَعُ أَصَابِعَ. فسئل عليه السلام عن معنى قوله هذا، فجمع أصابعه ووضعها بين أذنه وعينه ثمّ قال: الْبَاطِلُ أَنْ تَقُولَ : سَمِعتُ ، وَالْحَقُّ أَنْ تَقُولَ : رَأيْتُ

          “พึงรู้เถิดว่า แท้จริงระหว่างสัจธรรม (ความจริง) กับความเท็จนั้นมันไม่ได้ห่างกันเลย นอกจากแค่เพียงสี่นิ้วเท่านั้น" มีผู้ถามท่านถึงความหมายของคำพูดนี้ ท่านจึงรวบนิ้วมือทั้งสี่ของท่านและวางมันลงระหว่างหูและตาของท่าน แล้วท่านก็กล่าวว่า : ความเท็จนั้นคือการที่ท่านพูดว่า : ฉันได้ยิน และความจริงคือการที่ท่านพูดว่า : ฉันเห็น” (1)

    แน่นอนว่าการผสมผสานระหว่างสิ่งถูกและผิดและสัจธรรมกับความเท็จนั้นไม่ได้หมายความว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะรับรู้ถึงสิ่งที่ถูกต้อง สิ่งนี้สามารถเป็นไปได้ แต่มีเงื่อนไขว่า เป้าหมายของเราคือการไปให้ถึงสิ่งนั้น ดังที่ท่านอิมามอะลี (อ.) ได้กล่าวในเรื่องนี้ว่า :

                             مَنْ كَانَ مَقْصَدُهُ اَلْحَقُّ أَدْرَكَهُ وَ لَوْ كَانَ كَثِيرُ اَللَّبْسِ                                                 

          “ผู้ใดก็ตามที่จุดหมายของเขาคือสัจธรรม เขาก็จะพบมัน แม้ว่าสัจธรรมนั้นจะถูกอำพราง (และทำคลุมเครือ) อย่างมากก็ตาม” (3)

    ตัวอย่างทางประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนที่สุดประการหนึ่งของการผสมปนเปความจริงกับความเท็จคือเหตุการณ์แห่งกัรบาลา ที่บรรดาศัตรูของอิสลามได้ผสมปนเปสัจธรรมและความเท็จเข้าด้วยกันโดยการสร้างความคลุมเครืออย่างมากมายขึ้น ในลักษณะที่ทำให้ประชาชนมองเห็นการยืนหยัดต่อสู้ของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ว่าเป็นความหลงผิด และเชื่อว่ามันคือตัวอย่างหนึ่งของการออกนอกศาสนา เนื่องจากประชาชนรู้ว่าการละทิ้งความศรัทธาและการออกจากศาสนานั้นเป็นความหลงผิด แต่พวกเขาไม่มีความสามารถแยกแยะได้ว่าตัวอย่างนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับการละทิ้งออกจากศาสนา และทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว การยืนหยัดต่อสู้ (กิยาม) ของท่านอิมามฮุเซน (อ.) คือตัวอย่างที่ชัดเจนของการยืนหยัดต่อต้านความเท็จ!

    หรือคลุมเคลือและความเคลือบแคลงอีกประการหนึ่งที่บนีอุมัยยะฮ์ได้สร้างภาพให้เกิดขึ้นในตัวท่านอิมามฮุเซน (อ.) ก็คือ พวกเขาให้ความหมายการยืนหยัดต่อสู้ของท่านอิมามว่าเป็นการแสวงหาอำนาจและตำแหน่งทางโลก

    เนื่องจากประชาชนทุกคนเชื่อว่าสังคมจำเป็นต้องมี "อมีรุลมุอ์มินีน" (ผู้นำของปวงศรัทธาชน) ซึ่งเป็นตำแหน่งอันศักดิ์สิทธิ์และจำเป็นต้องได้รับการเชื่อฟัง (วาญิบุฏฏออะฮ์) ด้วยเหตุนี้เองบนีอุมัยยะฮ์จึงได้แนะนำตัวอย่างของผู้มีสิทธิ์ในตำแหน่งนี้ว่าเป็นยะซีด  และประชาชนก็ไม่สามารถจะแยกแยะได้ว่าด้วยการละเมิดบทบัญญัติศาสนาและการทำชั่วอย่างเปิดเผยทั้งหมดของยะซีดนั้น เขาไม่สามารถจะเป็นตัวอย่างของผู้ที่คู่ควรต่อตำแหน่งที่สูงส่งนี้ได้

    บนีอุมัยยะฮ์ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของอิสลามในยุคนั้น สามารถผสมปนเปความจริงกับความเท็จ สัจธรรมกับความหลงผิดเข้าด้วยกันโดยการสร้างความคลุมเครือเหล่านี้จนทำให้ประชาชนทั่วไป (อะวาม) และแม้แต่ชนชั้นนำ (คอวาศ) บางคนของสังคมเกิดความสับสนในการแยกแยะสัจธรรมและความเท็จในลักษณะที่ประชาชนจำนวนมากยืนเผชิญหน้ากับท่านซัยยิดุชชุฮะดาอ์ (อ.) และเชื่อว่าการหลั่งเลือดอันบริสุทธิ์ของท่านอิมาม (อ.) นั้นเป็นสื่อที่จะทำให้พวกเขาได้เข้าใกล้ชิดกับพระผู้เป็นเจ้ามากขึ้น! ดังที่ท่ามซัจญาด (อ.) กล่าวว่า :

لَا يَوْمَ كَيَوْمِ الْحُسَيْنِ (ع) ازْدَلَفَ عَلَيْهِ ثَلَاثُونَ أَلْفَ رَجُلٍ يَزْعُمُونَ أَنَّهُمْ مِنْ هَذِهِ الْأُمَّةِ كُلٌّ يَتَقَرَّبُ إِلَى اللَّهِ عَزَّ وَ جَلَّ بِدَمِهِ وَ هُوَ بِاللَّهِ يُذَكِّرُهُمْ فَلَا يَتَّعِظُونَ حَتَّى قَتَلُوهُ بَغْياً وَ ظُلْماً وَ عُدْوَاناً

          “ไม่มีวันใดที่จะเหมือนกับวัน (แห่งการเป็นชะฮีด) ของท่านอิมามฮุเซน (อ.) อีกแล้ว เมื่อผู้คนสามหมื่นคนรวมตัวกันต่อต้านท่าน ในขณะที่พวกเขาคิดว่า พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งจากประชาชาตินี้ และพวกเขาทั้งหมดแสวงหาใกล้ชิดกับอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ด้วยการหลั่งเลือดของท่าน ในขณะที่ฮุเซนตักเตือนพวกเขาให้รำลึกถึงอัลลอฮ์ แต่ก็ไม่บังเกิดผลอะไร จนกระทั่งพวกเขาได้สังหารท่านอย่างอธรรม  กดขี่ และความเป็นศัตรู" (4)

    แต่ในทางตรงกันข้ามกับฝูงชนจำนวนมหาศาลเหล่านี้ที่ไม่สามารถแยกแยะสัจธรรมออกจากความเท็จได้นั้น คนจำนวนเล็กน้อยซึ่งเป็นสหายและผู้ช่วยเหลือของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ยืนอยู่ทางด้านขวาของประวัติศาสตร์และเลือกสัจธรรมที่แน่ชัดซึ่งนั่นก็คือท่านซัยยิดุชชุฮะดาอ์ (อ.)  ในความเป็นจริง บรรดาสหายผู้ช่วยเหลือของท่านอิมาม (อ.) นั้นเป็นประชาชาติหนึ่งและเป็นประชาคมหนึ่ง เนื่องจากในจำนวนคนกลุ่มน้อยนี้สามารถพบเห็นได้ตั้งแต่ชายชราอายุ 90 ปีไปจนถึงวัยรุ่นอายุ 13 ปี อีกทั้งชายและหญิง ชาวนา อุละมาอ์ (ผู้มีความรู้ศาสนา) และฟุกอฮาอ์ (นักนิติศาสตร์อิสลาม) โดยไม่คำนึงถึงอายุ เพศ อาชีพ และสถานะทางสังคม สิ่งที่ทำให้พวกเขาอยู่ทางด้านขวาของประวัติศาสตร์ก็คือการรู้จักและแยกแยะได้ระหว่างสัจธรรมกับความหลงผิด

    ในเหตุการณ์แห่งกัรบาลา บุคคลเช่นสุไลมาน บิน ซอร์ด คอซาอี ซึ่งเป็นหนึ่งในอุละมาอ์และฟุกอฮาอ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุคของเขา ตกขบวนจากการร่วมทางกับท่านซัยยิดุชชุฮะดาอ์ (อ.) เนื่องจากเขาไม่สามารถแยกแยะได้ระหว่างสัจธรรมกับหลงผิด แต่ในทางกลับกันวะฮับ ชาวคริสต์ ซึ่งเป็นมุสลิมเพียงไม่กี่วัน ยังไม่คุ้นเคยกับการนมาซและยังไม่เคยถือศีลอด และกล่าวโดยสรุปแล้วยังไม่คุ้นเคยทำอิบาดะฮ์แต่อย่างใด แต่เนื่องจากแยกแยะระหว่างสัจธรรมและความหลงผิดได้อย่างถูกต้อง เขาจึงกลายเป็นหนึ่งในสหายผู้ช่วยเหลือของท่านอิมามฮุเซน (อ.) และได้รับสถานะอันสูงส่งแห่งการเป็นชะฮีด


แหล่งที่มา :

(1.) นะฮ์ญุลบะลาเฆาะฮ์, สุนทโรวาทที่ 38

(2.) นะฮ์ญุลบะลาเฆาะฮ์, สุนทโรวาทที่ 141

(3.) ฆุร่อรุลหิกัม, อับดุลวาฮิด ตะมีมี ออมะดี, เล่มที่ 1, หน้า 655

(4.) อัลอะมาลี, เชคซอดูก, หน้า 463


บทความ : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 744 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

21397333
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
5780
54466
114835
20904429
881870
2496676
21397333

อ 17 ก.ย. 2024 :: 02:14:19